xs
xsm
sm
md
lg

“ตาเด็กอุ้มบุญเชียงราย” อยากเลี้ยงหลานเอง ขณะที่อาการเด็กยังแย่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - เจ้าหน้าที่เร่งตามหาตัวแม่อุ้มบุญเชียงราย หลังไม่มาให้นมลูกตามกำหนด ขณะที่เด็กยังต้องอยู่ในตู้อบ ด้านผู้เป็นตายันไม่รู้เรื่องลูกสาวรับอุ้มบุญ แต่อยากเอาหลานไว้เลี้ยงเอง

วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.ป๋อง (นามสมมติ) แม่เด็กอุ้มบุญ คลอดลูกที่โรงพยาบาลชื่อดังของ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ออกจากโรงพยาบาลไป และระบุชื่อ นายชิเกตะ มิตสุโตกิ ชาวญี่ปุ่น เป็นพ่อในใบแจ้งเกิด โดยที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงแห่งมนุษย์จังหวัดเชียงราย ได้ขอให้โรงพยาบาลดูแลเด็กไว้ก่อน จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ชัดเจน และผู้เป็นแม่จะมาให้นมลูก 2 วันครั้งว่า วานนี้ (10 ก.ย.) น.ส.ป๋อง ไม่ได้เดินทางมาให้นมลูกแต่อย่างใด

เนื่องจากตรวจพบว่า เด็กทารกไม่พร้อมจะรับนม โดยแพทย์ได้ให้อาหารพิเศษสำหรับทารกแทน ขณะที่สุขภาพของเด็กไม่ค่อยสมบูรณ์ต้องให้อยู่ในตู้อบ และมีน้ำหนักเพียงแค่ 1,740 กรัมเท่านั้น

ด้านนายปรีดา กุณามา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดเชียงราย ในฐานะเลขานุการคณะคุ้มครองเด็กจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ พม.ได้พยายามติดตามหาตัว น.ส.ป๋อง เพื่อจะได้สอบถามข้อมูล เนื่องจากเป็น 1 ใน 9 รายที่อยู่ในกรณีจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่า เรายังไม่สามารถหาตัวพบ

ต่อมา ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปสอบถามทางบิดาของ น.ส.ป๋อง ที่ภูมิลำเนาเดิมที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย แล้วก็ได้รับทราบว่า บิดา น.ส.ป๋อง ก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น และเพิ่งจะรู้หลังจากลูกสาว (น.ส.ป๋อง) ตั้งครรภ์ได้ 5-6 เดือน เมื่อสอบถามถึงความเห็นกรณีเด็กทารากที่คลอดออกมาทางบิดาของ น.ส.ป๋อง ยืนยันว่า อยากจะได้มาเป็นหลาน โดยจะรับเลี้ยงเองอีกด้วย

นายปรีดา กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนต่อไปนี้ยังคงไม่นิ่ง เพราะยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญออกมา ดังนั้น ทาง พม.จึงทำได้เพียงขอให้ทางโรงพยาบาลดูแลเด็กไปก่อน แต่เนื่องจาก น.ส.ป๋อง เป็น 1 ใน 9 รายที่มีเหตุการณ์รับอุ้มบุญมาจากเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ และยังเคยได้รับการคุ้มครองจาก อ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี ก่อนย้ายไปที่เชียงใหม่ แล้วมาปรากฏตัวที่เชียงรายอีก จึงอยากจะสอบถามข้อมูลว่า เป็นมาเป็นไปอย่างไร แต่ก็ยังไม่พบตัว

ส่วนกรณีของเด็กทารกที่ยังนอนพักรักษาตัวนั้น หากว่าแข็งแรงดีแล้วจนถึงขั้นที่ทางทนายความของชาวญี่ปุ่นประสงค์จะนำตัวออกไปเลี้ยงดูเองนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะคุ้มครองเด็กก่อน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และทางกระทรวง พม.ด้วย เพราะเด็กอยู่ในการคุ้มครองตามกฎหมาย รวมทั้งทาง นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เน้นย้ำให้ทาง พม.เชียงราย ใช้วิธีปฏิบัติตามระเบียบโดยเปรียบเทียบกับอีก 8 กรณีที่เหลืออยู่ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องกันภายหลัง

“ตอนนี้ทารกมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และโรงพยาบาลต้องให้เข้าห้องอบ อาการถือว่ายัง 50:50 แพทย์ระบุว่า ต้องให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างน้อยอีก 2,000 กรัม จึงจะดีขึ้น เพราะตามปกติเด็กจะสมบูรณ์ต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 2,500 กรัมขึ้นไป ซึ่งหากทางทนายความจะไปขอรับเด็กต้องมีการพูดคุยกันให้ชัดเจน เพราะอย่างไรเขาก็ได้มีการแจ้งเกิดเอาไว้ว่า พ่อเด็กเป็นญี่ปุ่น แต่เจ้าหน้าที่ที่คุ้มครองคงต้องขอทราบเหตุผล ความเห็นของแพทย์ที่ดูแลเด็กทารกว่า สมควรหรือไม่ ตลอดจนความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวง ฯลฯ เพื่อพิจารณาให้ดำเนินการต่อไป” นายปรีดา กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น