xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.พล.9 ขีดเส้นตาย “ป.รุ่งเรือง” 30 วัน สะพานมอญต้องเสร็จ ห้ามนำไม้นอกสัญญาเข้ามาแฝง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผบ.พล.9 พร้อมคณะรุดเจรจาฝ่ายขัดแย้งสร้างสะพานมอญ หลวงพ่ออุตตมะ เพื่อความปรองดอง พร้อมให้โอกาสบริษัท ป.รุ่งเรือง วัสดุภัณฑ์ อีก 30 วัน สะพานต้องเสร็จ และห้ามนำไม้นอกสัญญาเข้ามาแฝง หากพบสั่งให้หยุดทันที

จากกรณี บริษัท ป.รุ่งเรือง วัสดุภัณฑ์ ผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยจังหวัดกาญจนบุรีเป็นผู้ว่าจ้างด้วยวิธีพิเศษ ด้วยวงเงิน 16,347,000 บาท เริ่มวันที่ 9 เม.ย.57 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 6 ส.ค.57 รวม 120 วัน แต่จากการดำเนินการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้วัดวังก์วิเวการาม และชุมชนชาวมอญ หมู่ 2 บ้านวักก์กะ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ไม่พอใจการดำเนินการของบริษัทดังกล่าวที่มีความล่าช้า และเริ่มมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้ว่าจ้าง ยกเลิกสัญญา พร้อมทั้งออกมาเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสื่อไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ออกมาช่วยเหลือประชาชน โดยทางวัด และชุมชนมีความประสงค์ต้องการที่จะลงมือซ่อมแซมบูรณะสะพานด้วยตัวพวกเขาเอง โดยสื่อมวลชนติดตามนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เดินทางมาเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ระหว่างวัดวังก์วิเวการาม ประชาชนชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ กับนายสมศักดิ์ สุวัฒนรัตน์ เจ้าของบริษัท ป.ร่งเรือง วัสดุภัณฑ์ โดยมีนายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ให้การต้อนรับ

เมื่อคณะ พล.ต.ไพโรจน์ เดินทางมาถึงได้เดินสำรวจบนสะพานอุตตมานุสรณ์ฝั่งชุมชนชาวมอญ ไปจนถึงจุดที่สะพานพังถล่ม ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยมีสายฝนตกลงมาตลอดเวลา

จากนั้น พล.ต.ไพโรจน์ ได้พูดคุยเจรจาเพื่อทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่กำลังมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับการซ่อมบูรณะสะพานมอญ โดยบริษัท ป.รุ่งเรือง วัสดุภัณฑ์ ไม่สามารถซ่อมบูรณะสะพานมอญได้ทันตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ การก่อสร้างคืบหน้าไปเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

โดยนายสมศักดิ์ ได้กล่าวอธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้หน้างานล่าช้าว่า สาเหตุใหญ่มาจากไม่สามารถหาไม้แดง และไม้ตะเคียนมาเป็นวัสดุการซ่อมสะพานได้ และวิศวกรคุมงานได้เสนอไปยังคณะกรรมการตรวจการจ้างรับทราบปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะกรรมการตรวจการจ้างได้มีมติไม่ต่อสัญญาให้แก่บริษัทตามที่ร้องขอ จำนวน 2 คน คือ นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ในฐานะประธานฯ และนายธนิต ทองเจริญยวง นายช่างโยธา 5 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ส่วน นายฉัตรณรงค์ ศีริพร ณ ราชสีมา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ลงมติเห็นด้วยที่จะให้มีการขยายสัญญากับบริษัทออกไป และในที่สุด นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เซ็นลงนามไม่เห็นด้วยที่จะต่อสัญญาให้แก่บริษัทดังกล่าวออกไปอีก

การเจรจาในวันนี้สรุปว่า ทุกฝ่ายมีความเห็นพร้อมกันว่า ให้โอกาสบริษัทดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานออกไปอีก 30 วัน แต่ต้องนำไม้แดง และไม้ตะเคียนเข้ามาซ่อมแซมเท่านั้น หากพบมีการนำไม้เนื้อแข็งชนิดอื่นเข้ามาแอบแฝง ก็จะถูกดำเนินการตามขึ้นตอน และจะต้องถูกสั่งให้หยุดทำงานทันที ซึ่งนายสมศักดิ์ เจ้าของบริษัทได้รับปากต่อ พล.ต.ไพโรจน์ รวมทั้งรับปากกับชาวบ้านว่าจะทำตามที่ตกลงเอาไว้ให้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งทางพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น และนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ต่างก็เห็นพร้อมตามคำแนะนำของ พล.ต.ไพโรจน์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความปรองดองขึ้นในพื้นที่

พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ เปิดเผยว่า หัวหน้าคณะ คสช.ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการซ่อมบูรณะสะพานอุตมานุสรณ์มาอย่างต่อเนื่อง และพบว่าขณะนี้มีความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่ ดังนั้น จึงสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาทำหน้าที่เจรจากับกลุ่มผู้ขัดแย้ง เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจจะมีมากขึ้น ซึ่งการเจรจาผ่านไปด้วยดี ถึงแม้บางฝ่ายอาจจะยังไม่ค่อยสบายใจมากนัก และทุกฝ่ายก็เห็นพร้อมกันว่าจะให้โอกาสแก่บริษัทดำเนินการซ่อมบูรณะสะพานมอญไปจนถึงวันที่ 10 ก.ย. และระหว่างนี้ทางบริษัทจะต้องถูกปรับเป็นเงินวันละประมาณ 1.6 หมื่นบาท

“เมื่อครบกำหนดหากทางบริษัทยังไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้จ้างจะทำการยกเลิกสัญญาทันที และระหว่างนี้หากทางบริษัทนำไม้เข้ามา จะต้องตรวจสอบเสียก่อนว่าเป็นไม้ชนิดใด และหากตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ไม้แดง หรือไม้ตะเคียน ตามสัญญาที่ทำไว้ จะสั่งให้หยุดดำเนินการทันทีเช่นกัน”

นอกจากนี้ พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ยังขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ให้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อไม่ให้เกิดการเกลียดชังกันขึ้นมาอีก



กำลังโหลดความคิดเห็น