เจ้าหน้าที่กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามกรณีคลิป “ประจานรถหรูนิสัยแย่” ขับย้อนศรเกือบชนบริเวณปากซอยชิดลม ถนนเพชรบุรี อ้างรถทูตจะได้รับสิทธิพิเศษเดินรถ ติงสื่อระวังกระทบความสัมพันธ์ ชาวเน็ตด่ายับทำตัวอภิสิทธิ์ชน ทั้งที่ควรเคารพกฎหมายไทย “สีหศักดิ์” รีบแจ้นยันต้องทำตามกฎหมายไทย อ้างรอตำรวจส่งเรื่องเข้ามา
วันนี้ (18 ส.ค.) จากกรณีที่เว็บไซต์ยูทิวบ์ มีผู้ใช้นามแฝง Nitat Apiwattanasirigul ได้อัปโหลดวิดีโอคลิปที่ชื่อว่า “ประจานพวกรถหรูนิสัยแย่” โดยพบรถยนต์ยี่ห้อ แลนด์โรเวอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียนสีฟ้า อ11-0060 วิ่งย้อนศรมุ่งหน้ามาที่ตัวรถของเจ้าของวิดีโอคลิป ก่อนที่จะบีบแตรเพื่อหลีกทาง แต่เจ้าของวิดีโอคลิปไม่สามารถขยับได้ เพราะมีรถหลังตามมาบีบแตรไล่อีกทาง ในที่สุดรถคันดังกล่าวเบี่ยงรถออกไปให้ โดยวิดีโอคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่แยกซอยชิดลม ถนนเพชรบุรี หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักชิดลม
เฟซบุ๊ก “ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02” ได้ระบุว่า กรณีดังกล่าวต้องทำขั้นตอนของกฎหมาย ตรวจสอบว่าเป็นรถสถานทูตใด แล้วต้องส่งหนังสือไปยังสถานทูตนั้น เพื่อให้ส่งตัวคนขับมาดำเนินคดี อยู่ในระหว่างดำเนินการของ สารวัตรจราจร สน.พญาไท อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า เท่าที่ดูในเบื้องต้น น่าจะไม่ใช่ทะเบียนของพวกสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ แต่เป็น “อ” คือ องค์การระหว่างประเทศ หรือ ทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ
ด้าน เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ ได้นำเสนอข่าว “กรมพิธีการทูตจวกสื่อยับ! ชี้รถทูตมีเอกสิทธิ์ในการเดินรถ” โดยได้สอบถามเจ้าหน้าที่กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ โดยกล่าวว่า “ทางกระทรวงการต่างประเทศ และทูตประเทศต่างๆ ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ ขออธิบายว่า ปกติรถทูตจะได้รับสิทธิพิเศษในการเดินรถอยู่แล้ว และขอไม่ให้รายละเอียดว่ารถคันดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากสถานทูตมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และจะไม่ตอบคำถามใดๆ ต่อผู้สื่อข่าว ต้องรอเรียนปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ตำหนิสื่อมวลชนว่า การลงข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สื่อมวลชนจะกระทำการใดควรพิจาณาไม่ใช่เล่นข่าวตามใจตน
เมื่อผู้สื่อข่าวทวงถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมายไทยจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป โดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบ หรือชี้แจงข้อเท็จจริงใช่หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่รายเดิมตอบว่า “อย่ามาหลอกถาม เพราะดิฉันเคยทำงานสายสื่อสารมวลชนมาก่อน ทราบดีว่าพวกคุณต้องการอะไร หากคุณต้องการทราบข้อมูล ก็ต้องรอให้ทางเราสะดวก เพราะเราก็มีภาระกิจอื่นต้องทำ ที่สำคัญหากสื่อต้องการข้อมูลควรไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดึงข้อมูลทะเบียนรถได้อยู่แล้ว”
อนึ่ง หลังจากที่เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ได้นำเสนอข่าว ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการชี้แจงของเจ้าหน้าที่กรมพิธีการทูต ผ่านโซเชียลมีเดีย ในทำนองรับไม่ได้กับคำตอบ โดยระบุว่า เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ทูตทำตัวอภิสิทธิ์ชน และกรมพิธีการทูตออกมาปกป้อง ทั้งๆ ที่สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยกเลิกกันไปหมดแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทูตต่างๆ ที่เป็นชาวต่างชาติควรเคารพกฎหมายของไทย และขับรถอย่างมีมารยาท และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เจ้าหน้าที่ทูตจะรับผิดชอบอย่างไร เป็นต้น
ล่าสุด เวลา 16.00 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเผยแพร่คลิปวิดีโอเผยภาพรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อแลนด์ โรเวอร์ ทะเบียนสีฟ้า (ทะเบียนองค์กร) อ11-0060 ขับรถย้อนและบีบแตรไล่รถยนต์คันอื่นที่วิ่งมาอย่างถูกกฎหมาย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะได้ประสาน และตรวจสอบว่าเป็นรถของสถานเอกอัครราชทูตประเทศใด หรือองค์กรระหว่างประเทศองค์กรไหนแล้วจึงจะได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตของประเทศนั้นๆ หรือองค์กรระหว่างประเทศดังกล่าวให้รับทราบ เพื่อให้นำตัวผู้ขับรถคันนั้นไปดำเนินคดีตามกฎหมายจราจรของไทย เพราะแม้จะเป็นรถยนต์ที่ทะเบียนทูตหรือองค์กรต่างประเทศ เขาก็ต้องทำตามกฎจราจรของไทย
