พิจิตร - เมืองชาละวันเตรียมเปิดเวทีฟังความเห็นแก้ผังเมืองใหม่ เบื้องต้นพบเพิ่มพื้นที่ “สีเหลือง” แค่รัศมี 200 เมตร ริมถนน 8 สาย ที่เหลือส่วนใหญ่วางกรอบเป็นสีเขียวต่อ
นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จังหวัดจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อปรับปรุงผังเมืองให้เหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจ การลงทุน และสังคม โดยวันที่ 25 สิงหาคมนี้ จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในเขต อ.เมือง วชิรบารมี สามง่าม สากเหล็ก วังทรายพูน และโพธิ์ประทับช้าง ที่โรงแรมโอฆะนคร
และในวันที่ 26 สิงหาคม จะเปิดเวทีที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร (โรงเรียนเทศบาล 1) ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน เพื่อรับฟังความเห็นประชาชนเขต อ.ตะพานหิน บึงนาราง โพทะเล บางมูลนาก ทับคล้อ และดงเจริญ ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิเสนอความเห็นได้อย่างเสมอภาค
ด้านนายวินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พ.ร.บ.ผังเมืองมีผลต่อความเจริญในท้องถิ่นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง ตีเส้นขีดกรอบให้ส่วนใหญ่ตกเป็นพื้นที่สีเขียว หมายความว่าจะสร้างห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม หมู่บ้านจัดสรร ตลาดสด ตึกแถว อาคารพาณิชย์ไม่ได้ บังคับให้คนพิจิตรต้องทำนาปลูกข้าวเท่านั้น ทำให้นักลงทุนหนีไปลงทุนที่จังหวัดอื่นแ
“คนมีที่ดินอยู่ติดถนนใหญ่ มีโรงงานจะมาขอซื้อ มีนักลงทุนจะมาลงทุนสร้างตลาดก็ทำไม่ได้ อ้างติดกฎหมายผังเมือง จึงเป็นเหตุให้เมืองพิจิตรไม่มีใครอยากมาลงทุน”
ดังนั้น การประชุมเพื่อจะเปลี่ยนแปลงผังเมืองครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะ 4 ปีจะมี 1 ครั้ง อยากให้ผู้ที่มีที่ดิน นักธุรกิจ นักลงทุน ให้ความสำคัญ และร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อปลดปล่อยเมืองพิจิตรให้หลุดพ้นจากการเป็นพื้นที่ทำการเกษตรเท่านั้น
นายวินัย ได้ยกแบบร่างการแก้ผังเมืองอธิบายเพิ่มเติมว่า ดูแล้วจะมีการแก้แค่เฉพาะริมทางหลวงหมายเลข 11, 111, 113, 115, 117, 1067, 1069, 1070 ให้พื้นที่จากแนวถนนซ้าย-ขวาข้างละ 200 เมตร เป็นพื้นที่สีเหลือง คือ พื้นที่เพื่อการลงทุน แต่ในส่วนริมถนนทางเข้าตำบล หรือทางเข้าหมู่บ้านที่ล้วนเจริญแล้ว ยังถูกตีตรวนให้เป็นพื้นที่สีเขียวเหมือนเดิม พัฒนาอะไรไม่ได้
“ผังเมืองของพิจิตร มีผลต่อธุรกิจ และการลงทุนในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าครั้งนี้ไม่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ก็ต้องรอไปอีก 4 ปี คือ ปี 2561 จึงจะได้แก้ไขผังเมืองอีกครั้ง”