ASTVผู้จัดการรายวัน- “เหลิม”กั๊ก แถลงการณ์ ศอ.รส. ฉบับ 3 อ้างรอประเมินสถานการณ์ ยังตะแบงต้องเลือกตั้ง พร้อมสั่ง"วรพงษ์" ระดมกำลังรับ แตกหัก วัน กปปส.ชุมนุมใหญ่ "ปึ้ง" อ้าง"ปู"สั่งปรับลดกำลังทหาร เสริมตำรวจแทน เพราะมีความคล่องตัวกว่าในการจับกุม กัน"ถวิล" ไม่มีที่นั่งใน ศอ.รส. ด้าน กอ.รมน. ยืนยันให้คงกำลังทหาร-ตำรวจ ไว้ตามเดิม "สุเทพ"ชวนพนักงานการท่าเรือ ร่วมพลังชุมนุมใหญ่ไล่"ปู"วันนี้
เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (29 เม.ย.) ที่กองบัญชการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า ศอ.รส. จะยังไม่ออกแถลงการณ์ ฉบับ 3 ในวันนี้ (29 เม.ย.) ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ และมั่นใจว่า ใครจะทำอะไร ที่ไหน เป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหว แต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยการเลือกตั้ง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับวิธีการอย่างอื่น ขอยืนยันหัวเด็ดตีนขาด ตนก็ประท้วง และปราศรัยเป็น ลองดูหากมีนายกฯ พระราชทานมานอกกรอบ นอกระบบ คอยดูตนเองบ้าง แต่จะไม่ทำแบบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. คนที่เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด กลับมาเรียกร้องอำนาจนอกระบบ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ และแนวคิดปฏิรูปเอานายตำรวจระดับผู้การจังหวัด ไปขึ้นไว้กับกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาในวันนี้ สุดท้ายต้องนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งในอาเซียน 10 ประเทศ กำลังลังเลประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น ขณะที่กกต.มี 5 คน อย่าให้พูดอยู่คนเดียว มันเกิดความสับสน
เมื่อถามว่า คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฝ่ายการเมืองยังสามารถที่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่มีปัญหาเพราะนักการเมือง แต่มีปัญหาเพราะพวกอยู่ข้างหลังที่อยากมีอำนาจ อยากเป็นนายกฯ ที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง พวกนักวิชาการอัปปรีย์อีกส่วนหนึ่งก็หวังส้มหล่น
**ระดมตร.รับมือม็อบกปปส.
ทั้งนี้ อยากเห็นนายสุเทพ ว่า จะทำอย่างไรในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะแตกหักก็แตกหัก ตนจะประชุมตำรวจนครบาล โดยสั่ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ให้ระดมกำลังรับการแตกหัก
เมื่อถามว่าท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเดินสายพบหลายๆ ฝ่าย เป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอระบุว่าใคร แต่ใครก็ตามที่ดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องน่าชื่นชม เมื่อถามว่า ทางกกต.ยังยืนยันว่า วันที่ 20 ก.ค. เหมาะสมกับการจัดการเลือกตั้งที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ตามกฎหมาย เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องมาแจ้งรัฐบาล เพื่อขออนุมัติงบประมาณ ความพร้อมในการสนับสนุนจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องดีที่ กกต.กำหนด 20 ก.ค.นี้ แต่ถ้ารออีก 2 ปี จะยุ่งยาก
เมื่อถามว่านายสุเทพ ระบุว่า จะขัดขวางการเลือกตั้ง โดยจะยกหีบบัตรหนี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวสั้นๆว่า “ก็จับ จะเอาไว้ทำไม”
** "ปึ้ง"อ้าง"ปู"สั่งลดทหาร เพิ่มตำรวจ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานปรึกษา ศอ.รส. กล่าวถึงการปรับลดกำลังทหารลง และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า เรื่องการปรับลดกำลัง นายกฯได้กำชับไว้ตั้งแต่ครั้งที่เปลี่ยนจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเหตุการณ์ความรุนแรงได้เบาบางลง นายกฯ จึงกำชับว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ปรับลดกำลังลง เพื่อให้กำลังพลได้พักผ่อน อีกทั้ง ศอ.รส. เห็นว่า ทหาร ซึ่งปราศจากอาวุธได้ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งขึ้น แตกต่างจากตำรวจ ที่มีอาวุธในการป้องกันตัวได้ จึงไม่อยากเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ รวมทั้งตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ความสะดวกกับประชาชนในการจราจรช่วงที่ มีการชุมนุมได้ ซึ่งการที่กลุ่มนปช. ประกาศจะชุมนุมที่ถนนอักษะ ไม่ออกนอกพื้นที่อื่นทำการดูแล และปรับลดกำลังทำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล จะยังใช้ทหารเหมือนเดิม
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การปรับลดกำลังนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการไม่ไว้ใจทหาร แต่เพื่อการปฏิบัติงานที่คล่องตัวขึ้น และช่วงหลังเรามีแผนที่จะดำเนินการจับกุมแกนนำ กปปส. ที่มีหมายจับด้วย และจับกุมผู้มีอาวุธบริเวณพื้นที่ชุมนุม โดยตำรวจจะมีความคล่องตัวในการจับกุมได้ และจะไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าดูแลผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นสัญาณว่าศอ.รส. จะทำงานอย่างเข้มข้นขึ้น ในการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด อีกทั้งกรณีพระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. แจ้งวัฒนะ จะนำการ์ดกปปส. ที่ทำร้ายร่างกาย พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รองผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ไปมอบตัว 5 คน ว่า ที่จริงแล้วมีการแจ้งความไว้ 10 คน เราก็ต้องดำเนินการจับกุม พระพุทธะอิสระ จะมาต่อรองว่า คนของตัวเองไม่มีความผิด ไม่ได้
** ไม่มีที่นั่งให้"ถวิล"ในศอ.รส.
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากวันที่ 6 พ.ค. จะไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งกลุ่มกปปส.ก็มีจำนวนคนน้อยลงอยู่ในหลัก 2,500 -3,000 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นการ์ด และการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำเดินขบวนไปหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อหาแนวร่วมนั้น ตนคิดว่าผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต้อนรับ นายสุเทพ ตามมารยาท เพื่อไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในองค์กร ถ้าไปคัดค้านก็กลัวว่าจะไปทำลายสถานที่
ส่วนการทำงานของ ศอ.รส. หลังจากนายถวิล เปลี่ยนศรี กลับมาดำรงตำแหน่งเลขา สมช. นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คณะทำงาน ศอ.รส. ครั้งนี้ ไม่มีตำแหน่งเลขาฯ สมช.ร่วมอยู่ นายถวิล ก็ไม่ต้องเสียใจ และให้ไปทำงานในการดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แทน ส่วนพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขา สมช.นั้น นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษา ศอ.รส. อยู่แล้ว
** กอ.รมน.ไม่ให้ลดกำลังทหาร
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กอ.รมน. ครั้งที่ 3/2557 โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ตามที่ครม.ได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ให้ยืดเวลาการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยมอบหมายให้ กอ.รมน. รับผิดชอบในการดำเนินการตาม มาตรา 15 และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย จำนวน 18 ฉบับ ตามมาตรา 16 วรรค 4 รวมทั้งออกข้อกำหนดตาม มาตรา 18 แห่งพ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายใน พ.ศ.2551 จำนวน 5 ข้อ
ในการนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้ ศอ.รส. ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามคำสั่ง กอ.รมน. ที่ 110/2557 ลงวันที่ 18 มี.ค.57 ยังคงเป็นหน่วยงานในการดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับโครงสร้าง และอัตรากำลังของ ศอ.รส. นั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบตามกรอบการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามความจำเป็น และสอดคล้องกับสถานการณ์ จำนวน 60,717 อัตรา ในส่วนที่สำคัญ ยังคงเดิม ประกอบด้วย กำลังตำรวจ 112 ร้อย. และกำลังทหาร 57 ร้อย. จัดจากสำนักงานปบัดกลาโหม (สป.) 1 ร้อย. กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) 1 ร้อย. กองทัพบก (ทบ.) 46 ร้อย. กองทัพเรือ (ทร.) 7 ร้อย. กองทัพอากาศ ( ทอ.) 2 ร้อย. โดย รมว.กระทรวงแรงงาน เป็น ผอ.ศอ.รส.
"ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงการปรับลดกำลังทหาร แต่การที่ กอ.รมน. ยังคงกรอบใช้อัตรากำลังเดิมนั้น เนื่องการประชุมบอร์ด กอ.รมน. แต่ละครั้ง จะต้องมีการเชิญรัฐมนตรีหลายกระทรวงมาเข้าร่วมประชุม เพราะเกรงว่าจะไม่ทันสถานการณ์ ส่วนทาง ศอ.รส. จะใช้กำลังทหาร หรือ ตำรวจ จำนวนเท่าไร ทาง ศอ.รส. จะพิจารณาเอง ซึ่งการใช้กำลังทหาร ให้เป็นไปตามข้อบังคับ กห.ว่าด้วย การใช้กำลังทหาร การเคลื่อนย้ายกำลังทหาร และการเตรียมพร้อม พ.ศ. 2545 โดยก่อนปิดการประชุม พล.ต.อ.ประชา ได้ฝากให้ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย" โฆษก กอ.รมน.กล่าว
**กลุ่มหมอรักปชต.หนุนเลือกตั้ง
นพ.วีระ สิริประเสริฐ ประธานสมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตยสมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตย (สสปป.) เปิดเผยว่าทาง สสปป.ได้เปิดเพจใหม่ เนื่องจากกังวลกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันได้สร้างความแตกแยก ให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก และนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย และผิดหลักศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะทำให้ประเทศไทยต้องตกในห้วงความรุนแรงแบ่งฝ่าย และมีการใช้ความรุนแรงต่อกันลุกลามไปถึงระดับประชาชน
ทั้งนี้ สมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตย ตั้งใจจะเป็นศูนย์รวมบุคคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกสาขาอาชีพรวมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ สัตว์แพทย์ ผู้ช่วยทุกสาขาอาชีพ ไปจนถึงอาสาสมัครสาธารณสุขทุกรูปแบบ ที่ได้กลายเป็น "ประชาชนทนไม่ไหว" และอยากจะแสดงออกถึงพลังมวลมหาประชาชนของจริง พร้อมกับนำเสนอทางออกของประเทศ คือ การเดินหน้าสู่เลือกตั้งเพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย และมีการปฏิรูปด้วยการพัฒนาระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่มีคุณภาพที่ แท้จริง
**"ถวิล"เตรียมเสนอทบทวนแผนดับไฟใต้
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังมีพระบรมราชโอกงการแต่งตั้งให้กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ภารกิจแรกที่จะทำคือ การทบทวนนโยบายแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งเห็นว่าการเจรจาเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่รูปแบบจะต้องกำหนดให้รอบคอบ และพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาล แต่หากการประชุมใดที่รัฐบาลไม่ต้องการให้อยู่ร่วมประชุม ก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งในส่วนของตน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 5 เดือน ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้
**"สุเทพ"ชวนพนักงานการท่าเรือไล่"ปู"
วานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำมวลชน กปปส. ไปเชิญชวนพนักงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งที่ 9 เพื่อให้มาร่วมต่อสู้กับ กปปส.ครั้งสุดท้ายในการขับไล่รัฐบาล โดยมี นายสุรพงษ์ รงศิริกุล รองผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ และ นายจเร หมีด-นุ ประธานสหภาพแรงงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ พร้อมมอบเสื้อแจ็กเก็ต การท่าเรือแห่งประเทศไทย ขณะที่พนักงานของการท่าเรือฯ ก็พร้อมใจสวมเสื้อสีฟ้า สีประจำการท่าเรือ ห้อยนกหวีด ต้อนรับ กปปส. และเตรียมมาลัยแบงค์ร้อยมอบให้ กปปส. จำนวนมาก
นายสุเทพได้ชี้แจงต่อคณะผู้บริหาร และพนักงานถึงแนวทางการต่อสู้ พร้อมเชิญชวนพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย และครอบครัวตัดสินใจออกมาต่อสู้กับประชาชนด้วยกัน เพราะขณะนี้การต่อสู้มาถึงบทสรุปขั้นสุดท้ายแล้ว โดยในวันนี้(30 เม.ย.) เวลาประมาณ 19.00 น. จะนำแกนนำ กปปส. และแนวร่วม กปปส. ประกาศการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับประชาชนทั้งประเทศ ที่ เวทีสวนลุมพินี เชื่อว่าการรวมพลังของประชาชน รัฐวิสาหกิจ และข้าราชการ จะสามารถดึงอำนาจอธิปไตย กลับคืนมาให้ประชาชนได้ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย
นายสุเทพ ย้ำว่า ประชาชนต้องร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย แล้วจัดตั้งรัฐบาลประชาชน เพื่อเริ่มเดินหน้าปฏิรูปการเมืองเร่งด่วน เพื่อไม่ให้นักการเมืองและพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศผ่านการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า รัฐบาลเฉพาะกิจ ต้องไม่มีนักการเมือง และพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ คงไม่ยอมให้ปฏิรูปกฎหมายการเมือง และกฎหมายพรรคการเมือง อย่างแน่นอน
**"ดีเจอ้วน"ทำซ่ารับซื้องูพิษปล่อยสวนลุมพินี
นายอภิชาติ อินสอน หรือ "ดีเจอ้วน" แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ประกาศรับซื้องูเห่า งูจงอาง และงูสามเหลี่ยม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงูพิษ จำนวนมากและให้ราคาดี เพื่อนำไปปล่อยที่เวทีปราศรัยและพื้นที่ชุมนุมของกปปส.ที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ โดยประกาศผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "ดีเจอ้วน เชียงใหม่มหานครต้านรัฐประหาร" ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้ถามว่าจะทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ นายอภิชาติตอบกลับว่า เป็นความจริง
**"วรพงษ์" เน้นตั้งด่านมั่นคง สกัดเหตุร้าย
พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการประชุมป้องกันป้องปรามอาชญากรรม ร่วมกับ บชน. ว่า ในการจัดกำลังดูแลการชุมนุมทางการเมือง ภายหลังมีการขยายพ.ร.บ.มั่นคงฯ ทั้งสองกลุ่ม คือ นปช. กับกลุ่ม กปปส. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นการตั้งด่านดูแลความมั่นคงเป็นหลัก ทั้งด่านประจำ และด่านเคลื่อนที่เร็ว
สำหรับการจัดกำลังเบื้องต้น ทาง กอ.รมน.ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบกรอบใหญ่ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 112 กองร้อย เป็นเพียงกรอบกว้างๆเท่านั้นในการใช้กำลัง เพราะในความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังดังกล่าวทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และในที่ประชุมได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยเตรียมแผนเผชิญเหตุด้วยเพื่อดูแลการชุมนุมทางการเมือง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)กล่าวว่า ในวันนี้ (30 เม.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศอ.รส. และพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร ร่วมกับทางสันติบาล จะร่วมกันหารือถึงการจัดกำลังในการดูแลชีวิตและทรัพยสินของประชาชน ภายหลังมีการขยายพ.ร.บ.มั่นคงฯ ในสถานการณ์ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของ กปปส. ที่ประกาศจะชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การจัดกำลังขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป.
เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (29 เม.ย.) ที่กองบัญชการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า ศอ.รส. จะยังไม่ออกแถลงการณ์ ฉบับ 3 ในวันนี้ (29 เม.ย.) ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ และมั่นใจว่า ใครจะทำอะไร ที่ไหน เป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหว แต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยการเลือกตั้ง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับวิธีการอย่างอื่น ขอยืนยันหัวเด็ดตีนขาด ตนก็ประท้วง และปราศรัยเป็น ลองดูหากมีนายกฯ พระราชทานมานอกกรอบ นอกระบบ คอยดูตนเองบ้าง แต่จะไม่ทำแบบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. คนที่เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด กลับมาเรียกร้องอำนาจนอกระบบ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ และแนวคิดปฏิรูปเอานายตำรวจระดับผู้การจังหวัด ไปขึ้นไว้กับกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาในวันนี้ สุดท้ายต้องนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งในอาเซียน 10 ประเทศ กำลังลังเลประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น ขณะที่กกต.มี 5 คน อย่าให้พูดอยู่คนเดียว มันเกิดความสับสน
เมื่อถามว่า คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฝ่ายการเมืองยังสามารถที่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่มีปัญหาเพราะนักการเมือง แต่มีปัญหาเพราะพวกอยู่ข้างหลังที่อยากมีอำนาจ อยากเป็นนายกฯ ที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง พวกนักวิชาการอัปปรีย์อีกส่วนหนึ่งก็หวังส้มหล่น
**ระดมตร.รับมือม็อบกปปส.
ทั้งนี้ อยากเห็นนายสุเทพ ว่า จะทำอย่างไรในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะแตกหักก็แตกหัก ตนจะประชุมตำรวจนครบาล โดยสั่ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ให้ระดมกำลังรับการแตกหัก
เมื่อถามว่าท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาเดินสายพบหลายๆ ฝ่าย เป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอระบุว่าใคร แต่ใครก็ตามที่ดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องน่าชื่นชม เมื่อถามว่า ทางกกต.ยังยืนยันว่า วันที่ 20 ก.ค. เหมาะสมกับการจัดการเลือกตั้งที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ตามกฎหมาย เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องมาแจ้งรัฐบาล เพื่อขออนุมัติงบประมาณ ความพร้อมในการสนับสนุนจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องดีที่ กกต.กำหนด 20 ก.ค.นี้ แต่ถ้ารออีก 2 ปี จะยุ่งยาก
เมื่อถามว่านายสุเทพ ระบุว่า จะขัดขวางการเลือกตั้ง โดยจะยกหีบบัตรหนี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวสั้นๆว่า “ก็จับ จะเอาไว้ทำไม”
** "ปึ้ง"อ้าง"ปู"สั่งลดทหาร เพิ่มตำรวจ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานปรึกษา ศอ.รส. กล่าวถึงการปรับลดกำลังทหารลง และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า เรื่องการปรับลดกำลัง นายกฯได้กำชับไว้ตั้งแต่ครั้งที่เปลี่ยนจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเหตุการณ์ความรุนแรงได้เบาบางลง นายกฯ จึงกำชับว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ปรับลดกำลังลง เพื่อให้กำลังพลได้พักผ่อน อีกทั้ง ศอ.รส. เห็นว่า ทหาร ซึ่งปราศจากอาวุธได้ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งขึ้น แตกต่างจากตำรวจ ที่มีอาวุธในการป้องกันตัวได้ จึงไม่อยากเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ รวมทั้งตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ความสะดวกกับประชาชนในการจราจรช่วงที่ มีการชุมนุมได้ ซึ่งการที่กลุ่มนปช. ประกาศจะชุมนุมที่ถนนอักษะ ไม่ออกนอกพื้นที่อื่นทำการดูแล และปรับลดกำลังทำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล จะยังใช้ทหารเหมือนเดิม
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การปรับลดกำลังนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการไม่ไว้ใจทหาร แต่เพื่อการปฏิบัติงานที่คล่องตัวขึ้น และช่วงหลังเรามีแผนที่จะดำเนินการจับกุมแกนนำ กปปส. ที่มีหมายจับด้วย และจับกุมผู้มีอาวุธบริเวณพื้นที่ชุมนุม โดยตำรวจจะมีความคล่องตัวในการจับกุมได้ และจะไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าดูแลผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นสัญาณว่าศอ.รส. จะทำงานอย่างเข้มข้นขึ้น ในการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด อีกทั้งกรณีพระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. แจ้งวัฒนะ จะนำการ์ดกปปส. ที่ทำร้ายร่างกาย พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รองผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ไปมอบตัว 5 คน ว่า ที่จริงแล้วมีการแจ้งความไว้ 10 คน เราก็ต้องดำเนินการจับกุม พระพุทธะอิสระ จะมาต่อรองว่า คนของตัวเองไม่มีความผิด ไม่ได้
** ไม่มีที่นั่งให้"ถวิล"ในศอ.รส.
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากวันที่ 6 พ.ค. จะไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งกลุ่มกปปส.ก็มีจำนวนคนน้อยลงอยู่ในหลัก 2,500 -3,000 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นการ์ด และการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำเดินขบวนไปหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อหาแนวร่วมนั้น ตนคิดว่าผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต้อนรับ นายสุเทพ ตามมารยาท เพื่อไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในองค์กร ถ้าไปคัดค้านก็กลัวว่าจะไปทำลายสถานที่
ส่วนการทำงานของ ศอ.รส. หลังจากนายถวิล เปลี่ยนศรี กลับมาดำรงตำแหน่งเลขา สมช. นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คณะทำงาน ศอ.รส. ครั้งนี้ ไม่มีตำแหน่งเลขาฯ สมช.ร่วมอยู่ นายถวิล ก็ไม่ต้องเสียใจ และให้ไปทำงานในการดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แทน ส่วนพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขา สมช.นั้น นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษา ศอ.รส. อยู่แล้ว
** กอ.รมน.ไม่ให้ลดกำลังทหาร
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ กอ.รมน. ครั้งที่ 3/2557 โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ตามที่ครม.ได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ให้ยืดเวลาการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยมอบหมายให้ กอ.รมน. รับผิดชอบในการดำเนินการตาม มาตรา 15 และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย จำนวน 18 ฉบับ ตามมาตรา 16 วรรค 4 รวมทั้งออกข้อกำหนดตาม มาตรา 18 แห่งพ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายใน พ.ศ.2551 จำนวน 5 ข้อ
ในการนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้ ศอ.รส. ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามคำสั่ง กอ.รมน. ที่ 110/2557 ลงวันที่ 18 มี.ค.57 ยังคงเป็นหน่วยงานในการดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับโครงสร้าง และอัตรากำลังของ ศอ.รส. นั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบตามกรอบการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามความจำเป็น และสอดคล้องกับสถานการณ์ จำนวน 60,717 อัตรา ในส่วนที่สำคัญ ยังคงเดิม ประกอบด้วย กำลังตำรวจ 112 ร้อย. และกำลังทหาร 57 ร้อย. จัดจากสำนักงานปบัดกลาโหม (สป.) 1 ร้อย. กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) 1 ร้อย. กองทัพบก (ทบ.) 46 ร้อย. กองทัพเรือ (ทร.) 7 ร้อย. กองทัพอากาศ ( ทอ.) 2 ร้อย. โดย รมว.กระทรวงแรงงาน เป็น ผอ.ศอ.รส.
"ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงการปรับลดกำลังทหาร แต่การที่ กอ.รมน. ยังคงกรอบใช้อัตรากำลังเดิมนั้น เนื่องการประชุมบอร์ด กอ.รมน. แต่ละครั้ง จะต้องมีการเชิญรัฐมนตรีหลายกระทรวงมาเข้าร่วมประชุม เพราะเกรงว่าจะไม่ทันสถานการณ์ ส่วนทาง ศอ.รส. จะใช้กำลังทหาร หรือ ตำรวจ จำนวนเท่าไร ทาง ศอ.รส. จะพิจารณาเอง ซึ่งการใช้กำลังทหาร ให้เป็นไปตามข้อบังคับ กห.ว่าด้วย การใช้กำลังทหาร การเคลื่อนย้ายกำลังทหาร และการเตรียมพร้อม พ.ศ. 2545 โดยก่อนปิดการประชุม พล.ต.อ.ประชา ได้ฝากให้ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย" โฆษก กอ.รมน.กล่าว
**กลุ่มหมอรักปชต.หนุนเลือกตั้ง
นพ.วีระ สิริประเสริฐ ประธานสมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตยสมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตย (สสปป.) เปิดเผยว่าทาง สสปป.ได้เปิดเพจใหม่ เนื่องจากกังวลกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันได้สร้างความแตกแยก ให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก และนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย และผิดหลักศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะทำให้ประเทศไทยต้องตกในห้วงความรุนแรงแบ่งฝ่าย และมีการใช้ความรุนแรงต่อกันลุกลามไปถึงระดับประชาชน
ทั้งนี้ สมัชชาสาธารณสุขปกป้องประชาธิปไตย ตั้งใจจะเป็นศูนย์รวมบุคคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกสาขาอาชีพรวมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ สัตว์แพทย์ ผู้ช่วยทุกสาขาอาชีพ ไปจนถึงอาสาสมัครสาธารณสุขทุกรูปแบบ ที่ได้กลายเป็น "ประชาชนทนไม่ไหว" และอยากจะแสดงออกถึงพลังมวลมหาประชาชนของจริง พร้อมกับนำเสนอทางออกของประเทศ คือ การเดินหน้าสู่เลือกตั้งเพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย และมีการปฏิรูปด้วยการพัฒนาระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่มีคุณภาพที่ แท้จริง
**"ถวิล"เตรียมเสนอทบทวนแผนดับไฟใต้
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังมีพระบรมราชโอกงการแต่งตั้งให้กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ภารกิจแรกที่จะทำคือ การทบทวนนโยบายแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งเห็นว่าการเจรจาเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่รูปแบบจะต้องกำหนดให้รอบคอบ และพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาล แต่หากการประชุมใดที่รัฐบาลไม่ต้องการให้อยู่ร่วมประชุม ก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งในส่วนของตน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ประมาณ 5 เดือน ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้
**"สุเทพ"ชวนพนักงานการท่าเรือไล่"ปู"
วานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นำมวลชน กปปส. ไปเชิญชวนพนักงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งที่ 9 เพื่อให้มาร่วมต่อสู้กับ กปปส.ครั้งสุดท้ายในการขับไล่รัฐบาล โดยมี นายสุรพงษ์ รงศิริกุล รองผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ และ นายจเร หมีด-นุ ประธานสหภาพแรงงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ พร้อมมอบเสื้อแจ็กเก็ต การท่าเรือแห่งประเทศไทย ขณะที่พนักงานของการท่าเรือฯ ก็พร้อมใจสวมเสื้อสีฟ้า สีประจำการท่าเรือ ห้อยนกหวีด ต้อนรับ กปปส. และเตรียมมาลัยแบงค์ร้อยมอบให้ กปปส. จำนวนมาก
นายสุเทพได้ชี้แจงต่อคณะผู้บริหาร และพนักงานถึงแนวทางการต่อสู้ พร้อมเชิญชวนพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย และครอบครัวตัดสินใจออกมาต่อสู้กับประชาชนด้วยกัน เพราะขณะนี้การต่อสู้มาถึงบทสรุปขั้นสุดท้ายแล้ว โดยในวันนี้(30 เม.ย.) เวลาประมาณ 19.00 น. จะนำแกนนำ กปปส. และแนวร่วม กปปส. ประกาศการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับประชาชนทั้งประเทศ ที่ เวทีสวนลุมพินี เชื่อว่าการรวมพลังของประชาชน รัฐวิสาหกิจ และข้าราชการ จะสามารถดึงอำนาจอธิปไตย กลับคืนมาให้ประชาชนได้ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย
นายสุเทพ ย้ำว่า ประชาชนต้องร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย แล้วจัดตั้งรัฐบาลประชาชน เพื่อเริ่มเดินหน้าปฏิรูปการเมืองเร่งด่วน เพื่อไม่ให้นักการเมืองและพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศผ่านการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า รัฐบาลเฉพาะกิจ ต้องไม่มีนักการเมือง และพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ คงไม่ยอมให้ปฏิรูปกฎหมายการเมือง และกฎหมายพรรคการเมือง อย่างแน่นอน
**"ดีเจอ้วน"ทำซ่ารับซื้องูพิษปล่อยสวนลุมพินี
นายอภิชาติ อินสอน หรือ "ดีเจอ้วน" แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ประกาศรับซื้องูเห่า งูจงอาง และงูสามเหลี่ยม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงูพิษ จำนวนมากและให้ราคาดี เพื่อนำไปปล่อยที่เวทีปราศรัยและพื้นที่ชุมนุมของกปปส.ที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ โดยประกาศผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "ดีเจอ้วน เชียงใหม่มหานครต้านรัฐประหาร" ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้ถามว่าจะทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ นายอภิชาติตอบกลับว่า เป็นความจริง
**"วรพงษ์" เน้นตั้งด่านมั่นคง สกัดเหตุร้าย
พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการประชุมป้องกันป้องปรามอาชญากรรม ร่วมกับ บชน. ว่า ในการจัดกำลังดูแลการชุมนุมทางการเมือง ภายหลังมีการขยายพ.ร.บ.มั่นคงฯ ทั้งสองกลุ่ม คือ นปช. กับกลุ่ม กปปส. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นการตั้งด่านดูแลความมั่นคงเป็นหลัก ทั้งด่านประจำ และด่านเคลื่อนที่เร็ว
สำหรับการจัดกำลังเบื้องต้น ทาง กอ.รมน.ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบกรอบใหญ่ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 112 กองร้อย เป็นเพียงกรอบกว้างๆเท่านั้นในการใช้กำลัง เพราะในความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังดังกล่าวทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และในที่ประชุมได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยเตรียมแผนเผชิญเหตุด้วยเพื่อดูแลการชุมนุมทางการเมือง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)กล่าวว่า ในวันนี้ (30 เม.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศอ.รส. และพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร ร่วมกับทางสันติบาล จะร่วมกันหารือถึงการจัดกำลังในการดูแลชีวิตและทรัพยสินของประชาชน ภายหลังมีการขยายพ.ร.บ.มั่นคงฯ ในสถานการณ์ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของ กปปส. ที่ประกาศจะชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การจัดกำลังขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป.