ตรัง - ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ร้อง คสช.ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน หลังประสบปัญหาราคาตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา เพื่อทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ฟื้นคืนอีกครั้ง
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้เศรษฐกิจส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับราคาพืชผลทางการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน แต่ในปัจจุบัน ยางพารากลับมีราคาตกต่ำ ส่วนปาล์มน้ำมันก็มีราคาเพียงแค่ให้เกษตรกรพออยู่ได้เท่านั้น ซึ่งเมื่อพืชเศรษฐกิจทั้ง 2 ชนิดนี้มีราคาไม่ดี ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่มีกำลังซื้อลดลง
โดยที่ผ่านมานั้นความผันผวนอาจจะมาจากสภาพปัญหาทางการเมือง จึงทำให้การแก้ไขปัญหาของเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันเกิดความล่าช้า จนกระทั่งเมื่อ คสช.ได้มีการยึดอำนาจบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาลแล้ว และได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ คสช.ได้ให้ความสำคัญประชาชนตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไป ด้วยการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุดเป็นอันดับแรกก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ คสช.บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และเมื่อช่วยเกษตรกรชาวนาแล้ว ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เสนอให้หันมาช่วยเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันเพื่อมีราคาดีขึ้น เพราะจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มที่ดีอย่างแน่นอน ส่วนในภาคของการท่องเที่ยวไม่ได้รับผลกระทบจากการยึดอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาน้อย เนื่องมาจากช่วงนี้ภาคใต้อยู่ในช่วงมรสุม ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล และนักท่องเที่ยวต่างทราบเป็นอย่างดี
ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมนั้นได้มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่กระทบรุนแรงที่สุดกลับเป็นผลมาจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ซึ่งผู้ประกอบการต่างก็พยายามประคองตัวเองให้อยู่รอด โดยวิธีการประหยัด และผลิตให้เกิดของเสียน้อยที่สุด นอกจากนี้ จากการที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบหัวหน้า คสช.ซึ่งรับปากว่าจะช่วยดูแลภาคอุตสาหกรรมให้เดินไปได้นั้น นับว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมของภาคใต้เป็นอย่างมาก