หัวหน้าประชาธิปัตย์ หนุนแก้ปัญหาความสงบเร่งด่วน แนะต้องให้ความจริงประชาชน อ้างจ้อตามหน้าที่ให้ชาวบ้านเห็นยังปกป้องประโยชน์ประชาชนอยู่ จี้ต้องให้ประชาชนรู้การทำงบปี 58 จะได้ตรวจสอบได้ บอกปฏิรูปพลังงานยาก แนะให้ใช้แก๊สราคาต้นทุน
วันนี้ (5 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแผนการปฏิรูปประเทศและสร้างความปรองดองของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่าเป็นการดำเนินการในระดับพื้นที่ขึ้นมา ยังไม่เกี่ยวข้องกับระดับบน เห็นว่าถูกต้องที่วางกรอบว่าคนในสังคมเห็นต่างได้แต่ทำอย่างให้ความแตกต่างอยู่ด้วยกันได้ตามวิถีทางประชาธิปไตย ไม่ใช่การปลุกระดมยั่วยุให้นำไปสู่ความเกลียดชังและความรุนแรง แต่ปัญหาคือจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างไร โดยมาตรการขณะนี้เข้าใจว่ามุ่งที่การรักษาความสงบ ส่วนเนื้อหาการปฏิรูปจะปรากฏชัดเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 เมื่อมีการตั้งสภาปฏิรูป แต่ยังไม่ทราบว่าสภาดังกล่าวจะมีอำนาจหน้าที่อย่างไร น่าจะอยู่ในช่วงที่ให้เกิดความสงบเพื่อปูทางไปสู่การปฏิรูป จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร
“สำหรับผมการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องความสงบเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ยืนยันว่าการปรองดองและการปฏิรูปหนีไม่พ้นการให้ความจริงต่อประชาชน ซึ่งจะทำในรูปแบบไหนต้องมีความชัดเจนออกมาต่อสาธารณชน และยังไม่ทราบว่าแนวทางการมีส่วนร่วมจะเป็นอย่างไร โดยยังไม่มีการเชิญให้พรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะสถานะพรรคการเมืองก็ยังไม่ชัดเจนเพราะมีการยกเลิก พ.ร.บ.พรรคการเมืองไป และแม้ว่าจะมีการฟื้นกฎหมายพรรคการเมืองเราก็ยังมีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมทางการเมือง ถูกจำกัดสิทธิเรื่องการชุมนุมทางการเมือง การเสนอข่าวสารทางการเมือง สำหรับพวกผมก็ยังทำหน้าที่ เช่น ให้ข้อคิดเรื่องการทำงบประมาณให้เกิดความโปร่งใส อยากให้ประชาชนเห็นว่าเรายังปกป้องผลประโยชน์ประชาชนอยู่” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ยังเสนอความเห็นต่อ คสช.ว่า การจัดทำงบประมาณปี 2558 ต้องมีกระบวนการกลั่นกรอง และควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม รับรู้การจัดทำงบประมาณ เพราะหากทำเป็นคำสั่ง คสช.ก็จะเกิดขึ้นโดยไม่มีใครได้รับรู้หรือมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลล่วงหน้าซึ่งตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แม้แต่ออกเป็นร่าง พ.ร.บ.ผู้ที่จะตรวจสอบก็คือ สภานิติบัญญัติ ที่ คสช.เป็นผู้แต่งตั้ง เพราะฉะนั้นเมื่อ คสช.ต้องการให้ทุกอย่างมีความโปร่งใส แสดงให้เห็นว่าเข้าใจว่าการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาใหญ่ ก็ควรอาศัยแรงของประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือการเปิดเผยข้อมูลเหมือนเอกสารงบประมาณที่มีการเสนอต่อสภาทุกปี เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะ ประชาชนจะได้แจ้งว่าโครงการไหนแพงไปหรือไม่ จะทำให้ทุกคนสบายใจว่ามีความโปร่งใส โครงการที่เคยถูกทักท้วงในรัฐบาลก่อนว่าแพงเกินไป 20-30% จะได้ตรวจสอบว่าปรับลดได้อย่างไร จึงจะเป็นรูปธรรมว่า คสช.เอาจริงเอาจังกับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน
สำหรับการปฏิรูปพลังงานนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การปฏิรูปพลังงานเป็นเรื่องใหญ่และยาก จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์คืออยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ทรัพยากรที่เรามีอยู่คืออะไร นำเข้าเท่าไหร่ อย่างไร ราคาที่ใช้ในการอ้างอิงเป็นอย่างไร และที่เป็นปัญหามากคือต้องเอาตัวเลขต้นทุนออกมาให้ได้ เช่น แก๊สซึ่งเป็นทรัพยากรของคนทั้งชาติต้นทุนที่แท้จริงในการแยกก๊าซเพื่อนำไปเป็นก๊าซหุงต้มต้นทุนเท่าไหร่ จุดยืนของพรรคคือ ประชาชนที่ใช้ควรจะได้ใช้ในราคาต้นทุนเพราะเป็นทรัพยากรของชาติ ไม่ใช่จ่ายในราคาตลาด และตนมั่นใจว่าแก๊สมีเพียงพอสำหรับการบริโภคของประชาชน
“การที่ คสช.ตรึงราคาแก๊สหุงต้มไว้แต่ยังไม่ได้แก้ปัญหาราคาที่ต่างกันระหว่างภาคครัวเรือนกับภาคขนส่งนั้น ยังไม่สามารถแก้ปัญหาการลักลอบได้ เนื่องจากส่วนต่างที่ภาคขนส่งราคาต่ำกว่าภาคครัวเรือนนั้นมีความจูงใจมากพอที่จะทำให้เกิดการโยกก๊าซข้ามกัน ดังนั้นควรจะให้ราคาภาคครัวเรือนเท่ากับขนส่งก่อน จากนั้นมาดูต้นทุนที่แท้จริงคือเท่าไหร่” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.เสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการปฏิรูปพลังงานแต่บรรยากาศในขณะนี้จะเอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วมได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการมีส่วนร่วมทำได้ยาก แต่ คสช.ควรทำข้อมูลให้โปร่งใสว่าใช้ข้อมูลอะไรในการตัดสินใจ และเปิดโอกาสให้คนทักท้วงได้ว่าข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้หวังว่าจะไม่มีการใช้อำนาจในการตัดสินใจโดยไม่ฟังข้อมูลจากทุกด้าน เพราะเป็นเรื่องที่มีการโต้แย้งเกี่ยวกับข้อมูลมาก การรับฟังจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องอันตราย