ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอบางละมุงเผยแก้กฎหมายจัดการปัญหาเรือเจ็ตสกีเมืองพัทยาไม่คืบ หลังพบข้อเสนอถูกตีกลับทบทวนใหม่หลายรอบ เพราะความไม่สอดคล้องต่อประเภทการใช้ เสนอตั้งคณะอนุกรรมการดูแลเป็นการเฉพาะ เพื่อเอาจริงต่อผู้กระทำผิด
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ที่โรงแรมแกรนด์ โซเลย์ เมืองพัทยา ว่า ปัญหาของผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีเมืองพัทยา ที่ชอบเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยการขูดรีดค่าซ่อมบำรุงเรือเกินกว่าความเป็นจริงนั้น ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าลุกลาม และรุนแรงมาก จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม
ที่ผ่านการ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ได้มอบหมายให้เมืองพัทยาประสานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค กำหนดมาตรการแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งมีผลสรุปบังคับให้ผู้ประกอบการมาทำการลงทะเบียนทำกิน รวมทั้งจัดทำประกันภัยเพื่อให้ครอบคลุม และเป็นช่องทางหลักในการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องแบกภาระ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรือเจ็ตสกีความเป็นจริงแล้วเป็นเรือสำราญกีฬา ที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการแข่งขัน เล่นกีฬา และสันทนาการเท่านั้น ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้นำเข้ามาประกอบธุรกิจให้เช่าแต่อย่างใด ดังนั้น การจัดทำประกันภัย และเสนอข้อแก้กฎหมายจึงประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถประกาศบังคับใช้ได้ จนถึงขณะนี้ปัญหาก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก และการดำเนินการที่ล่าช้า จึงเห็นควรให้ผู้เกี่ยวข้องเรียกประชุมผู้ประกอบการใหม่ พร้อมทำการคุมกำเนิด และจำกัดพื้นที่ใทำกินให้ชัดเจน ขณะที่มาตรการป้องกันการข่มขู่ขูดรีดนักท่องเที่ยว เห็นควรให้ตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งรวมเอาผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยปัญหา และเอาจริงต่อผู้ประกอบการที่ประพฤติตัวนอกกรอบ ฝ่าฝืนระเบียบ สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยว โดยมีอำนาจในการสั่งพักกิจการชั่วคราว และเลิกประกอบกิจการเป็นการถาวร คล้ายกับการแก้ปัญหาเรือโดยสารข้ามฟากพัทยา-เกาะล้าน ซึ่งพบว่ามีผลเป็นที่น่าพอใจ โดยจากนี้จะมีการหารือร่วมกันระหว่างองค์กรภาคต่างๆ อีกครั้ง ก่อนหาผลสรุปเพื่อปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป
นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ที่โรงแรมแกรนด์ โซเลย์ เมืองพัทยา ว่า ปัญหาของผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีเมืองพัทยา ที่ชอบเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยการขูดรีดค่าซ่อมบำรุงเรือเกินกว่าความเป็นจริงนั้น ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าลุกลาม และรุนแรงมาก จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม
ที่ผ่านการ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ได้มอบหมายให้เมืองพัทยาประสานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค กำหนดมาตรการแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งมีผลสรุปบังคับให้ผู้ประกอบการมาทำการลงทะเบียนทำกิน รวมทั้งจัดทำประกันภัยเพื่อให้ครอบคลุม และเป็นช่องทางหลักในการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องแบกภาระ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรือเจ็ตสกีความเป็นจริงแล้วเป็นเรือสำราญกีฬา ที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการแข่งขัน เล่นกีฬา และสันทนาการเท่านั้น ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้นำเข้ามาประกอบธุรกิจให้เช่าแต่อย่างใด ดังนั้น การจัดทำประกันภัย และเสนอข้อแก้กฎหมายจึงประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถประกาศบังคับใช้ได้ จนถึงขณะนี้ปัญหาก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก และการดำเนินการที่ล่าช้า จึงเห็นควรให้ผู้เกี่ยวข้องเรียกประชุมผู้ประกอบการใหม่ พร้อมทำการคุมกำเนิด และจำกัดพื้นที่ใทำกินให้ชัดเจน ขณะที่มาตรการป้องกันการข่มขู่ขูดรีดนักท่องเที่ยว เห็นควรให้ตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งรวมเอาผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยปัญหา และเอาจริงต่อผู้ประกอบการที่ประพฤติตัวนอกกรอบ ฝ่าฝืนระเบียบ สร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยว โดยมีอำนาจในการสั่งพักกิจการชั่วคราว และเลิกประกอบกิจการเป็นการถาวร คล้ายกับการแก้ปัญหาเรือโดยสารข้ามฟากพัทยา-เกาะล้าน ซึ่งพบว่ามีผลเป็นที่น่าพอใจ โดยจากนี้จะมีการหารือร่วมกันระหว่างองค์กรภาคต่างๆ อีกครั้ง ก่อนหาผลสรุปเพื่อปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป