ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 ระดมชุดสืบสวนรื้อคดีฆ่ารัดคอ “น้องแอน” เมื่อปี 2548 หาฆาตกรตัวจริงมาดำเนินคดี หลังศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง “ปุ๊ วอร์มอัพ” อดีตเพื่อนชายพ้นผิด ย้ำไม่หนักใจเรื่องหลักฐาน แม้เวลาผ่านมานาน 9 ปี เนื่องจากรวบรวมไว้แล้วอย่างดี พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์ช่วย
จากกรณีคดีฆ่ารัดคอ น.ส.เบญจภรณ์ ผ่องผิว หรือน้องแอน อายุ 27 ปี แล้วนำศพไปผูกติดไว้กับต้นกระถินริมรั้ว ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.48 ซึ่งนายวุฒิชัย ใจสมัคร หรือ “ปุ๊ วอร์มอัพ” หุ้นส่วนผับชื่อดังในเชียงใหม่ เพื่อนชายของน้องแอน ตกเป็นผู้ต้องหา และถูกจำคุกนานกว่า 3 ปี กระทั่งศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานแวดล้อมที่ยืนยันว่า นายวุฒิชัย เป็นผู้กระทำผิด และได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อวางแนวทางการรื้อคดีนี้อีกครั้ง
โดย พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ต้องการคลี่คลายให้ได้ เพื่อมีคำตอบให้แก่สังคม จึงสั่งตั้งคณะทำงานโดยรวบรวมชุดสืบสวนที่เคยทำคดีนี้มาก่อนมาร่วมกันทำงานอีกครั้ง มอบหมายให้นำพยานหลักฐานเดิมมาวิเคราะห์ใหม่ ดูว่ามีส่วนใดที่ตกค้าง และหาพยานหลักฐานใหม่ๆ มาเพิ่มเติม หากหลังจากนี้ พยานหลักฐานบ่งชี้ไปถึงผู้ต้องสงสัยรายใด ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
แม้คดีนี้จะผ่านมานานประมาณ 9 ปีแล้ว แต่ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะมีพยานหลักฐานเดิมที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมใหม่ไว้แล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะด้านนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนคดีนี้แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาแล้ว แต่ทางตำรวจยังสามารถทำงานต่อไปได้ เพราะตำรวจได้ยุติการสอบสวนในปี 2549 เนื่องจากพ่อและแม่ของน้องแอนประสงค์จะฟ้องคดีด้วยตัวเอง แต่หลังจากนี้ หากมีพยานหลักฐานที่ระบุถึงตัวคนร้ายได้ ก็จะจับกุม และส่งฟ้องทันที
