ชาวไทย-เขมรแห่ซื้อสินค้า “ช่องสายตะกู” บุรีรัมย์ วอน คสช.ยกระดับเป็นด่านถาวร

บุรีรัมย์ - ปชช.ชาวไทย-กัมพูชา แห่ซื้อสินค้าจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูคึกคัก ยอดขายเพิ่มกว่า 3 เท่า เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ล้าน เทศบาลเสนอของบปรับปรุงห้วยตะโกเป็นแหล่งท่องเที่ยว พร้อมเรียกร้อง คสช.ยกระดับเป็นด่านถาวร และขยายวันเปิดตลอดสัปดาห์ กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน สร้างรายได้ ปชช. และรองรับ AEC

วันนี้ (2 ส.ค.) บรรยากาศที่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลังเปิดทำการค้าขายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 08.00-15.00 น. มาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2557 ได้มีประชาชนทั้งชาวไทย และกัมพูชา เดินทางมาเที่ยวซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันอย่างคึกคักเฉลี่ยวันละกว่า 10,000 คน

ส่งผลให้ยอดเงินสะพัดเฉลี่ยสัปดาห์ละกว่า 2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงที่เปิดเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรมกว่า 3 เท่า ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นพืชผัก ผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มจะมีประชาชนเดินทางมาเที่ยว และจับจ่ายซื้อสินค้าที่ช่องสายตะกูดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากกระแสตอบรับของประชาชนในการเปิดจุดผ่อนปรนดังกล่าว ทางเทศบาลตำบลจันทบเพชร ได้มีแผนจะพัฒนาปรับปรุงให้อ่างเก็บน้ำห้วยตะโก ซึ่งอยู่ทางเข้า-ออกไปยังจุดผ่อนปรน ให้เป็นหาดทรายเทียมเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน และแหล่งท่องเที่ยว สอดรับกับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปยังทางจังหวัดเพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการแล้ว

นายสันติ อุทุมพร นายกเทศมนตรีตำบลจันทบเพชร กล่าวว่า จากกระแสตอบรับของประชาชนทั้งสองฝั่ง อยากจะเรียกร้องให้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พิจารณาอนุมัติให้ยกระดับจากจุดผ่อนปรนจากการค้าช่องสายตะกู เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมทั้งขยายวันเปิดจากสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เป็นตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวชายแดน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น และรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นี้ด้วย