กาญจนบุรี - ทหารช่างกองพล 9 พร้อมชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี ระดมขนไม้แดงเข้าหน้างานลุยสร้างสะพานไม้มอญแล้ว ส่วนผลงานไม้ปูพื้นที่ทางผู้รับเหมา “ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์” ทำทิ้งไว้ คาดคงต้องรื้อทิ้งทำใหม่ทั้งหมด เหตุไม่ได้มาตรฐาน ด้านสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวังกะ เตรียมร้อง คสช.ตรวจสอบเงินบริจาค 10 ล้านบาท ที่จ่ายให้บริษัทผู้รับเหมา
จากกรณีจังหวัดกาญจนบุรี ยกเลิกสัญญาการว่าจ้างกับห้างหุ้นส่วน จำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ได้ทันตามสัญญา และที่ผ่านมา จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ว่าจ้างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยผู้ว่าจ้างยินยอมจ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ผู้รับจ้างเป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท ภายใน 7 วัน หลังทำสัญญา วันที่ 4 ก.ย.57 ที่ผ่านมา
สำหรับเงินจำนวน 10 ล้านบาท เป็นเงินที่ได้รับบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ทั้งสิ้น ส่วนการดำเนินการซ่อมสะพานแห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่กองพลทหารราบที่ 9 เป็นผู้สานต่อ ร่วมกับวัดวังก์วิเวการาม และชาวบ้านในพื้นที่
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันนี้ (10 ก.ย.) ร.ต.นพดล มิตรดำรง ผบ.หมวด ช.พัน.9 ร.1 กองพลทหารราบที่ 9 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ได้แบ่งงานกันทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา โดยมีการตรวจสอบไม้แปรรูปที่นำมาทำเป็นพื้นของสะพาน ซึ่งพบว่า ไม้ตะเคียนหนู ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด วัสดุภัณฑ์นำมาปูพื้นนั้น ไม่ได้มาตรฐาน สภาพไม้บางจุดมีร่องรอยการฉีกขาด ช่องห่างของไม้ก็ไม่อยู่ในระยะห่างเดียวกันกับของเดิม
นอกจากนี้ ยังพบว่าไม้ตะเคียนหนู บางแผ่นที่นำมาใช้ปูพื้นสะพานความหนาไม่เท่ากัน อีกทั้งยังพบว่าไม้บางแผ่นที่นำมาใช้ปูพื้นด้านล่างยังไม่ได้กะเทาะเปลือกออก
ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารที่มีหน้าที่ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องไม้ คาดว่าไม้ที่ทางห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.วัสดุภัณฑ์ นำมาปูพื้นสะพานทั้งหมดอาจจะต้องรื้อทิ้ง เฉพาะสะพานฝั่งชุมชนชาวมอญยาวประมาณ 28 เมตร ส่วนสะพานฝั่ง อ.สังขละบุรี ที่ทางผู้เหมาทำไว้ยาวประมาณ 9 เมตร อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่า ตอม่อที่ทางบริษัทต้องดำเนินการสร้างต่ออีก 5 ตับ ล่าสุด เหลืออยู่ 5 ต้นเท่านั้น ทั้งนี้ ช่วงสะพานที่ขาดออกจากกันที่เจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านจะดำเนินซ่อมร่วมกันยังคงเหลืออีกประมาณ 36 เมตร และหากต้องรื้อไม้ปูพื้นเพื่อทำขึ้นมาใหม่ ทหาร และชาวบ้านจะต้องทำใหม่ยาวถึง 73 เมตร
ร.ต.นพดล มิตรดำรง ผบ.หมวด ช.พัน.9 ร.1 กองพลทหารราบที่ 9 กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้ามาทำงานเป็นวันแรก โดยร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ สำหรับวันนี้คงยังทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะต้องตรวจสอบเกี่ยวกับจำนวนของไม้ทั้งหมดเสียก่อน ขณะนี้ได้เร่งขนย้ายไม้ที่ทางวัดมีอยู่เข้ามาที่หน้างาน ส่วนไม้ที่ทางผู้รับเหมามอบให้จะต้องตรวจสอบคุณภาพเสียก่อน และหากพบว่า ไม้ทั้งหมดที่มีอยู่ไม่เพียงพอก็จะต้องร่วมกันวางแผนต่อไป
นายสมเดช สังขละโสภา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี กล่าวว่า ผลกระทบที่ทางผู้รับเหมาได้ดำเนินการไว้ คือ 1.การไถปรับหน้าดินบริเวณริมตลิ่ง ซึ่งจะส่งผลให้หน้าดินถูกน้ำกัดเซาะพังทลาย 2.คุณภาพงาน เช่น ไม้ที่นำมาใช้เป็นไม้สด (ตัดใหม่) บางส่วนเป็นไม้ตะเคียนหนูที่มีอายุการใช้งานสั้น ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างของสะพานทั้งๆ ที่จะต้องเป็นไม้ตะเคียนทอง รวมทั้งการต่อไม้ และปรุงไม้ที่ไม่ได้มาตรฐาน 3.การดำเนินการงานที่ล่าช้าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ที่เห็นชัดเจนคือ ตัวเลขของนักท่องเที่ยวลดลง
ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดจะจ่ายเงิน 10 ล้านบาท ให้แก่ผู้รับเหมานั้น ชาวบ้าน และสังคมต่างตั้งคำถามคล้ายๆ กันว่า ทำไมจึงต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาทั้งๆ ที่ผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จ อีกทั้งเมื่อเทียบคุณภาพงานกันระหว่างที่ผู้รับเหมาทำกับของเดิมที่ช่างชาวมอญทำเทียบเท่ากันไม่ได้เลย ซึ่งของเดิมได้มาตรฐาน และมีความมั่นคงแข็งแรงกว่า โดยเฉพาะเรื่องของไม้ ซึ่งทีมช่างไม้ของหลวงพ่ออุตตมะ ได้ลองประเมินราคาค่าผลงาน ให้ราคาอยู่ที่ 3-5 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนเลย แทนที่จะเหลือเงินบริจาคเข้าวัดเพื่อทำนุบำรุงศาสนา กลับต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ตนจะทำหนังสือร้องเรียนไปยัง คสช.เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง