โฆษกประชาธิปัตย์ ฝาก คสช.เกาะติดพวกบิดเบือน แนะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแก้ชลประทานและการเกษตร เน้นประโยชน์ประชาชนไม่ใช่คะแนนนิยมการเมือง หนุนชินกังเซ็นไปหนองคาย โวรางคู่ทำมาตั้งแต่สมัยชวน อนุมัติงบยุคมาร์ค แต่เพื่อไทยดึงไปยัดในสองล้านล้าน เชื่อใช้งบปี 58 ทำก็ได้ เสนอผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ ตั้งธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน คิดก่อนยกเลิกกองทุนน้ำมัน
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ฝากถึง คสช.ให้ติดตามพฤติกรรมบิดเบือนข้อมูลที่ยังเกิดอย่างต่อเนื่องทั้งขบวนการใต้ดินทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการให้ข้อมูลบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน การปรองดองต้องไม่เกิดจากการบังคับหรือความจำเป็นแต่ต้องแก้ไขจากพื้นฐานของความขัดแย้งสร้างความเข้าใจต่อประชาชน
ส่วนการพิจารณากรอบวงเงินงบประมาณปี 58 วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาทนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า จำเป็นที่ต้องผลักดันกฎหมายงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศหลังจากกระบวนการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐชะลอไปนานพอสมควร โดยเห็นว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ปัญหาชลประทานและการเกษตร ควรเป็นหัวใจในการดำเนินการ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนไม่ใช่คะแนนนิยมทางการเมือง หรือผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง เช่น โครงการรถไฟไม่ว่าจะเป็นรางคู่ หรือความเร็วสูง ซึ่งในส่วนรถไฟความเร็วสูงเส้นทางสำคัญที่ควรทำ คือ กรุงเทพ-หนองคาย ที่จะเชื่อมจีนมาสู่ประตูอาเซียนคือประเทศไทย ซึ่งคิดว่าจะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ โดยหากติดต่อกับรัฐบาลจีนเพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้โดยไม่ต้องใช้เงินกู้
ส่วนรถไฟรางคู่นั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลชวนจนถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยในรัฐบาลชวนก่อสร้างสี่เส้นทาง ส่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์วางแผนระยะยาวทั้งหมดกว่า 3 พันกิโลเมตร มีแผนแม่บทที่จะก่อสร้าง 10 สาย อนุมัติงบประมาณไปแล้ว1.7 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีผลช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า แต่รัฐบาลเพื่อไทยดึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ไปอยู่ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้าน จึงฝากผู้เกี่ยวข้องว่าอย่าเอาเงินเป็นตัวตั้งให้เอาโครงการที่เป็นประโยชน์เป็นตัวตั้ง เพราะหากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่าประเทศไทยอาจไม่จำเป็นต้องกู้เงินเลย ทั้งนี้เชื่อว่าสามารถผลักดันได้ทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ได้ภายใต้กรอบงบประมาณปี 58
สำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น นายชวนนท์เห็นว่า กฎหมายเงินกู้ดังกล่าวไม่มีผลบังคับใข้แล้ว ดังนั้นการพิจารณาโครงการชลประทานจึงควรยึดยุทธศาสตร์การจัดเก็บน้ำอย่างมีระบบ เช่น การพัฒน่าอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก การวางชลประทานระบบท่อไปยังพื้นที่การเกษตรเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำจะต้องมีการศึกษาเพื่อให้ทรัพยากรประเทศถูกนำมาใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการจัดโซนนิ่งที่เหมาะสมสำหรับการทำการเกษตร การจัดตั้งธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน ภาษีที่ดิน และภาษีมรดก ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรได้ โดยเชื่อว่าข้าราชการมีความเข้าใจอยู่แล้วแต่ถูกนโยบายประชานิยมของฝ่ายการเมืองเข้ามาครอบงำทำให้ไม่สามารถผลักดันสิ่งที่จะเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อเกษตรกรได้
นายชวนนท์กล่าวถึงการปฏิรูปพลังงานว่า จะต้องพิจารณาเรื่องโครงสร้างราคา และหากจะยกเลิกกองทุนน้ำมันก็ต้องพิจารณาผลกระทบด้วยว่าจะกระทบกับนโยบายพลังงานทดแทน และจะมีมาตรการใดมาทดแทนกรณีที่ราคาพลังงานผันผวน ซึ่งพรรคจะเดินหน้าเสนอแนวทางปฏิรูปทุกด้านหลังจากมีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมืองแล้ว