เปิด “ช่องสายตะกู” บุรีรัมย์แล้ว ปชช.แห่ซื้อขายสินค้า เขมรเร่งผุดกาสิโนยักษ์ติดชายแดนไทย

บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อมผู้ว่าฯ อุดรมีชัย กัมพูชา ร่วมเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี อย่างเป็นทางการ หลังปิด 3 สัปดาห์ พร้อมขยายเพิ่มเป็น 3 วัน/สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว และกระชับสัมพันธ์ ปชช. 2 ประเทศนับหมื่นแห่ซื้อขายสินค้าคึก เตรียมร่วมผลักดันเป็นด่านถาวรรับ AEC ขณะนายทุนเขมรเร่งผุดกาสิโนยักษ์ติดชายแดนไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.อ.ซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา ได้ร่วมกันเป็นประธานพิธีเปิด “จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี” ที่ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อย่างเป็นการแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกสั่งปิดไม่ให้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าต่อเนื่องมา 3 สัปดาห์ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อความมั่นคงภายในประเทศ

โดยการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนในครั้งนี้ ได้มีการยกระดับจากจุดแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรม เป็นจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน พร้อมทั้งขยายวันเวลาเปิด จากเดิม 2 วัน
เป็น 3 วัน/สัปดาห์ คือ วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เป็นสัปดาห์แรกอีกด้วย

พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของทั้ง 2 ประเทศ ก่อนที่ผู้ว่าฯ จ.บุรีรัมย์ และผู้ว่าฯ จ.อุดรมีชัย พร้อมคณะ จะเดินเยี่ยมชมตลาดทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา รวมทั้งได้ปลูกต้นไม้ และรับประทานอาหารร่วมกันอย่างชื่นมื่น

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝั่งได้เปิดจุดผ่อนปรนให้ประชาชนทั้งฝั่งไทย และฝั่งกัมพูชา ได้ข้ามไปซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาวางขาย โดยผู้ที่ผ่านเข้า-ออกต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้จึงจะสามารถผ่านเข้า-ออกได้ ซึ่งมีประชาชนจากทั้งสองฝั่งนับหมื่นคนมาซื้อขายสินค้ากันอย่างคึกคักจนสินค้าบางประเภทไม่พอขาย

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกดี ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับชีวิตประชาชนตามแนวชายแดน ทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณ ที่สำคัญเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-กัมพูชา ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งด้วย และทั้งสองฝั่งยังจะร่วมกันผลักดันให้เป็นด่านผ่านแดนถาวรเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นี้อีกด้วย

ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังทำการเปิดเป็นทางการแล้ว จะมีเงินสะพัดจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากมีการผลักดันให้เป็นด่านถาวรแล้วจะเป็นด่านการค้าชายแดนที่ทุกคนต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว และซื้อขายสินค้าอย่างแน่นอน

ทางด้าน พล.อ.ซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มีการเปิดจุดเปิดผ่อนปรนการค้าชายแดนที่ช่องสายตะกูแห่งนี้ หลังจากได้ร่วมกันผลักดันมานานหลายปี และถือเป็นการจุดเริ่มที่ดีในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม รวมทั้งยังเห็นด้วยที่จะร่วมกันผลักดันให้เป็นด่านผ่านแดนถาวร เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจตลาดการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกดี ทั้งสองฝั่ง ขณะนี้ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ แต่ทั้งสองฝั่งเชื่อว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ในเร็วๆ นี้

ส่วนอาคารกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชาติดชายแดนไทยนั้น กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างอย่างเต็มที่ จากข้อมูลทราบว่า กาสิโนแห่งนี้ มี นายลึม เฮง นักธุรกิจชาวกัมพูชาเป็นเจ้าของลงทุน และถือว่าเป็นสถานกาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดากาสิโนชายแดนกัมพูชาที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยด้านภาคอีสาน ทั้งที่ ช่องจอม จ.สุรินทร์ และ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ