เปิดวัดพระบรมธาตุจัดงาน “คนกำแพง กินข้าวกำแพง” ชูวิถีพอเพียงพัฒนาคุณภาพข้าว

กำแพงเพชร - รองผู้ว่าฯ กำแพงเพชร พร้อมเครือข่ายภาคประชาสังคมเมืองกล้วยไข่ เปิดวัดพระบรมธาตุ จัดงาน “คนกำแพง กินข้าวกำแพง ครั้งที่ 1” ประยุกต์ 9 วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วงในพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ปลูกวิถีพอเพียงให้คนในสังคมฐานราก

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายศักดิ์ สมบุญโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “คนกำแพง กินข้าวกำแพง” ครั้งที่ 1 โดยมีพระราชวัชรเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ ต.นครชุม ดร.ชำนาญ วัฒนศิริ ประธาน เครือข่ายคนพอเพียง ปลุกแผ่นดิน ถิ่นวชิรปราการ (คปว.) นายสันติ อภัยราช ปราชญ์ชาวบ้านผู้นำด้านศิลปวัฒนธรรมของกำแพงเพชร นายธวัชชัย เกตุพันธุ์ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร ผู้นำชุมชน เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เยาวชน และประชาชนสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ภายในงานนอกจากมีการเสวนา แนะนำบทบาทต่างๆ การให้คะแนนข้าวคุณภาพของชาวนากำแพงเพชร ยังให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ชิมข้าวที่ปลูกในจังหวัดกำแพงเพชร จากพื้นที่ต่างๆ การเรียนรู้วิธีการทำนาเบญจคุณ โดยสถาบันเพื่อการพัฒนาการเกษตรและชนบท ของนาย จำเนียร สาระนาค การประชุมทีมงานและสรุปข้อมูลข้าว

ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมรับประทานข้าวคุณภาพจากพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัด พร้อมสำรับกับข้าวพื้นบ้าน เช่น แมงอีนูน ผัดเผ็ดหนูนา หนูนาทอด แกงเขียวหวานกล้วยไข่ อาหารประเภทปลาต่างๆ น้ำพริก ผักต้ม ผักสดและผักพื้นบ้าน ในบรรยากาศ “กินข้าวหรือยัง” ซึ่งเป็นคำทักทายที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

ดร.ชำนาญ เปิดเผยว่า เครือข่ายคนพอเพียง ปลุกแผ่นดิน ถิ่นวชิรปราการ เป็นองค์กรประชาสังคมซึ่งเกิดจากการรวมตัวของผู้นำชุมชนระดับรากหญ้า ประกอบอาชีพหลากหลาย มาจากพื้นที่ที่กระจายอยู่ในทุกอำเภอของกำแพงเพชร ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 53 เพื่อขับเคลื่อนขบวนการเรียนรู้ เชื่อมโยง และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้เกษตรกร และคนชุมชนฐานราก เกิดจิตสำนึกและปัญญาที่จะปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

เครือข่ายฯ ต้องการที่จะสร้าง และพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนการขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปจิตสำนึกการพึ่งตนเอง จิตสาธารณะ และการใช้ปัญญาแก้ปัญหาอย่างสันติของคนกำแพงเพชร อย่างการจัดงานในครั้งนี้ เรามุ่งไปที่กลุ่มชาวนาของกำแพงเพชร ที่มีกว่า 7 แสนคนซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้รับผิดชอบดูแลการผลิตข้าว เพื่อเป็นการกระตุ้น ส่งเสริมให้ชาวกำแพงเพชร มากินข้าวที่ผลิตโดยชาวกำแพงเพชร

ดร.ชำนาญ กล่าวต่ออีกว่า วิธีการทำงานของเราได้ประยุกต์ 9 วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วง ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” มาเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างช้าๆ ต่อเนื่อง และมั่นคง ด้วยการเพาะเม็ด คือ พัฒนาเยาวชน ต้นกล้าของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด

“ถนอมราก” ที่ยังมีอยู่ให้งอกรากใหม่ โดยการรักษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา คุณค่าอันดีงามที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษให้คงอยู่ เป็นสายใยยึดโยงเกาะเกี่ยวผู้คนในสังคมเข้าด้วยกัน “ปักชำกิ่งที่เหมาะสมกับการปักชำ” ด้วยการบำรุง ส่งเสริมคนดีเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมของชุมชน และสังคม

“เอากิ่งดีมาเสียบยอดของต้นไม้ที่ยังไม่มีผลให้มีผล” ด้วยการส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจเหนือคนที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไร้ปัญญา จนสามารถแผ่อิทธิพลคุณธรรมปกครอง และเปลี่ยนแปลง ขัดเกลาคนเหล่านั้นได้ “ติดตา ต่อกิ่ง” ด้วยการเอาความรู้ใหม่ๆ โลกทัศน์ วิธีคิดใหม่ๆ ความคิดดีๆ ที่เป็นประโยชน์มาให้แก่คนที่ยังขาดความรู้ งมงาย ตกอยู่ในอบาย “ทาบกิ่ง” ด้วยการประสานเชื่อมร้อยพลังของ คนดี องค์กรดี เข้าเป็นเครือเดียวกัน จนสามารถก่อเป็นพลังเป็นต้นแบบเป็นพลังที่สามารถสยบความไม่ดีได้

“ตอนกิ่ง” ด้วยการสร้างเสริมคนดี ให้มีความมั่นคงแข็งแรงพอ เพื่อที่จะสามารถขยับขยายไปสร้างรากฐานในที่ใหม่ได้ด้วยตนเอง “รมควันต้นไม้ที่ไม่มีผลให้ออกผล” ซึ่งคนบางกลุ่มต้องใช้การบีบบังคับ เพื่อให้กระทำในสิ่งที่ควรกระทำ การเปลี่ยนแปลงนำพาสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ในบางสถานการณ์ก็ต้องใช้วิธีปฏิวัติ เพราะการปฏิรูป อาจมิทันการณ์ และคนบางคน กลุ่มคนบางกลุ่มก็ชอบไม้เรียวมากกว่า และทำชีวาญสงเคราะห์ หรือการเพาะเนื้อเยื่อ คือ การเปลี่ยนแปลง การสร้างใหม่ ที่สามารถก่อผลสะเทือนได้คราวละมากๆ ใช้สื่อมวลชน เพื่อเปลี่ยนจิตสำนึกในระดับ DNA ได้ เป็นวิธีการเพาะเนื้อเยื่อที่เร็ว แรง และได้ผลในปริมาณมากที่สุด มากกว่าวิธีใดๆ และวิธีเดียวที่จะขจัด สื่อโมหจริต ที่กำลังแพร่เชื้อมะเร็งร้ายในสังคม คือ การเร่งสร้างสื่อคุณธรรมให้เข้ามาแทนที่ให้เร็วที่สุด