ฮือฮา! ครูพิจิตร แจกฟรีที่ดินแปลงงาม แค่เด็กเขียนเรียงความ“หนูอยากเป็นคนดี”ส่ง(ชมคลิป)

พิจิตร - อดีต ผอ.โรงเรียนเมืองชาละวันพร้อมภรรยา ขึ้นป้ายประกาศแจกฟรีที่ดินมีโฉนดแปลงงาม 67 ตารางวา กลางตัวเมืองสามง่าม ตั้งเงื่อนไขให้เยาวชนพิจิตรทุกระดับชั้น ส่งเรียงความ “หนูอยากเป็นคนดี” ประกวด เผยแจ้งทุกร.ร.แล้วแต่ไม่มีใครสน จนต้องขอผู้ว่าฯการันตี ล่าสุดมีเด็กส่งประกวดไม่ถึงร้อย



วันนี้(14 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริเวณที่ดินแปลงงามซอยกลางเทศบาลตำบลสามง่าม ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอสามง่าม และสภ.สามง่าม จ.พิจิตร มีการติดป้ายไวนิลพิมพ์ข้อความที่ทำให้ผู้พบเห็นพากันแปลกใจไปตามๆกัน เพราะข้อความที่ว่า "แจกฟรี!! ที่ดินบริเวณนี้ เงื่อนไขเพียง 4 ข้อ คือ 1.เป็นนักเรียนทุกระดับชั้นในจังหวัดพิจิตร 2.ส่งเรียงความเรื่อง “หนูอยากเป็นคนดี” 3.หมดเขตวันที่ 1 สิงหาคม 2557 และ 4.จับฉลากรับโฉนดที่ดิน 1 แปลง 67 ตารางวา วันที่ 24 สิงหาคม 2557

ผู้ที่สนใจส่งส่งประวัติส่วนตัวพร้อมเรียงความ โดยมีครูประจำชั้น และผู้บริหารรับรอง ส่งมาที่ผอ.นริศ สังวารีย์ 98 ม.6 ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร 66140"

ตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ติดป้ายประกาศดังกล่าว คือ นายนริศ สังวารีย์ อายุ 55 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร และนางสมศรี สังวารีย์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นภรรยา เป็นข้าราชการบำนาญทั้งคู่

นายนริศ เปิดเผยว่า ตนอยากเห็นเยาวชนเป็นคนดี มีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางบวก อีกทั้งในขณะนี้ตนมีบุตรชายคนเดียว คือ นายพีระพิศ สังวารีย์ อายุ 25 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ และมีที่ดินถือครองอยู่หลายแปลง จึงอยากจะแบ่งปันแจกจ่ายให้กับผู้ที่เป็นคนดีแล้วไม่มีที่อยู่อาศัยหรือที่ดินทำกิน จึงประกาศว่าจะยกที่ดินให้ฟรี

ที่ดินแปลงนี้มีเอกสารสิทธิgป็นโฉนด เนื้อที่ 67 ตารางวา โฉนดเลขที่ 17342 เล่ม 174 หน้า 42 ระวาง 50412824-11 เลขที่ 6 หน้าสำรวจ 2892 อยู่ในซอยกลางเทศบาลตำบลสามง่าม ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอสามง่าม และ สภ.สามง่าม มูลค่าเกือบ 5 แสนบาท

นายนริศ กล่าวว่า ใครที่อยากได้ที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นชาวพิจิตร ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ตั้งแต่ระดับชั้นประถมจนถึงระดับปริญญาตรี โดยขอให้ตั้งใจเขียนด้วยลายมือ เล่าความในใจในหัวข้อว่า “หนูอยากเป็นคนดี” ใช้ภาษาไทยถูกต้อง มีความยาวเนื้อหาเหมาะสมกับวัย หรือระดับการศึกษา

เช่น เด็ก ป.2 ป.3 อาจจะเขียนมาแค่ 5 หรือ 10 บรรทัด แล้วมีเนื้อหาใจความการใช้ภาษาเข้าหลักเกณฑ์ อ่านแล้วโดนใจกรรมการ ก็สามารถเข้ารอบได้ แต่ถ้าเรียนอยู่ระดับปริญญา แล้วเขียนมาแค่ 5-10 บรรทัด แบบนี้ก็อาจไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ดังนั้นจึงต้องเป็นไปตามวุฒิภาวะ

สำหรับผู้ที่เขียนมาขอให้ส่งมาที่บ้านของตนตามที่ระบุไว้ในป้ายประกาศ ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 จากนั้นก็จะมีคณะกรรมการ ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นผู้แต่งตั้งมาร่วมกันอ่าน และให้คะแนน ก่อนจะประกาศผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 15 สิงหาคม 2557

“อาจมีผู้ผ่านหลักเกณฑ์มากกว่า 1 คน ก็จะรวบรวมแล้วใช้วิธีจับฉลาก เพียงเท่านี้ก็จะแจกที่ดินให้ฟรีๆแน่นอน”

นายนริศยังได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการแจกที่ดินมูลค่าครึ่งล้านว่า อดีตตนเป็นครู ถึงทุกวันนี้จะลาออกมาแล้ว ก็ยังมีความผู้พัน เป็นห่วงเยาวชนที่ขาดวิธีคิด ขาดจินตนาการ โดยก่อนหน้าที่จะพลิกผันชีวิตมาทำธุรกิจส่วนตัว และหาซื้อที่ดิน ก็ไปบนบานศาลกล่าวว่าขอให้เจอที่ดินแปลงสวยๆราคาถูก ซึ่งถ้าซื้อได้แล้วก็จะทำบุญทำทาน

ด้วยโชควาสนาจึงไปเจอที่ดินแปลงที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอสามง่าม มีเนื้อที่ 3 ไร่เศษ ธนาคารประกาศขายทอดตลาดในราคาหลายล้านบาทมา 7 ปีแล้ว ไม่มีใครซื้อ ตนจึงไปติดต่อสอบถามและต่อราคา จนซื้อมาได้ในราคา 1.3 ล้านบาท แถมมีอาคารหลังใหญ่ให้อีก 1 หลัง

จากนั้นตนจึงไปกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตรมาลงทุน ประกอบกับ 2 คนผัวเมียก็มีบำนาญกินเดือนละเกือบ 4 หมื่นบาท จึงไม่เดือดร้อน ซื้อที่ดินมาหลายปีแล้ว ปัจจุบันราคาก็ดีดตัวขึ้นสูง ทำให้พอมีกำไร ก็คิดอยากแบ่งปัน จึงก่อเกิดเป็นโครงการประกวดเรียงความในหัวข้อหนูอยากเป็นคนดี โดยมีรางวัลเป็นที่ดิน 67 ตารางวา มูลค่าเกือบครึ่งล้านดังกล่าว

การที่ตนขึ้นป้ายและทำโครงการแจ้งไปยังหน่วยงานสถานศึกษาทั้งระดับประถมและมัธยมว่า มีโครงการประกวดเรียงความในหัวข้อหนูอยากเป็นคนดี โดยมีรางวัลเป็นที่ดิน 67 ตารางวา มูลค่าเกือบครึ่งล้านบาทแจกให้เป็นรางวัล แต่ไม่มีใครสนใจ จึงไปหานายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้ช่วยเป็นสักขีพยาน และทำบันทึกว่าตนเองทำจริง ให้จริง แจกจริง จึงมีคนเชื่อ

อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้มีเยาวชนเขียนเรียงความส่งมาชิงรางวัลไม่ถึงร้อยคน จึงอยากเชิญชวนให้เยาวชนพิจิตร เขียนเรียงความชิงรางวัลที่ดินแปลงนี้ไปครอบครอง