พิจิตร - เมืองชาละวันยังเผชิญภัยแล้งยาวนาน ล่าสุดน้ำน่านอยู่ในสภาพพอกินพอใช้ ขณะที่ “น้ำยม” แห้งขอดจนเด็กลงเล่นฟุตบอลกันได้แล้ว
วันนี้ (21 เม.ย.) นายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า แม้พิจิตรจะมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านถึง 2 สาย คือ แม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม แต่ล่าสุดแม่น้ำน่านอยู่ในระดับแค่เพียงพอใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนแค่ 20% หรือ 1,340 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนแม่น้ำยมตลอดระยะทาง 124 กิโลเมตรมีสภาพแห้งขอดจนเด็กสามารถลงไปวิ่งเล่น หรือเตะฟุตบอลในก้นแม่น้ำได้แล้ว ดังนั้นจึงขอเตือนชาวนาทั้งในลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำน่าน ว่าขอให้งดการทำนาปรังช่วงนี้เด็ดขาด เพราะคาดว่าจะเกิดภัยแล้งยาวนานไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน
ส่วนแนวทางแก้ปัญหาลุ่มน้ำยมแบบยั่งยืนนั้น เนื่องจากบริเวณต้นน้ำที่ตั้งอยู่ที่ จ.แพร่ คงไม่สามารถสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องมวลชนและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงต้องแก้ที่กลางน้ำ คือ จังหวัดต้องเร่งของบประมาณสร้างประตูน้ำ 2 แห่ง คือ เขต อ.โพธิ์ประทับช้าง และบ้านท่าแห-บ้านวังอีทก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก รอยต่อหมู่ 8 ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งออกแบบและประมาณการค่าก่อสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณมาก็จะแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืนแน่นอน
ทั้งนี้ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้ 4 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง ได้แก่ อ.เมือง อ.ทับคล้อ อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก แต่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนักเนื่องจากขาดงบประมาณ คงมีแค่เพียงทหารจากจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ที่นำน้ำไปจ่ายแจกแก่ราษฎร
สำหรับตำบลใดหมู่บ้านใดที่ต้องการน้ำดื่ม น้ำใช้ ติดต่ออได้ที่ โทร. 0-5671-9707 หรือ 08-8553-5880