กาญจนบุรี - อธิการบดี ม.ราชภัฏกาญจนบุรี ร่อนหนังสือถึง “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ชี้แจงการจัดเสวนาในหัวข้อ “สะพานมอญร้องไห้” ยันมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจัดเสวนา มีเพียงเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีในนาม “กลุ่มต้นน้ำแคว” มาขอใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น ส่วนคณาจารย์ที่เข้าร่วมแสดงความเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ก.ย.57 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้เสนอข่าวการจัดเสวนาในหัวข้อ “สะพานมอญร้องไห้” ที่ห้องประชุมศูนย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ภายหลังจากที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นกับสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งสะพานมอญเกิดจากวิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน ได้เกิดการแปรเปลี่ยนไปสู่ราชการ ทำให้เกิดการไม่ยอมรับทางสังคม
โดยในวันนั้น มี ผศ.เชิดชาย ดวงภมร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ผศ.ฟ้อน เปรมพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี นายจักรกฤษณ์ โพธิ์แพงพุ่ม อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ นายกำธร ล้อวงศ์งาม ภาคเอกชน ในนามกลุ่มต้นน้ำแคว นายณรงค์เดช นวลมีชื่อ อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี นายพิศิษฐ ยินดีวี เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาชน และภาคประชาชนใน จ.กาญจนบุรี เข้าร่วมเสวนา และมีนักศึกษาเข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักของการอนุรักษ์ และรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของสะพานแห่งศรัทธา ที่ชาวมอญมีความศรัทธาต่อหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังวิการาม
รายละเอียดการนำเสนอข่าวในวันนั้น ระบุว่า ในเวทีได้มีการเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่สะพานเริ่มสร้าง และความสำคัญของสะพานแห่งนี้ ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมใจ เชื่อมแผ่นดิน กลายเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา ซึ่งเกิดจากหลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำริ และควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง เพื่อให้ชาวบ้านสะดวกในการเดินทางติดต่อราชการ และไป-มาหาสู่กัน ไม่ได้เป็นสะพานที่สร้างโดยหน่วยงานราชการ และเนื่องจากเป็นสะพานไม้จึงเกิดความเสียหายตามกาลเวลา ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันซ่อมแซมตลอดมา
จนมาถึงเหตุการณ์ที่สะพานพังเสียหายขาดเป็น 2 ท่อน เมื่อวันที่ 28 ก.ค.56 และลำดับเหตุการณ์ในการดำเนินการของทางจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากเกิดเหตุ จนมาสู่กระบวนการที่ทางจังหวัดกาญจนบุรี ทำสัญญาว่าจ้างบริษัทเอกชนด้วยวิธีพิเศษในการซ่อมบูรณะสะพาน แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้
ล่าสุด ทางจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ หจก.ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้รับจ้างซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยจังหวัดจะจ่ายเงินค่าปริมาณงานให้ผู้รับจ้าง 10 ล้านบาท ภายใน 7 วันนับจากวันทำสัญญา (4 ก.ย.57)
สรุปเวทีเบื้องต้น คือ ไม่เห็นควรให้จังหวัดจ่ายเงิน 10 ล้านบาท ให้แก่ผู้รับเหมา เนื่องจากผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จตามสัญญา อีกทั้งเงินบริจาคได้เข้าสู่ระบบราชการ ดังนั้น การเบิกจ่ายควรจะทำตามระเบียบขั้นตอนของราชการ โดยเห็นควรให้มีการร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.และยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขณะที่กระทรวงมหาดไทย จะต้องออกมาชี้แจงในเรื่องการดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากชุมชนดำเนินการซ่อมแซมกันเอง ก็ระดมอาสาสมัครเข้าร่วมดำเนินงานการซ่อมสะพาน ร่วมกับชาว อ.สังขละบุรี เพื่อเชื่อมร้อยการดำเนินงานให้เกิดความสุขแก่ประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยจะทำเรื่องเสนอต่อ คสช.เพื่อดำเนินงานตรวจสอบการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยผ่านการนำเสนอเรื่องต่างๆ ให้แก่นายกสภามหาวิทยาลัย รับทราบ และให้มหาวิทยาลัยทำงานเชิงวิชาการเป็นข้อมูลสารสนเทศ สนับสนุนการจัดเวทีสาธารณะ ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีที่รับบริจาค และความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ภายหลังจากที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากชุมชนดำเนินการซ่อมแซมกันเอง ก็ระดมอาสาสมัครเข้าร่วมดำเนินงานการซ่อมสะพาน ร่วมกับชาว อ.สังขละบุรี เพื่อเชื่อมร้อยการดำเนินงานให้เกิดความสุขแก่ประชาชนอย่างแท้จริง
จากการเสนอข่าวออกไปในวันนั้น ล่าสุด วันที่ 12 กันยายน 2557 ดร.ณรงค์เดช รัตนานนท์เสถียร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 0553/1287 ถึง กองบรรณาธิการ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการนำเสนอข่าว
1.การเสวนาเรื่องสะพานมอญร้องไห้ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2557 เป็นการดำเนินการของเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี ในนามกลุ่มต้นน้ำแคว ซึ่งขอใช้สถานที่ห้องประชุมศูนย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ในการจัดเสวนา มิใช่การดำเนินการของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีแต่อย่างใด
2.ตามเนื้อหาข่าวที่ว่า ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยฯ จะทำเรื่องเสนอต่อ คสช.เพื่อดำเนินงานตรวจสอบการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยผ่านการนำเสนอเรื่องต่างๆ ให้แก่สภามหาวิทยาลัยรับทราบ และให้มหาวิทยาลัยทำงานเชิงวิชาการเป็นข้อมูลสารสนเทศ สนับสนุนการจัดเวทีสาธารณะ ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีที่รับบริจาค และความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ภายหลังจากที่เกษียณอายุราชการไปแล้วนั้น
มหาวิทยาลัยฯ ขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัยฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจัดเสวนาดังกล่าว แต่มีเพียงเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี ในนามกลุ่มต้นน้ำแคว มาขอใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และกรณีที่ปรากฏว่า มีผู้บริหารและอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เข้าร่วมเสวนาดังกล่าวนั้น เป็นการเข้าร่วมในนามส่วนบุคคล โดยมหาวิทยาลัยไม่ได้มอบหมาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องการให้ความเห็นใดๆ จึงเป็นการให้ความเห็นส่วนตัวของคณาจารย์ไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย ตลอดจนมหาวิทยาลัยฯ ไม่เคยมีความเห็น หรือมติตามที่ปรากฏเป็นข่าวในเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ หรือสื่ออื่นๆ แต่อย่างใด
และ 3.มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีพันธกิจ และหน้าที่ในการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา และสร้างองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มิได้เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจ หรือหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานราชการใดๆ