พิจิตร - พ่อเมืองพิจิตร สั่งเปิดศูนย์ดำรงธรรม สางปัญหาผู้รับเหมากระทรวงทรัพย์ฯ ขุดลอกบึงสีไฟ ถม “หนองน้อย” กระทบแก้มลิง แหล่งน้ำชุมชนใกล้เคียง พบทำผิดจริงสั่งยุติ พร้อมระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน จนกว่าจะขนดิน และฟื้นสภาพหนองน้อยให้เสร็จ
วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีปัญหาผู้รับเหมาโครงการพัฒนาขุดลอกบึงสีไฟ วงเงิน 48 ล้านบาท ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขุดดินจากบึงไปถมหนองน้อย ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะ เขตหมู่ 3 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร ที่เคยใช้เป็นแก้มลิง และแหล่งน้ำของชุมชนใกล้เคียงมายาวนาน
นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ระบุว่า การขุดลอกพัฒนาบึงสีไฟ เป็นปัญหาในหลายมิติ เนื่องจากอยู่ในความดุแลของกรมเจ้าท่า แต่ตั้งอยู่ในความรับผิดชอบของจังหวัดพิจิตร ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแล ไม่มีงบประมาณมาบริหารจัดการ จึงทำให้ขาดการพัฒนา และมีแต่เรื่องมากมาย
ล่าสุด ก็มีเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริตในการดำเนินโครงการ เพราะผู้รับเหมาไม่ทำตามสัญญา จึงได้ใช้ศูนย์ดำรงธรรม เป็นสถานที่ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยมอบหมายให้ นายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร รองผู้ว่าฯ พิจิตร เป็นประธานในการประชุม
ซึ่งนายกิจชัย บุญปู่ อายุ 42 ปี อาชีพทนายความ อยู่บ้านเลขที่ 226/14 หมู่ 3 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร แกนนำชาวบ้านที่ออกมาร้องเรียน ระบุว่า ผู้รับเหมาได้นำดินในบึงสีไฟจำนวนหลายแสนคิวไปถมหนองน้อย พื้นที่ 13 ไร่ กว้างประมาณ 10 กว่าเมตร ยาวประมาณ 500 กว่าเมตร ทั้งที่เป็นหนองน้ำที่มีสภาพสมบูรณ์ เกษตรกรยังคงใช้ประโยชน์ และมีหมู่บ้านจัดสรรที่ตั้งอยู่ข้างเคียงได้ใช้เป็นแก้มลิงเพื่อบรรเทาปัญหาไม่ให้เกิดน้ำท่วมชุมชน
ผู้ร้องเรียนชี้ให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวผิดระเบียบราชการ คาดว่าผู้รับเหมาต้องการลดต้นทุนในการขนดิน จึงนำมาทิ้งใกล้ๆบริเวณบึงสีไฟ โดยมีนายใจ ถาวรศักดิ์ อดีตกำนันเป็นผู้ชี้จุดให้ผู้รับเหมามาดำเนินการ และอ้างตนว่า เป็นผู้ทำประชาคมได้รับการเห็นชอบจากชาวบ้านแล้วว่า จะเปลี่ยนสภาพหนองน้ำให้เป็นที่สาธารณะแล้วจะวิ่งงบสร้างสวนสาธารณะจากการกีฬา และจะสร้างบ้านเทิดไท้ จึงเป็นที่มาของผู้รับเหมานำดินในบึงสีไฟมาถมหนองน้ำ
เมื่อเรียก นายจำนงค์ คชรอด รองนายก อบต.คลองคะเชนทร์ มาชี้แจง ก็ยอมรับว่าได้ทำหนังสือให้โครงการดังกล่าวนำดินมาทิ้งที่หนองน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ต.คลองคะเชนทร์ เนื้อที่แค่ 3 ไร่ แต่ผู้รับเหมา และนายช่างผู้ควบคุมงานไม่เคยประสานให้ไปดูสถานที่เลย แต่กลับไปประสานกับอดีตกำนันคนหนึ่งแล้วก็พาไปชี้ไม่ถูกจุดจึงเป็นเหตุทิ้งดินผิดจุด
นอกจากนี้ นายปราโมทย์ ไกรยูรเสน ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 พิษณุโลก ก็ยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นจริง โดยเบื้องต้นจะไปร่วมทำประชาคมกับชาวบ้านว่าดินที่ทิ้งไปแล้วนี้จะต้องขุดออกแล้วทำขึ้นมาเป็นคันรอบหนองน้อยให้สามารถคืนสภาพ และใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม
เบื้องต้น ทางจังหวัดฯ จึงเห็นว่า ผู้รับเหมาโครงการขุดลอกพัฒนาบึงสีไฟดำเนินการผิดจริงตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งได้สั่งการให้หยุดการกระทำดังกล่าว และจะต้องให้ขุดดินทั้งหมดหลายแสนคิวออกจากหนองน้อย ซึ่งจะต้องสั่งระงับการจ่ายเงินค่ารับเหมางานในครั้งนี้ โดยจะตัดเงินบางส่วนเอาไว้จนกว่าจะขุดดินออกไปให้แล้วเสร็จ