พิจิตร - พ่อเมืองชาละวัน นำทีมปราชญ์ท้องถิ่น ชาวบ้าน ลงแขกเกี่ยวข้าวอินทรีย์ ส่งเสริมชาวนาลดต้นทุน ผลิตข้าวคุณภาพส่งตลาดโลก ย้ำวันนี้นาทุกแปลงรอดจากน้ำท่วมแล้ว เหลือแต่รอสู้ภัยแล้ง
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานและร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวอินทรีย์ ในแปลงนาต้นแบบของเกษตรกรที่หมู่ 16 บ้านบ่อแร่ ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยมี นายไชยา สมถวิล นายอำเภอวชิรบารมี รวมถึง น.ส.ผกามาศ เพชรพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรบารมี และกลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน ชาวนาต้นแบบกว่า 300 คน มาร่วมกิจกรรม
ซึ่งการปลูกข้าวอินทรัพย์ดังกล่าว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดพิจิตร ที่ต้องการส่งเสริมให้ชาวนาพิจิตร ลดต้นทุนการผลิต ด้วยการปลูกข้าวอินทรีย์ และใช้พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่เป็นข้าวหนัก อายุเกินกว่า 120 วัน เช่น ข้าวเหลืองอ่อน ข้าวขาวตาเคลือบ ข้าวขาวตาเดียว ข้าวอากาศ ข้าวเหลืองประทิว ข้าวจำปาทอง ที่พัฒนาจนสามารถปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง รวมถึงมีสภาพเหมาะสมต่อภูมิประเทศ ไม่ต้องการใช้สารเคมี แต่ใช้ธรรมชาติบำบัด
โดยโครงการดังกล่าวมีการบูรณาการร่วมกับวิทยาลัยชุมชนพิจิตร รวมถึงศูนย์กสิกรรมธรรมชาติที่มีปราชญ์ชาวบ้านรวมตัวกันขับเคลื่อนปลูกข้าวอินทรีย์ที่มีแนวโน้มว่า จะขยายพื้นที่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทางราชการส่งเสริม พ่อค้าผู้รับซื้อ และตลาดส่งออกกำลังมีความต้องการอยู่ในขณะนี้
นายวัลลภ พึ่งไชย ครู คศ.2 ชำนาญการ ที่ปรึกษา ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนพิจิตร ซึ่งเป็นครูสอนวิชาการด้านการเกษตรประจำของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติพิจิตร เปิดเผยว่า มีการตั้งเป้าว่า พื้นที่นาในพิจิตรที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านแหล่งน้ำ จะต้องปลูกข้าวที่มีคุณภาพ คือ ข้าวหอม หรือข้าวที่กินแล้วเป็นยามีผลดีต่อสุขภาพ เพื่อขายให้แก่ต่างประเทศที่กำลังมีความต้องการข้าวชั้นดีประเภทนี้ เพราะถ้าชาวนาปลูกข้าวแบบนี้ได้ก็จะทำให้ไม่ต้องพึ่งพาโครงการรับจำนำ
ขณะที่ นายสุรชัย เปิดเผยหลังการลงแขกเกี่ยวข้าว ว่า วันนี้สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน เข้าสู่สภาวะปลอดภัยแล้ว จึงทำให้นาข้าวทุกแปลงอยู่รอดปลอดภัย และมีโอกาสได้เกี่ยวข้าว โดยมีความเสียหายแค่ 1 พันกว่าไร่ นอกนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนภาพโดยรวมเกษตรกรเริ่มปิดประตูน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง เนื่องจากทุกคนคาดว่าปีนี้จะมีน้ำน้อย เพราะน้ำเหนือเขื่อนมีค่อนข้างน้อยมาก
