ราชบุรี - เกษตรกรชาวอำเภอปากท่อ เมืองราชบุรี สุดช้ำ ลงทุนปลูกพริกกะเหรี่ยงที่เป็นพืชค่อนข้างทนต่อความแห้งแล้งได้ดีอีกชนิดหนึ่ง 5 ไร่ หวังเก็บเกี่ยวผลผลิตขายในระยะยาว เนื่องจากราคาดี แต่พริกต้องมาตายยกสวนหลังจากทนสู้ต่อวิกฤตภัยแล้งไม่ไหว วอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาลให้
วันนี้ (22 เม.ย.) นางธนารัตน์ ศิริมีเย็น อายุ 46 ปี เกษตรกรพื้นที่หมู่ 4 บ้านนาคอก ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งได้เช่าพื้นที่ชาวบ้านลงทุนปลูกพริกกะเหรี่ยง จำนวน 5 ไร ซึ่งเป็นพืชที่ค่อนข้างทนต่อความแห้งแล้งได้ดีอีกชนิดหนึ่ง และยังเป็นพืชที่มีราคาแพงอยู่ในช่วงนี้ โดยก่อนหน้านี้ พื้นที่ดังกล่าว นางธนารัตน์ ได้ลงทุนปลูกแตงกวา และบวบ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ สามารถเก็บผลผลิตขายได้ แต่เป็นพืชที่มีอายุสั้น ต่อมา จึงหันมาทดลองปลูกพริกกะเหรี่ยงแทนเนื่องจากเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวเกือบ 2 ปี ทำเงินสร้างรายได้นานกว่าพืชชนิดอื่นจึงได้หันมาปลูกพริกกะเหรี่ยงแทน
นางธนารัตน์ ศิริมีเย็น เปิดเผยว่า หลังปลูกพริกกะเหรี่ยงซึ่งเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี การดูแลจะให้น้ำแบบระบบน้ำหยดในน้ำทุก 3 วัน ช่วงแรกได้ผลผลิตใช้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวประมาณ 10 วันต่อการเก็บ 1 ครั้ง โดยจะเก็บเม็ดสุกที่มีสีแดงนำไปขาย แต่ขณะนี้เกิดปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ำมารดต้นพริก ทำให้พริกที่เคยยืนต้นอย่างสวยงาม มีเม็ดสวยเป็นที่ต้องการของตลาดกลับเหี่ยวเฉายืนต้นตายไปทีละต้นสองต้น จนตายยกสวนในที่สุด เพราะน้ำในลำห้วยใกล้เคียงที่เคยสูบมารดพริกแห้งหมด จนต้องหาซื้อน้ำคันละ 500 บาท ได้ประมาณ 10,000 ลิตรต่อคันมาหล่อเลี้ยง แต่พอซื้อมารดต้นพริกแล้วก็มีความรู้สึกว่าปริมาณน้ำจะอยู่แค่ผิวดินแล้วก็แห้งหายไปน้ำที่รดลงไปไม่ถึงรากพริกก็ตายอีก
ขณะที่บริเวณร่องแปลงจะคลุมด้วยพลาสติกเพื่อลดปัญหาการเกิดวัชพืช แต่กลับมีผลเสียในช่วงหน้าแล้งเพราะจะทำให้น้ำที่ซื้อมารดต้นพริกลงโคนต้นได้น้อยมากกว่าปกติ ทำให้ขณะนี้ต้นพริกที่มีเม็ดเต็มต้นค่อยๆ ใบเหลืองเหี่ยวแห้งตายคาต้นจนหมดทั้งแปลง
นางธนารัตน์ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ ที่เคยเก็บได้ช่วงแรกๆ ครั้งละกว่า 100 กิโลกรัม เก็บได้ประมาณ 5 ครั้งแล้ว ได้เงินประมาณ 40,000 บาท ซึ่งหากพริกยังไม่ตายคงจะเก็บผลผลิตได้เงินเป็นแสนบาท เนื่องจากอายุของต้นพริกกะเหรี่ยงจะเก็บผลผลิตได้นาน 2 ปีเศษ ลำต้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เก็บผลผลิต และมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย มาปีนี้เกิดภัยแล้งอย่างหนักขาดทุนเห็นๆ และจะไปปลูกอย่างอื่นก็ไม่ได้แล้วเพราะถือว่าปลูกพริกเป็นพืชทนแล้งได้มากที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพื่อนบ้านที่เป็นเกษตรกรด้วยกันได้พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้พืชผักของตัวเองอยู่รอด ผลไม้ที่ปลูกมีอายุยาวนาน และเก็บเกี่ยวได้เร็ว แม้จะลงทุนซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำที่รับจากนำน้ำมาขายเพื่อนำมารดพืชผักยืดชีวิตให้ยาวนานเท่าที่จะทำได้ บางพื้นที่ปลูกหลายอย่างจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไว้ เพราะเงินที่จะซื้อน้ำนั้นเริ่มมีน้อยไม่เพียงพอจะซื้อน้ำรดพืชผักแล้ว จำเป็นต้องยอมให้พืชบางชนิดล้มแห้งตายลงอย่างน่าใจหาย มะละกอ พริก มะนาว ฝรั่ง ก่อนหน้านี้ เคยทดลองปลูกดอกดาวเรืองมาแล้ว แต่ก็ทนต่อสภาพอากาศแล้งไม่ไหวกลับเหี่ยวแห้งตายลงไปเหมือนกัน
จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ เพราะขณะนี้พื้นที่ใกล้เคียงที่ทำการเกษตรกำลังประสบปัญหาภัยแล้งหลังแหล่งน้ำที่ใช้แห้งขอด เกษตรกรบางคนกำลังปลูกพืชผัก ผลไม้ ไม้ยืนต้น และไม้ดอก เหี่ยวเฉา ใบแห้งยืนต้นตายแล้วเป็นจำนวนมาก