“หลวงปู่พุทธะอิสระ” เดินทางมาที่บ้านทรงไทย เพื่อรับถวายผ้าป่าและฉันเพล พร้อมกล่าวถึงกรณี “จารุพงศ์ - จักรภพ” จัดตั้งเสรีไทยไม่ควรให้ราคากับการกระทำของบุคคลทั้งสองมองเป็นเสรีทาส ชี้เป้าหมายคนละอย่างกัน แนะลูกหลานเสรีไทยรวมตัวกันฟ้องร้อง ฝาก คสช. ตรวจสอบผู้อยู่เบื้องหลังเป็นนักการเมืองท้องถิ่นรอจังหวะออกมาสร้างปัญหา
วันนี้ (26 มิ.ย.) หลวงปู่พุทธะอิสระ เดินทางมาที่บ้านทรงไทย เพื่อรับถวายผ้าป่า และฉันเพล ที่บ้านเรือนไทย ถ.แจ้งวัฒนะ และหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงคดีการชุมนุมว่า อยู่ระหว่างการทำเอกสารคำให้การแก้ข้อกล่าวหากบฏเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อยื่นต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยจะชี้แจงให้พนักงานสอบสวนเห็นว่าการเคลื่อนไหวไม่เข้าข่ายกบฏ เพราะไม่มีเจตนาในการล้มล้างการปกครอง ซึ่งข้อต่อสู้ของแกนนำแจ้งวัฒนะต่างจากเวทีอื่น จึงจะขอแยกสำนวนต่างหาก เพราะหากรวมสำนวนเป็นชุดเดียวจะแย่ ดังนั้น จะไม่ขอเลื่อนคดีออกไปตรงกับแกนนำเวทีหลักซึ่งขอเลื่อนคดีไปถึงเดือน ก.ย. นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงแกนนำเวทีอื่นๆ ว่า ในช่วงนี้บรรยากาศบ้านเมืองกำลังเป็นไปด้วยดี ไม่ควรออกมาทำให้เสียบรรยากาศ เพราะฝ่ายตรงข้ามจะมองว่าการออกมาปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการตกลงกันไว้ก่อนไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะทำให้เพิ่มแรงกดดันไปให้ คสช. ทำงานลำบากยิ่งขึ้น วานนี้ได้คุยกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ซึ่งมีแนวทางชัดเจนว่าจะวางมือ ถอดใจทางการเมืองแล้ว ในส่วนแกนนำคนอื่นขอให้ช่วยกันสงบปากสงบคำ หากเหงามากก็ขอให้มาช่วยกันปลูกป่า ลอกผักตบชวาเพื่อสร้างความปรองดอง
หลวงปู่พุทธะอิสระ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และ นายจักรภพ เพ็ญแข ประกาศตั้งกลุ่มเสรีไทย เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านการปฏิวัติว่า สังคมไทยไม่ควรให้ราคากับการกระทำของบุคคลทั้งสอง และขอเรียกร้องให้ลูกหลานของอดีตเสรีไทยมารวมตัวกันฟ้องที่ทำให้ชื่อเสียงของเสรีไทยเสียหาย เพราะเสรีไทยก่อตั้งโดย นายปรีดี พนมยงค์ และ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มีเป้าหมายเพื่อให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากการคุกคามโจมตีของต่างชาติ แต่สิ่งที่นายจารุพงศ์ก่อตั้งเป็นเสรีทาส ไม่ใช่เสรีไทยที่เป็นรัฐบุรุษของชาติ เวลานี้เราไม่ได้เป็นทาสของต่างชาติ ชงปลดแอกคนไทยไม่ให้เป็นทาสนักการเมือง ขอแนะนำให้ คสช. ตรวจสอบและยึดทรัพย์ผู้อยู่เบื้องหลังเสรีทาสทั้งหมด เพราะขณะนี้ขบวนการใต้ดินกำลังก่อตัวกันหลวมๆ โดยเป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งรอจังหวะออกมาสร้างปัญหา