อุตสาหกรรมพัฒนาศักยภาพพื้นที่นครปฐม และสมุทรสาคร

นครปฐม - กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดตัวโครงการพัฒนาพื้นที่อย่างมีศักยภาพเพื่อรองรับการลงทุนในจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นายเสรี อติภัทธะ รองอธิบดีกรมโรงานอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดตัวโครงการพัฒนาพื้นที่อย่างมีศักยภาพเพื่อรองรับการลงทุนในจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อกำหนดพื้นที่อุตสาหกรรมที่เหมาะสม และสอดคล้องต่อผังเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลง

อีกทั้งเพื่อความเหมาะสมในการหาวิเคราะห์ข้อมูล และแก้ไขปัญหาที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์และตามหลักวิชาการ ตลอดจนเพื่อให้อุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ และเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนโดยการศึกษาข้อมูลพื้นฐานทุกมิติของแต่ละพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม

ร.อ.ธเนศ จันทกลิ่น ผู้อำนวยการสำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 4 ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า สำหรับการศึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่อย่างมีศักยภาพเพื่อรองรับการลงทุนในจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น จะครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ระยอง และชลบุรี โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูล และระดมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม

ได้แก่ การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในเรื่องโครงการสร้างพื้นฐาน ปัจจัยของพื้นที่สำคัญ ระบบลอจิสติกส์ พื้นที่อุตสาหกรรมและผังเมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม โดยการร่วมกันพิจารณาศึกษาข้อมูลที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมในอนาคต

อีกทั้งดำเนินการศึกษาเชื่อมโยงพื้นที่อุตสาหกรรมระหว่างจังหวัด เช่น ระบบการขนส่ง การพึ่งพาระหว่างโรงงาน แหล่งวัตถุดิบ ตลาดร่วม ตลอดจนศึกษาระบบการจำกัดมลพิษในพื้นที่อุตสาหกรรม ในด้านต่างๆ เช่น กากของเสีย มลพิษทางอากาศ และน้ำเสีย

สำหรับในจังหวัดนครปฐม มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 3,000 แห่ง เนื่องจากเป็นเขตปริมณฑล มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวก รวมถึงเป็นเส้นทางหลักลงสู่ภาคใต้ และมีพื้นฐานที่ดีด้านการเกษตรหรือเกษตรแปรรูป ทำให้โรงงานที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตรมีจำนวนมาก ทางจังหวัดนครปฐมจึงได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อการรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมที่จะต้องเหมาะสม มีความสมดุลในด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โครงสร้างสาธารณูปโภค และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน