“อำนวย” ชี้ คดี “โรส” มีการออกหมายจับแล้ว แต่หากตัวอยู่ประเทศอังกฤษ ต้องใช้สนธิสัญญาระหว่างประเทศไทย และอังกฤษ แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีการกระทำความผิดทั้ง 2 ประเทศ ย้ำกระทำความผิดในไทย แต่ไม่ได้ทำผิดที่อังกฤษไม่สามารถส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ ยกกรณี “เจ๊เพ็ญ” เป็นตัวอย่าง ส่วนกรณี “ไอ้ตั้ง อาชีวะ” ออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ตามที่เป็นข่าวปรากฏออกมาก่อนหน้านี้
วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ศ. ช่วยราชการ บช.น. เปิดเผยหลังการประชุมคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ว่า เป็นการติดตามการสืบสวนสอบสวนคดีในความผิดมาตรา112 ซึ่งเป็นคดีค้างเก่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเร่งรัดความคืบหน้าทุกคดี ขณะนี้มีการกระทำในลักษณะนี้น้อยลง มีบางคดีที่เกิดขึ้นมา 3 - 4 ปี และมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องรื้อคดีขึ้นมาดำเนินการใหม่ ตามความเป็นจริงคดีดังกล่าวมีความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว และในช่วงนี้จะมีการออกหมายจับหลายๆ คดี แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากจะผิดรูปคดีที่ทำอยู่
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ขณะนี้คดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บช.น. มีอยู่ 23 เรื่อง ตอนนี้เหลือ 7 - 8 เรื่อง คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ สามารถคลี่คลายคดีได้เกือบทั้งหมด ส่วนกรณี นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ได้ออกหมายจับไปแล้ว และ นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ได้ออกหมายจับแล้วเช่นกัน ระหว่างนั้นได้สืบสวนหาข้อมูลบุคคลที่อยู่ในคลิปเดียวกับ ตั้ง อาชีวะ ว่าเป็นใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม จะมีการขอหมายศาลเพื่ออนุมัติหมายจับตามภาพ ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดในมาตรา 112
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า กรณี โรส ศาลได้อนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว ในคดีหมิ่นสถาบัน หาก โรส อยู่ในประเทศอังกฤษ จะมีผลกับสนธิสัญญาระหว่างประเทศไทย และประเทศอังกฤษ ที่ระบุว่า จะต้องกระทำความผิดทั้งสองประเทศ หรือมีอัตราโทษเกิน 1 ปี เช่น การกระทำความผิดในประเทศไทย แต่ไม่ได้กระทำความผิดในประเทศอังกฤษ ก็ไม่สามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ ตัวอย่างเช่น กรณี นายจักรภพ เพ็ญแข มีความผิดฐานหมิ่นในประเทศไทย แต่ในประเทศอังกฤษไม่มีข้อกฎหมายดังกล่าว ก็ไม่สามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ นอกจากนายจักรภพจะมีความผิดในข้อหาอื่นๆ ของประเทศอังกฤษ จึงจะสามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความมั่นคงในการดูแลสถานทูตอิสราเอล เหตุมีแผนการรักษาการที่มีการชุมนุมก่อนหน้านี้ ระบุว่าในวันที่ 25 ก.ค. ที่จะถึงนี้มีการชุมนุมอีกครั้ง จะเพิ่มมาตราการดูแลอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า จะดูแลท่านทูตและบ้านพัก ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของ บก.น.5 เบื้องต้นจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมาร่วมปฏิบัติการด้วย คาดว่าไม่มีปัญหา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นปัญหาไม่ได้เกิดในประเทศไทย แต่ผู้ชุมนุมมาแสดงความรู้สึกในประเทศไทย ก็จะดูแลความปลอดภัยทั้งตัวบุคคลและสถานที่ด้วย หากมีบุคคลที่สามมาร่วมด้วย คาดว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีที่มีการเชิญชวนให้ออกมาถ่ายภาพชู 3 นิ้ว แล้วนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย มีความเห็นอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ขณะนี้ได้เฝ้าติดตามอยู่ หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายจะดำเนินคดีทันที คาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าจะมีการถ่ายทอดสดต้านการทำงานของคณะ คสช. แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น