ทีมโฆษก คสช.ปัดส่งทหารบุกกอง บก. เหตุเสนอข่าว “เทือก” ปูด และข่าวตั้งเสรีไทยฯ ย้ำขอความร่วมมือ ใช้ดุลพินิจไม่บังคับ เว้นข่าวสร้างกระแสลือหวังผลมิชอบ ด้าน รอง ผบก.น.1 เผยรักษาการ ผบ.ตร.มอบ “สมยศ” ติดตาม “จารุพงศ์-เจ๊เพ็ญ” ตั้งแก๊งเสรีไทยฯ ผิดต้องจัดการ เช็ก กม.ข้ามแดนประเทศที่กบดาน มีก็ดำเนินการ รับไม่ง่าย ประสานอินเตอร์โปลช่วย แย้มให้เขมรชี้เป้า
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกทหารบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว คสช.ส่งทหารเข้าไปยังกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางฉบับ หลังนำเสนอข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และข่าวจัดตั้งองค์กรเสรีไทยฯ ของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย และนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล นโยบายทำงานโดยร่วมกับสื่อ เป็นการสื่อสารขอความร่วมมือในรูปแบบของการส่งหนังสือ พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ไลน์ หรือส่งข้อความทางอีเมล ไม่ได้เป็นการบังคับ ส่งให้ทหารบุกไปยังสำนักพิมพ์อย่างที่เป็นข่าว
เมื่อถามว่า สื่อยังเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ และนายจักรภพ ได้อยู่ใช่หรือไม่ พ.อ.วินธัยตอบว่า ต้องอยู่ในดุลพินิจของสื่อ ไม่ได้มีมาตรการบังคับ หรือปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรรู้ นอกจากว่าเป็นข่าวจินตนาจากการคาดเดา สร้างกระแสข่าวลือเพื่อหวังแสวงประโยชน์อันมิชอบผ่านสื่อ อาจต้องขอความร่วมมือให้พิจารณาในการวางน้ำหนักพื้นที่ข่าวให้เหมาะสม
ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยถึงการติดตามอดีตนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นนายจารุพงศ์ และนายจักรภพ ที่ไปตั้งกลุ่มเสรีไทยต่อต้าน คสช.ที่ต่างประเทศว่า ทางรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบเรื่องนี้ และวันนี้ได้มีการประชุมทีมกฎหมาย โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณากรณีการตั้งองค์กรเสรีไทยฯ ของอดีตนักการเมืองเหล่านี้ว่าจะผิดกฎหมายกฎหมายใดหรือไม่ ถ้าผิดก็ต้องเร่งดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การต่อตั้งองค์กรเสรีไทยฯ ในต่างประเทศจะสามารถติดตามตัวได้อย่างไร พ.ต.อ.ทรงพลกล่าวว่า ก็ต้องดูก่อนว่าประเทศที่ถูกอ้างว่าบุคคลเหล่านี้ไปอยู่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องทำไปตามกระบวนการคือพนักงานสอบสวนส่งเรื่องไปที่อัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดก็จะดำเนินการผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศเพื่อติดตามบุคคลเหล่านี้
เมื่อถามว่าจะมีขั้นตอนลัดให้รวดเร็วกว่านี้เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้หนีไปประเทศอื่นอีกหรือไม่ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ต้องไปตามขั้นตอนนี้ เพราะมีระเบียบอยู่ อย่างไรก็ตาม อยากให้เข้าใจว่าการติดตามคนในต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด
“แต่ปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการประสานกับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปลประเทศต่างๆ อยู่แล้ว เพื่อให้ช่วยติดตามบุคคลที่หลบหนีอยู่ แต่บางประเทศที่ไม่มีอินเตอร์โปลอย่างกัมพูชา เราอาจประสานขอให้เขาช่วยชี้เป้าให้ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปล็อคตัว เหมือนกรณีที่คนต่างประเทศหนีคดีจากประเทศเขามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เราก็ช่วยชี้เป้าให้ จนจับกุมได้” พ.ต.อ.ทรงพลกล่าว