พิษณุโลก - คนร้ายสุดเหิมใช้บันไดไม้ไผ่ปีนเข้าทุบกระจกแบงก์กรุงไทยในศาลากลางพิษณุโลก ท่ามกลางกำลัง อส.ที่อยู่เวรยามแน่นหนา แถมไม่มีเสียงสัญญาณเตือนภัย ผู้ว่าฯ สั่งควานหาตัวด่วน เหตุกล้าลงมือในสถานที่ราชการ
เช้าวันนี้ (13 ส.ค.) ร.ต.ท.สมเกียรติ บุญมีจิว พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปทุบกระจกธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สามารถ จูเทศ พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบเศษกระจกแตกกองบนพื้น ส่วนกระจกด้านข้างถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบเป็นรูโหว่ขนาด 1 ฟุต รวมทั้งมีรอยแตกร้าวทั้งบาน แต่ไม่มีทรัพย์สินภายในธนาคารสูญหาย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายแอบใช้บันไดไม้ไผ่ปีนขึ้นทางหน้าต่างชั้น 1 ของศาลากลางจังหวัด แล้วเข้ามาทุบกระจกของธนาคาร คาดว่าต้องการทรัพย์สินภายในธนาคาร
สอบสวน น.ส.นิรันดร์ อุปรีพร้อม อายุ 37 ปี พนักงานทำความสะอาดประจำศาลาจังหวัดพิษณุโลก ผู้พบเห็นคนแรก ให้การว่า เมื่อเวลา 05.30 น.มาทำความสะอาดตามปกติทุกวัน พบว่ามีเศษกระจกแตกหล่นอยู่ที่พื้น ข้างธนาคารกรุงไทย จึงได้ไปเก็บกวาด โดยที่ยังไม่เห็นว่ามีการทุบกระจก แต่หลังจากเห็นว่ากระจกโดนทุบจึงรีบแจ้งให้ อส.ประจำศาลากลางจังหวัดทราบ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบปากคำนางประกาย อุปคำ อายุ 43 ปี แม่ค้าขายข้าวแกงที่เปิดร้านอยู่ใกล้กันกับศาลากลางจังหวัด ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะกำลังเปิดร้านขายข้าวแกงตามปกติ ได้ยินเสียงมีคนทุบสิ่งของดังอยู่ภายในศาลากลาง 2 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งทราบมีคนร้ายบุกเข้าไปทุบกระจกธนาคารกรุงไทย
นายจุล บุญเลี้ยง ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ปกติธนาคารจะมีระบบรักษาความปลอดภัย หากมีคนร้ายมาทุบกระจกหรือพยายามเปิดประตู สัญญาณกันขโมยจะร้องดังไปที่โทรศัพท์มือถือของตนเอง และที่ สภ.เมือง แต่เมื่อคืนที่ผ่านมากลับไม่มีเสียงสัญญาณดังแต่อย่างใด ทำให้ตนแปลกใจมาก
นอกจากนี้หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิด จุดเกิดเหตุก็ไม่เห็นหน้าคนร้ายอีกด้วย เนื่องจากมืดมาก และตัวกล้องหันหน้าไปที่ตู้กดเงินเอทีเอ็ม แต่คาดว่ากล้องวงจรปิดของสำนักงานหนังสือเดินทางที่อยู่ติดกับธนาคารน่าจะจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้
จากนั้นตำรวจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เพื่อตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย ส่วนสาเหตุต้องสืบสวนอีกครั้งว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ หรือเป็นการข่มขู่สร้างสถานการณ์ เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ภายในศาลากลาง ถือว่าเป็นสถานที่ราชการสำคัญของจังหวัด
ต่อมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจ ทำลายทรัพย์สินภายในสถานที่ราชการ แม้ว่าจะไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปก็ตาม พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ อส.ดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวดมากขึ้น