ออกหมายจับแก๊งเฉี่ยวชนตบทรัพย์ ผู้ว่าฯ สั่งจัดการเด็ดขาดหลังทำชื่อเมืองเกินร้อยย่อยยับ

ร้อยเอ็ด - ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด สั่งใช้มาตรการเด็ดขาดจัดการกับกลุ่มชาวบ้านตั้งแก๊งตระเวนเฉี่ยวชนรถบนถนนแล้วรีดทรัพย์ ชี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์ชาวเมืองเกินร้อยทั้ง 1.3 ล้านคน แนะใครตกเป็นเหยื่อให้รีบแจ้ง หากเป็น ผญบ.ต้องสั่งให้ออก พร้อมยึดคืนใบอนุญาตอาวุธปืน
ความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้านตั้งแก๊งชนตบทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จนเป็นข่าวฉาวไปทั่วประเทศ ล่าสุด ได้มีเจ้าทุกข์ปรากฏตัว และชี้รูปภาพผู้ที่ก่อเหตุว่าคือ นายทวี แน่นอุดร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกตัวให้มาพบในวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มาพบตามนัด

ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับอนุมัติจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ออกหมายจับนายทวี แน่นอุดร อายุ 36 ปี ชาวบ้านบึงโดน หมู่ 5 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ให้นำมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา นายบุญเลี้ยง สุธรรม อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นางวงเดือน สุธรรม อายุ 52 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 9 ต.บ้านเขือง อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ นาวัลย์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เดือนเดียวกันนี้ ขณะที่พากันเดินทางโดยรถยนต์กระบะส่วนตัวจาก กทม. มาตามถนนสาย จ.มหาสารคาม มุ่งหน้าเข้า จ.ร้อยเอ็ด เพื่อจะกลับบ้าน

ในขณะที่ผ่านบ้านเหล่าขาม ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด ถูกคนขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว จำนวน 1 คัน รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเทา จำนวน 1 คัน วิ่งไล่ติดตาม แล้วจู่ๆ รถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค วิ่งแซงขึ้นไปด้านหน้า

ส่วนรถกระบะโตโยต้า วีโก้ วิ่งตามหลังแล้วเปิดไฟหน้าใส่ และบีบแตรไล่ให้ นายบุญเลี้ยง ขับรถแซงรถเก๋งฮอนด้าซีวิค คันหน้า ขณะที่นายบุญเลี้ยง กำลังเร่งเครื่องเลี้ยวขวา หัวรถโผล่เข้าช่องทางด้านขวามือนิดหน่อยได้ถูกรถกระบะโตโยต้า วีโก้ เร่งเครื่องขึ้นมาเฉี่ยวชนที่หัวรถด้านขวามือ

ต่อจากนั้น รถกระบะโตโยต้าวีโก้ วิ่งประกบข้าง คนในรถซึ่งมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 คน และมีผู้หญิงอยู่ด้วย ตะโกนบอกให้ตนแอบรถแล้วจอดข้างถนน ต่อจากนั้นรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค วิ่งตามมาจอดพร้อมกับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ คนในรถกระบะ และในรถเก๋งพากันออกจากรถมาจำนวน 4 คน ออกมาพูดข่มขู่นายบุญเลี้ยง ให้จ่ายเงินค่าซ่อมรถ จำนวน 30,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นายบุญเลี้ยง พยายามอธิบายว่า รถยนต์ของตนก็เสียหาย ตนก็ต้องซ่อมรถด้วยเช่นกัน ถ้าเรียกเงินมากขนาดนั้นตนไม่มีเงินจ่าย ฝ่ายที่เรียกจึงพูดจาข่มขู่ต่างๆ นานา ให้ตนจ่ายเงินลดลงมาเหลือ 20,000 บาท นายบุญเลี้ยง บอกว่า เพิ่งกลับมาจาก กทม.ไปเยี่ยมลูกและไปตรวจโรคจึงมีเงินเหลือติดตัวอยู่เพียง 1,000 บาทเท่านั้น

ฝ่ายข่มขู่จึงบอกว่าให้หาเงินมาเพิ่มอีก 1,000 บาท ก็จะรวมเป็น 2,000 บาท หากยอมจ่ายก็จะเลิกเอาเรื่อง ทำให้นายบุญเลี้ยง ต้องขอยืมเงินญาติที่เดินทางมาด้วยกัน รวมเป็นเงิน จำนวน 2,000 บาท ส่งให้ฝ่ายข่มขู่ ต่อจากนั้นฝ่ายข่มขู่พูดว่า ห้ามไปแจ้งตำรวจเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวจะจัดให้ชุดใหญ่ ต่อจากนั้นแก๊งข่มขู่พากันขับรถหลบหนีไป ซึ่งตอนแรกนายบุญเลี้ยง ไม่กล้ามาแจ้งตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ต่อมาทราบว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ จังตระกูล และ พล.ต.นคร สุขประเสริฐ ผบ.กกล.รส.จว.รอ และ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิช รอง ผบช.ภ.4 รรท.ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้รับการร้องเรียนว่ามีขบวนการเฉี่ยวชนตบทรัพย์ลักษณะดังกล่าว และเอาเรื่อง ถึงขั้นมีการเข้ากวาดล้างแก๊งดังกล่าวไปแล้วที่บ้านบึงโดน ต.แสนชาติ อ.จังหาร ร้อยเอ็ด ที่มีการทำกันเป็นขบวนการชนตบทรัพย์มากถึง 44 ราย

จากการตรวจค้นพบว่า มีหลักฐานจำนวนมาก แต่ยังไม่มีเจ้าทุกข์ และสั่งให้เข้ารายงานตัวทำประวัติ พร้อมกับประกาศหาเจ้าทุกข์เพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มดังกล่าว

นายบุญเลี้ยง กล่าวว่า เมื่อตนทราบข่าวเช่นนั้นจึงตัดสินใจมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจสืบสวนดำเนินคดีต่อแก๊งแกล้งขับเฉี่ยวชนแล้วข่มขู่เรียกทรัพย์

ภายหลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ นาวลัลย์ จึงนำเอาภาพผู้ต้องสงสัย จำนวน 44 ภาพ ให้นายบุญเลี้ยง และนางวงเดือนดู ปรากฏว่า จำหน้าได้คนหนึ่งคือ นายทวี แน่นอุดร ต่อจากนั้น พ.ต.ท.ไพรวัลย์ นาวัลย์ จึงออกหมายเรียกนายทวี แน่นอุดร ให้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 22 ส.ค.57

แต่ปรากฏว่า ถึงเวลา 16.30 น. นายทวี ไม่ยอมไปพบ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ จึงนำเอาสำนวนการสอบสวนไปเสนอศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขออนุมัติหมายจับนายทวี แน่นอุดร ชาวบ้านบึงโดน หมู่ 5 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด

ทางด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เมื่อมีเจ้าทุกข์ก็ถือว่าเป็นการตั้งต้นในการที่จะดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุได้แล้ว ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตามแนวทางของกฎหมายต่อไปทันที ในกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกคนที่มีพยานหลักฐาน และบุคคลที่เสียหายชี้ตัว

ในหากในกรณีที่มีแกนนำหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าไปเกี่ยวข้องตามที่ได้รับแจ้งจากประชาชน ก็ได้สั่งให้นายอำเภอสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ทันที และหากมีการขออนุญาตใช้อาวุธปืน ก็ขอให้ยกเลิกเพิกถอนใบอนุญาตการใช้ และมีอาวุธปืนเด็ดขาด

พร้อมกันนั้น ก็กำชับให้ตรวจสอบประวัติให้ชัดเจนว่า ในกลุ่มขบวนการดังกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับการเล่นการพนัน และตรวจสอบเส้นทางว่า เกี่ยวข้องพัวพันยาเสพติดหรือไม่ เพื่อปราบปรามขบวนการนี้ให้เข้มงวด และเด็ดขาดในทุกหมู่บ้านที่มีการสบสวนได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการขยายตัวเป็นลัทธิการเอาไปทำกันในหมู่บ้านอื่น ก็ให้ดำเนินการปราบปรามให้เด็ดขาด

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ซึ่งเป็นคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นมาทำลายชื่อเสียง และภาพลักษณ์ของชาวร้อยเอ็ดทั้ง 1.3 ล้านคนให้เสียชื่อเสียงตามไปด้วย ดังนั้น หากใครเคยโดนชนตบทรัพย์ให้รีบนำหลักฐาน และปรากฏตัวมาร้องทุกข์ เพื่อเอาผิดจัดการแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากเมืองร้อยเอ็ด