00 ได้เวลาที่ต้องพิสูจน์น้ำใจกันอีกครั้งว่า ใครคบได้ ใครคบไม่ได้ ก็ในช่วงที่เรามีปัญหานี่แหละ เพื่อนถ้าไม่ช่วยกันในยามยาก มันก็ไม่รู้ว่าจะเสียเวลาคบกันไปทำไม ไม่ว่าระดับประเทศหรือระดับบุคคล ถ้าไม่จริงใจต่อกัน คิดแต่เอาเปรียบ เอาแต่ได้ฝ่ายเดียวมองอีกฝ่ายเป็นลูกไล่ ไม่เคยให้เกียรติ มันก็ต้องทางใครทางมัน ต่างคนก็เลือกอนาคตของตัวเองกันไป เหมือนกับท่าทีของ สหรัฐอเมริกา กับไทยในเวลานี้ ที่อ้างเอาสาเหตุที่ คสช.ยึดอำนาจการปกครองแล้วนำไปสู่การบีบคั้น กดดันต่างๆ นานา อ้างว่าไม่มีประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิ์มั่งอะไรมั่ง เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว พร้อมตัดความช่วยเหลือแบบจิ๊บจ๊อย ทำนองช่วยสิบบาทยี่สิบบาท แต่โพนทนาให้กลางตลาดราวกับว่าช่วยเหลือเป็นพันเป็นหมื่น
00 ทั้งที่ข้ออ้างของสหรัฐฯ รวมทั้งอียู ที่ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับไทย ห้ามคนสำคัญของคสช. เข้าประเทศ แน่นอนว่าในจำนวนนั้นย่อมต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหมายเลขหนึ่ง แต่คำถามก็คือ ถ้าพวกเอ็งอ้างอย่างนี้ ก็บอกกันตรงๆมาเลยดีกว่าว่า "กูไม่ชอบมึง" จะได้ชัดเจนไปเลย เพราะเมื่อลองไปสำรวจประเทศอื่นที่อียู และสหรัฐฯไปดี๊ด๊า เข้าไปลงทุนไปสูบเอาทรัพยากรประเทศนั้นกันอย่างสนุกสนาน ถามว่าเอากันให้เห็นง่ายๆ อย่างเวียดนาม มันมีการเลือกตั้งมั๊ย ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมั๊ย หรือแม้แต่จีน ทำไมเอ็งไม่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งบ้างวะ หรือแม้แต่พม่า ที่แต่ก่อนทำเป็นดัจริตคว่ำบาตรเขา ทั้งที่อยากจะเข้าไปกอบโกยทรัพยากรของเขาใจแทบขาด แต่พอพม่าเปิดช่องให้นิดเดียว บอกว่าได้ยอมปฏิรูปแง้มประตูนิดเดียวก็แห่แหนกันเข้าไปยังกะแร้งรุมทึ้ง ทั้งที่ถามว่าพม่ามีการเลือกตั้งมั๊ย มี แต่รับรองว่ามันไม่ใช่รูปแบบประชาธิปไตยแน่นอน
00 ดังนั้น เมื่อประเทศเหล่านั้นมีเงื่อนไขกับเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องไปแคร์มากนัก แม้ว่าเราคงไม่ถึงขั้นไปตอบโต้ แต่ให้จำเอาไว้ แล้วหันไปหามิตรรายอื่นที่พร้อมเข้ามาจับมือ อย่างที่เห็นทันควันก็คือ จีนส่งเอกอัครทูตเข้ามาเยี่ยมคารวะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ มายืนยันความสัมพันธ์ และยกให้ไทยมีความสำคัญในอาเซียนเสียด้วย ยังบอกว่าในรอบหนึ่งเดือนของ คสช. ทำให้การค้าสองประเทศกลับมาสะพัดอีกครั้งหลังสะดุดลงไปก่อนหน้านี้ ความหมายก็ คือในยุค ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร สั่งไทยเมินจีน แล้วหันไปเป็น"นายหน้า"ให้ ฝรั่งตะวันตกไงละ อ้อเกือบลืม เห็นว่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ก็เป็นคิวของ เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้มาพบ คสช.อีก มาแลกเปลี่ยนการค้าการลงทุน ดังนั้น ใครยังคิดมาก รังเกียจเราก็เชิญ
00 เกิดปัญหาคราวใดเป็นต้องนึกถึงหลัก "ปรัชญาพอเพียง" ขึ้นมาทันที นี่ก็เหมือนกัน ที่มีหลักสำคัญคือพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก และเดินสายกลาง เหมือนกับเวลานี้ที่เราหลงไปกับมายาอะไรก็ไม่รู้ จนไม่รู้จักตัวเอง หลงลืมตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวน หันมาจัดระเบียบ (จริงๆ) กวาดบ้านกันครั้งใหญ่ สร้างความเข้มแข็ง เตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อนสักระยะหนึ่ง ก่อนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าไม่มีเพื่อน เพราะเราอยู่ในจุดสำคัญ มีแต่คนเดินผ่านต้องแวะมาหา มาทำความรู้จักอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นอยากจะรู้นักว่าทั้ง มะกัน และอียู มันจะทิ้งไทยจริงหรือเปล่า อยากถือไพ่ทักษิณ เพราะคิดว่าได้ประโยชน์มากกว่าก็เชิญ อย่ามาง้อก็แล้วกัน !!
00 ดูอาการแล้วแป๊กแน่นอน สำหรับเสรีไทยฯ ของ จักรภพ เพ็ญแข กับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่จับแพะมาชนแกะ สร้างสัญญลักษณ์ ผิดเพี้ยน นั่นคือ นำเอาเหตุการณ์วันที่ 24 มิ.ย. ของคณะราษฎร์ ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาถือฤกษ์เปิดตัว ขณะที่ชื่อเสรีไทยฯ ก็แอบอิงมาจากคณะบุคคลที่เสียสละเพื่อชาติ รักความเป็นไทย ในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่บริษัทที่เป็นอยู่มันผิดเพี้ยนไปคนละเรื่อง ทั้งพวกก่อการก็ล้วนเป็นทาส ตัวการทำลายประชาธิปไตย สู้เพื่อนายทุนสามานย์ ไอ้นี่มันฝันจนเพี้ยนไปแล้ว !!
00 ทั้งที่ข้ออ้างของสหรัฐฯ รวมทั้งอียู ที่ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับไทย ห้ามคนสำคัญของคสช. เข้าประเทศ แน่นอนว่าในจำนวนนั้นย่อมต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหมายเลขหนึ่ง แต่คำถามก็คือ ถ้าพวกเอ็งอ้างอย่างนี้ ก็บอกกันตรงๆมาเลยดีกว่าว่า "กูไม่ชอบมึง" จะได้ชัดเจนไปเลย เพราะเมื่อลองไปสำรวจประเทศอื่นที่อียู และสหรัฐฯไปดี๊ด๊า เข้าไปลงทุนไปสูบเอาทรัพยากรประเทศนั้นกันอย่างสนุกสนาน ถามว่าเอากันให้เห็นง่ายๆ อย่างเวียดนาม มันมีการเลือกตั้งมั๊ย ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมั๊ย หรือแม้แต่จีน ทำไมเอ็งไม่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งบ้างวะ หรือแม้แต่พม่า ที่แต่ก่อนทำเป็นดัจริตคว่ำบาตรเขา ทั้งที่อยากจะเข้าไปกอบโกยทรัพยากรของเขาใจแทบขาด แต่พอพม่าเปิดช่องให้นิดเดียว บอกว่าได้ยอมปฏิรูปแง้มประตูนิดเดียวก็แห่แหนกันเข้าไปยังกะแร้งรุมทึ้ง ทั้งที่ถามว่าพม่ามีการเลือกตั้งมั๊ย มี แต่รับรองว่ามันไม่ใช่รูปแบบประชาธิปไตยแน่นอน
00 ดังนั้น เมื่อประเทศเหล่านั้นมีเงื่อนไขกับเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องไปแคร์มากนัก แม้ว่าเราคงไม่ถึงขั้นไปตอบโต้ แต่ให้จำเอาไว้ แล้วหันไปหามิตรรายอื่นที่พร้อมเข้ามาจับมือ อย่างที่เห็นทันควันก็คือ จีนส่งเอกอัครทูตเข้ามาเยี่ยมคารวะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ มายืนยันความสัมพันธ์ และยกให้ไทยมีความสำคัญในอาเซียนเสียด้วย ยังบอกว่าในรอบหนึ่งเดือนของ คสช. ทำให้การค้าสองประเทศกลับมาสะพัดอีกครั้งหลังสะดุดลงไปก่อนหน้านี้ ความหมายก็ คือในยุค ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ชินวัตร สั่งไทยเมินจีน แล้วหันไปเป็น"นายหน้า"ให้ ฝรั่งตะวันตกไงละ อ้อเกือบลืม เห็นว่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ก็เป็นคิวของ เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้มาพบ คสช.อีก มาแลกเปลี่ยนการค้าการลงทุน ดังนั้น ใครยังคิดมาก รังเกียจเราก็เชิญ
00 เกิดปัญหาคราวใดเป็นต้องนึกถึงหลัก "ปรัชญาพอเพียง" ขึ้นมาทันที นี่ก็เหมือนกัน ที่มีหลักสำคัญคือพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก และเดินสายกลาง เหมือนกับเวลานี้ที่เราหลงไปกับมายาอะไรก็ไม่รู้ จนไม่รู้จักตัวเอง หลงลืมตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวน หันมาจัดระเบียบ (จริงๆ) กวาดบ้านกันครั้งใหญ่ สร้างความเข้มแข็ง เตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อนสักระยะหนึ่ง ก่อนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าไม่มีเพื่อน เพราะเราอยู่ในจุดสำคัญ มีแต่คนเดินผ่านต้องแวะมาหา มาทำความรู้จักอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นอยากจะรู้นักว่าทั้ง มะกัน และอียู มันจะทิ้งไทยจริงหรือเปล่า อยากถือไพ่ทักษิณ เพราะคิดว่าได้ประโยชน์มากกว่าก็เชิญ อย่ามาง้อก็แล้วกัน !!
00 ดูอาการแล้วแป๊กแน่นอน สำหรับเสรีไทยฯ ของ จักรภพ เพ็ญแข กับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่จับแพะมาชนแกะ สร้างสัญญลักษณ์ ผิดเพี้ยน นั่นคือ นำเอาเหตุการณ์วันที่ 24 มิ.ย. ของคณะราษฎร์ ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาถือฤกษ์เปิดตัว ขณะที่ชื่อเสรีไทยฯ ก็แอบอิงมาจากคณะบุคคลที่เสียสละเพื่อชาติ รักความเป็นไทย ในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่บริษัทที่เป็นอยู่มันผิดเพี้ยนไปคนละเรื่อง ทั้งพวกก่อการก็ล้วนเป็นทาส ตัวการทำลายประชาธิปไตย สู้เพื่อนายทุนสามานย์ ไอ้นี่มันฝันจนเพี้ยนไปแล้ว !!