ลำพูน - เครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือนับร้อยแห่รับอดีตกำนันถึงหน้าเรือนจำลำพูน หลังติดร่างแหคดีทุจริตลำไยปี 47 เจ้าตัวครวญตกเป็นเหยื่อ ชี้เงินทุจริตลำไย 4 พันล้าน “นายทุน-ล้ง-นักการเมือง” ได้แน่นอน พร้อมรวมตัวส่งไปรษณียบัตรถึง คสช.ช่วยรื้อคดีใหม่-สางปัญหาปฏิรูปที่ดินด้วย
วันนี้ (3 ก.ค.) นายสุขแก้ว ฟุงฟู อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 237/2 หมู่ที่ 7 ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ประธานเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ พร้อมชาวบ้านกลุ่มเกษตรกรจำนวนกว่า 100 คน ไปรอต้อนรับนายธนา ญะโสภา อายุ 57 ปี อดีตกำนันตำบลหนองล่อง ที่ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำจังหวัดลำพูน หลังถูกจองจำในคดีทุจริตลำไยเมื่อปี 2547 โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 4 เดือน
นายธนาเปิดเผยหลังได้รับการปล่อยตัวว่า วันนี้ดีใจมากเพราะได้รับอิสรภาพ ก็อยากจะฝากถึง คสช. และอยากบอกว่ากระบวนการยุติธรรมก็ต้องได้รับการปฏิรูป เพราะที่ผ่านมามักจะเป็นสองมาตรฐาน คนจนมักจะติดคุก คนรวยมักจะไม่ติดคุก นักการเมืองจะรอดตัวเวลามีการทุจริต เหยื่อก็จะเป็นประชาชน
“จึงอยากจะฝากว่าหากจะปฏิรูปการเมือง ตนขอฝาก คสช.ด้วยว่าให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้กฎหมายยุติธรรมจริงๆ ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านคนยากจนจริงๆ เพราะทุกวันนี้มันไม่มีความเป็นธรรม คนรากหญ้า คนเบื้องล่างได้รับความเป็นธรรมนิดเดียว หรือไม่ได้เลย ตนอยากเน้นให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แบบอ้างกันเฉยๆ อย่างเดียว พอถึงเวลาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ขอให้นำมาปฏิบัติได้ด้วยให้มีความเสมอภาค”
นายธนายังกล่าวเพิ่มเติมว่า คนที่ทำผิดจริงๆ ต้องได้รับการลงโทษ ซึ่งตนรู้สึกเป็นเหยื่อในคดีนี้ คนที่ได้จริงๆ เป็นพวกนักการเมือง คนระดับล่างไม่ได้เงิน คนที่ได้ผลประโยชน์คือพวกนายทุน พวกล้ง พวกนักการเมือง พวกนั้นได้เงินแน่นอน
“เงินจำนำลำไยตั้ง 4 พันล้าน ผู้ใหญ่บ้าน-กำนันนั้น เป็นเพียงแค่เหยื่อ”
นายธนาบอกอีกว่า เวลามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็เป็นที่รองรับคดี ถึงแม้จะสู้ว่าไม่ได้ทุจริต แต่ก็ยังโดนคดีอยู่ ก็ให้เข้ามาดูแลแบบตรงไปตรงมา ให้ว่ากันไปตามเนื้อผ้าเลย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็น่าจะพ้นผิด เหมือนคดีที่ตนโดน ดูแล้วมันไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะไปรับรองว่าใครมีสวนกี่ไร่ๆ หน้าที่ก็ระบุไว้แล้วว่าเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล-อำเภอ ต้องสำรวจว่าชาวสวนมีกี่ไร่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนันแค่รับรองว่าคนนี้เป็นลูกบ้าน มีอาชีพเป็นเกษตรกรเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าต้องไปสำรวจที่ดิน
นายธนายังกล่าวเพิ่มเติมฝากถึง คสช.อีกว่า การปฏิรูปที่ดินก็เหมือนกัน เราเรียกร้องกันมานับ 10 ปีแล้ว พอเปลี่ยนรัฐบาลก็หยุดไป มาถึงตรงนี้ตนอยากให้ คสช.เห็นความสำคัญเรื่องที่ดินทำกินของเกษตรกร และขอให้แก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว อย่าให้เหมือนรัฐบาลในอดีตที่เตะถ่วง
เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาเรื่องทุจริตที่ดิน ก็ต้องเอาจริงเอาจัง ต้องรวดเร็ว เพราะเราพบการทุจริตแล้วแต่ยังไม่คืบหน้า ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย
“อยากให้เข้ามาดูเรื่องธนาคารที่ดินปฏิรูปที่ดินโดยชุมชน ฝาก คสช.ด้วย” นายธนากล่าวในที่สุด
หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้พากันเดินทางไปที่สำนักงานไปรษณีย์จังหวัดลำพูน เพื่อส่งไปรษณียบัตรถึง คสช.เพื่อให้รื้อฟื้นคดีทุจริตลำไย นำคนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริงๆ มาลงโทษ รวมถึงการปฏิรูปที่ดินด้วย