ประจวบคีรีขันธ์...รายงาน
ตามไปดู ... โครงการ “ครึ่งไร่ คลายจน” ของนายอำเภอบางสะพานน้อย ที่น้อมนำหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการใช้ที่ดินรอบๆ บ้านพักตนเองซึ่งเป็นดินลูกรังไม่เหมาะสมต่อการทำการเกษตร มาทำการเกษตรผสมผสานปลอดสารพิษ เพื่อเป็นครัวเรือนต้นแบบให้แก่ชุมชนในบางสะพานน้อย จนชาวบ้านในพื้นที่นำไปเป็นตัวอย่างทำในที่ดินของตนเองแล้วกว่า 60 ครัวเรือน
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือว่าเป็น “นายอำเภอตัวอย่าง” ในยุคทุนนิยมสามานย์ครองเมืองก็ว่าได้ ที่ได้ใช้เวลาว่างจากงานราชการในช่วงเช้า และเย็นพลิกฟื้นผืนดินที่มีอยู่ประมาณครึ่งไร่ ส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง ไม่เหมาะสมที่จะทำการเกษตรที่อยู่รอบๆ บริเวณบ้านพักประจำตำแหน่งนายอำเภอของตนเอง ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ ด้วยการทำโครงการภายใต้แนวคิด “ครึ่งไร่ คลายจน” ด้วยการทำการเกษตรผสมผสานปลูกพืชผัก ไม้ผลนานาชนิด ตามหลักแนวคิดที่ว่า “ปลูกเลี้ยงทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูกที่เลี้ยง”
รวมถึงเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูหลุม ใช้มูลสัตว์ทำปุ๋ยหมัก เลี้ยงปลา เผาถ่าน เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เห็นว่าแม้จะมีที่ดินเพียงน้อยนิดเพียงแค่ครึ่งไร่ แต่ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ภายในครอบครัวตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างดี
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ได้เปิดถึงโครงการ “ครึ่งไร่ คลายจน” ที่เขาทำขึ้นนี้ว่า โครงการนี้ตนได้เริ่มขึ้นมากว่า 10 เดือนแล้ว โดยได้ใช้เวลาในช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวันก่อนไปทำงาน และหลังเลิกงานมาปรับปรุงสภาพพื้นดินบริเวณรอบบ้านพักประจำตำแหน่งของตนประมาณครึ่งไร่
โดยนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ยึดแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทำการเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อหวังให้เป็นต้นแบบให้ชาวบ้านในอำเภอบางสะพานน้อย โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ครึ่งไร่ คลายจน” ภายใต้แนวคิด “ปลูกเลี้ยงทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูกที่เลี้ยง”
“พื้นที่รอบๆ บ้านพัก ผมได้ปลูกพืชผักหลากหลายชนิดด้วยกัน ทั้งชะอม มะเขือ พริก ผักหวาน ฟัก ยังรวมผลไม้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้วย มะละกอ สับปะรด รวมไปถึงการเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมู เลี้ยงแพะ เลี้ยงปลา และยังใช้มูลสัตว์ ตลอดจนพืชผักบางส่วนนำมาทำปุ๋ยหมักใช้ในการทำการเกษตรแบบสมผสาน เพื่อให้พืชผลทางการเกษตรในโครงการ ครึ่งไร่ คลายจน หรือเซเว่นหน้าบ้าน ปลอดจากสารเคมีจริงๆ” นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าว
ปัจจุบันนี้ หากใครผ่านไปที่บ้านพักของนายอำเภอบางสะพานน้อยท่านนี้ จะพบว่ารอบบ้านพักของเขาได้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว มีความชุ่มชื้น พืชผลทางการเกษตรที่เขาเฝ้าปลูก ดูแลรดน้ำ พรวนดิน ได้เจริญเติบโตจนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมาทำเป็นอาหารรับประทานได้ทุกอย่าง ส่วนที่เหลือก็ยังให้ชาวบ้านที่เดินทางมาติดต่อราชการในอำเภอได้มาเก็บเกี่ยวไปประกอบอาหารรับประทานกับครัวเรือนที่บ้านด้วย
นอกจากนั้น ส่วนหนึ่ง นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ยังนำพืชผักภายในโครงการ “ครึ่งไร่ คลายจน” ไปขาย นำเงินส่วนหนึ่งมาเป็นกองทุนสวัสดิการให้แก่ข้าราชการฝ่ายปกครองของอำเภอบางสะพานน้อยด้วย
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย บอกว่า สิ่งที่ตนทำ เพื่อให้เป็นครัวเรือนต้นแบบให้แก่ชาวบ้าน รวมทั้งเยาวชนได้เรียนรู้ และรู้จักการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบของการทำการเกษตรแบบผสมผสาน สิ่งสำคัญคือ การลงมือทำด้วยตัวเอง
“วันนี้ สิ่งที่ผมทำ ทุกคนได้เห็น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง ชาวบ้านอำเภอบางสะพานน้อย เวลาเดินทางมาติดต่อราชการที่อำเภอ ก็แวะเวียนมาดู และให้ความสนใจนำไปปรับใช้ในพื้นที่แต่ละครัวเรือน ซึ่งมีที่ดินว่างมาปลูกพืช ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์กัน” นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าว
จากโครงการดังกล่าว ขณะนี้ได้มีชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อยกว่า 60-70 ครัวเรือน ซึ่งกระจายไปในทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ได้นำแนวคิด “ครึ่งไร่ คลายจน” การทำการเกษตรแบบผสมสานของ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ไปดำเนินการจนกลายเป็นต้นแบบในระดับรากหญ้าไปแล้ว ซึ่งบางครอบครัว นายอำเภอบางสะพานน้อย ถึงยอมรับว่า สามารถทำได้ดีกว่าของเขาอีกด้วย นั่นอาจเป็นเพราะชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางสะพาน มีอาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรอยู่แล้ว
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย บอกด้วยว่า ทุกวันนี้ มีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ และชาวบ้าน รวมทั้งผู้สนใจจากจังหวัดใกล้เคียงที่ทราบโครงการ “ครึ่งไร่ คลายจน” ต่างให้ความสนใจเดินทางมาศึกษาหาความรู้ ณ บ้านพักนายอำเภอ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้โครงการครึ่งไร่ คลายจน แล้วในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นนายธีระ กำบัง กำนันตำบลปากแพรก อำเภอบางสะพานน้อย ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย ต่างนำแนวคิดของโครงการครึ่งไร่ คลายจน ไปดำเนินการ และยอมรับว่าเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะมีการลงมือทำให้เห็นจริง และสัมผัสได้ จึงทำให้ชาวบ้านเข้าใจมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการใช้พื้นที่ ซึ่งว่างเปล่าในบริเวณบ้าน มาปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการเกษตรแบบผสมผสานจริงๆ
นางพยงค์ หอมกลิ่น ชาวบ้านอำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งนำแนวคิดโครงการ “ครึ่งไร่ คลายจน” ของนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ไปดำเนินการในที่ดินของตนเอง กล่าวว่า ถึงแม้ตนเพิ่งจะเริ่มลงมือปลูกพืชผักมาได้ไม่กี่เดือนก็ตาม แต่วันนี้ก็เริ่มให้ผลผลิต และสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ด้วย สิ่งสำคัญ ยังสร้างรายได้จากการที่มีเพื่อนบ้านตลอดจนพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อผลผลิตไปขาย ไม่เพียงเท่านั้น พืชผักของชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการครึ่งไร่ คลายจน ยังปลอดจากสารเคมี อันจะทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วย
มาถึง ณ วันนี้ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้มองต่อไปข้างหน้าอีกว่า ในเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ตนจะอาศัยพื้นที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อำเภอบางสะพานน้อย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน เปิดเป็น “ตลาดนัด” ให้แก่ชาวบ้านได้นำผลผลิตที่เหลือมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน รวมทั้งจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ให้แก่ครอบครัวของชาวบ้านต่อไป
“นั่นก็เท่ากลับเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชาวบ้าน และสามารถแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนอีกทางหนึ่ง อันจะนำไปสู่โครงการที่ยั่งยืน สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ทุกครัวเรือนก็คือ ต้นแบบครัวเรือนของโครงการครึ่งไร่ คลายจน และเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงต่อไป” นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวทิ้งท้าย