xs
xsm
sm
md
lg

แพะคดียาเสพติดร้องนักข่าว ถูกตำรวจยัดข้อหาติดคุกฟรี 9 เดือน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาแพะคดียาเสพติดเข้าร้องทุกต่อสื่อมวลชนกองปราบฯ ถูกตำรวจอ่างทองจับผิดตัวพร้อมยัดข้อหาส่งฟ้องอัยการ-ศาล จนต้องติดคุกฟรี 9 เดือนกว่า ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้อง แต่อัยการยังกัดไม่ปล่อยยื่นฎีกาต่อ วอนขอความเห็นใจที่ผ่านมาตนเองและครอบครัวทุกข์ทรมานมากพอแล้ว

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พานายชูชาติ สิทธิพลเทพ อายุ 41 ปี อาชีพช่างก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 6 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนประจำ บก.ป. กรณีที่นายชูชาติตกเป็นแพะคดีค้ายาเสพติดทั้งที่ไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด แต่ผู้กระทำผิดที่แท้จริง คือ นายสมชาย สิทธิพลเทพ อายุ 44 ปี พี่ชายของนายชูชาติซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี โดยมีการนำสำเนาคำพิพากษาศาลจังหวัดอ่างทองซึ่งยกฟ้องคดีดังกล่าวมามอบให้สื่อมวลชนด้วย

นายอัจฉริยะกล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2549 ตำรวจ สภ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้เข้าจับกุมนายจำลอง ช่างประดิษฐ์ และนายสมยศ แสงทอง พร้อมของกลางยาบ้า 570 เม็ดได้ในพื้นที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง โดยมีการซัดทอดว่านายชูชาติได้ร่วมกระทำความผิด ทั้งที่จริงแล้วผู้ที่ร่วมค้ายาบ้าด้วย คือ นายสมชาย พี่ชายแท้ๆ ของนายชูชาติและมีใบหน้าละม้ายคล้ายกัน แม้ว่านายชูชาติจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ทางตำรวจ สภ.แสวงหายังคงยืนยันดำเนินคดี ก่อนจะส่งสำนวนคดีต่ออัยการและส่งฟ้องศาล

นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า ในระหว่างที่ถูกพิจารณาดำเนินคดี นายชูชาติต้องถูกจำคุกไปแล้ว 9 เดือน ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้อง และศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน โดยขณะนี้ทางอัยการจังหวัดอ่างทองอยู่ระหว่างยื่นฎีกาในคดีดังกล่าว ตนไม่อยากให้นายชูชาติต้องต่อสู้คดีในชั้นฎีกาอีกแล้วเพราะนายชูชาติไม่ได้กระทำความผิด แต่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องนี้ และอาจจะต้องเสียเวลาอีก 5 ปี หากต้องสู้คดีต่อไป

อย่างไรก็ดี สำหรับนายชูชาตินับว่ายังโชคดีที่ทางสภาทนายความให้ความช่วยเหลือทางคดีมาตลอด “หากคดีสิ้นสุดแล้วนายชูชาติก็คงจะต้องพิจารณาฟ้องทางแพ่งฐานละเมิด โดยหลังจากนี้จะเข้ายื่นเรื่องต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามขั้นตอนเพื่อขอให้อัยการจังหวัดอ่างทองยุติคดีดังกล่าว นอกจากนี้คงจะต้องมีการดำเนินการในส่วนต่างๆ เพื่อเป็นการเยียวยาทั้งเรื่องของการลบประวัติอาชญากร แต่คงต้องเกิดขึ้นภายหลังคดีเป็นที่สุดแล้ว” นายอัจฉริยะกล่าว

ขณะที่นายชูชาติกล่าวว่า คดีนี้พี่ชายเป็นผู้กระทำความผิด ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้จะให้การปฏิเสธและหาพยานมายืนยัน แต่ทางตำรวจก็ยังคงพิจารณาดำเนินคดีต่อตนจนต้องไปสู้คดีในชั้นศาล และศาลก็มีความเมตตายกฟ้องคดีทั้ง 2 ศาล จึงอยากเรียกร้องเพื่อขอให้อัยการจังหวัดอ่างทองยุติการรื้อคดีนี้เพื่อยื่นฎีกาอีกต่อไป เพราะเป็นการจับผิดตัว อยากให้คดีนี้สิ้นสุดได้แล้ว เพราะตลอด 9 เดือนที่อยู่ในเรือนจำก็ได้รับความลำบากทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมาก

นายชูชาติกล่าวอีกว่า สำหรับครอบครัวตนมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน ตนเป็นลูกคนสุดท้อง ส่วนนายสมชายพี่ชายเป็นลูกคนที่ 5 ที่ผ่านมาก็พยายามติดต่อเพื่อให้เข้ามายืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เรื่องนี้ทำให้ตนและครอบครัวทุกข์ร้อนใจอย่างมาก











กำลังโหลดความคิดเห็น