อุตรดิตถ์ - ราคาลางสาด ลองกอง พืชเศรษฐกิจสำคัญเจอวิกฤตราคาร่วง ล่าสุดลางสาดเหลือ กก.ละ 5 บาท ลองกอง 15 บาท ไม่คุ้มกับค่าจ้างคนตัด ขณะเจ้าของสวนต้องประคบประหงมตั้งแต่แทงช่อดอก จ้างคนแต่งตาวันละ 400 บาท ถางหญ้าอีก 600 บาท
วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ลางสาด และลองกอง ที่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของ จ.อุตรดิตถ์ กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำ โดยล่าสุดราคาลางสาดกิโลกรัมละ 5 บาท ลองกอง 15 บาท ซึ่งแทบไม่คุ้มกับค่าจ้างคนงานตัดผลผลิตที่คิดราคากิโลกรัมละ 3-5 บาทแล้ว โดยเฉพาะลางสาด หากเจ้าของสวนต้องจ้างตัดจะไม่ได้อะไรเลย เพราะราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาท ในขณะที่ต้องรับภาระตั้งแต่ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมันขนส่ง นอกจากนี้ตั้งแต่ผลผลิตแทงช่อดอกต้องจ้างแรงงานแต่งตาดอกวันละ 400 บาทต่อคน ค่าถางหญ้าวันละ 600 บาท หากเจ้าของสวนต้องจ้างตัดจะไม่ได้อะไรเลย เพราะราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาท ในขณะที่เจ้าของสวนต้องรับภาระในเรื่องค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการขนส่ง
ล่าสุด นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ประชุมร่วมกับนายบัณฑิต เกิดขาว นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ พ.ต.สุรพล กิ่งแก้ว หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ นายชลิต ธนวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัด การค้าภายใน นายก อบต.แม่พูล ฝายหลวง และนานกกก ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตลางสาด-ลองกองจำนวนมาก เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกร
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ขอให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดช่วยรับซื้อและกระจายสินค้าออกนอกพื้นที่ แต่นายชลิต ธนวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า อบจ.พร้อมที่จะช่วยเหลือ และตอนนี้ก็มีเงินสำรองอยู่ 3 ล้านบาท แต่ติดปัญหาไม่รู้จะนำเงินออกมาช่วยเหลือได้อย่างไร
เพราะเมื่อปี 2556 อบจ.นำเงินออกมาช่วยซื้อผลผลิตของเกษตรกร และจ่ายชดเชยทางการตลาดให้แก่แม่ค้าที่เข้ามารับซื้อผลผลิตราคากิโลกรัมละ 2 บาท แต่กลับถูก สตง.เรียกตรวจสอบแจ้งว่า อบจ.ไม่มีอำนาจดำเนินการ ซึ่งจนถึงขณะนี้เรื่องก็ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงไม่รู้ว่าจะนำงบมาช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางจังหวัดได้มีคำสั่งให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเร่งขึ้นทะเบียนชาวสวน เพื่อทราบจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกลางสาดที่แท้จริง ก่อนหาทางช่วยเหลือต่อไป
ด้านนายอาน แปลงดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนานกกก กล่าวว่า ปัจจุบันลางสาด ลองกอง ไม่มีเฉพาะ ต.แม่พูล ต.ฝายหลวง ต.นานกกก อ.ลับแล เท่านั้น แต่แถบ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุโขทัย ก็มีผู้ปลูกและนำผลผลิตมาขายในตลาดลับแลด้วย ถือเป็นปัญหาที่ยังไม่มีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน
สำหรับปริมาณผลผลิตลางสาดของอุตรดิตถ์ในปีนี้ จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดแจ้งว่า ทั้ง อ.เมือง อ.ลับแล และ อ.ท่าปลา จะมีผลผลิตออกมาในเดือนกันยายน 1,370 ตัน ตุลาคม 9,470 ตัน และพฤศจิกายน 2,768 ตัน ส่วนผลผลิตลองกองทั้ง 3 อำเภอรวมกันเดือนกันยายน 1,560 ตัน ตุลาคม 1,0160 ตัน และพฤศจิกายน 3,961 ตัน