พิษณุโลก - ผู้ว่าฯ พิษณุโลก พร้อมรอง ผบ.พล.ร.4 จัดกิจกรรมสลายพฤติกรรม นัดแกนนำ 2 กลุ่ม “เสื้อแดง-เหลือง” กินข้าวหม้อเดียวกันบนห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก สั่งจับมือและสวมเสื้อ “แฟนผู้ว่าฯ พิษณุโลก” กระทั่งแกนนำเสื้อแดงซาบซึ้งน้ำตาร่วง แต่ไร้เงา “เลิศ ไม้เก่า” โผล่แต่คนสนิทที่ถูกรวบพร้อมกันบนถนนหลวง บอก “พี่เลิศ” ป่วย!
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้นัดแกนนำกลุ่มเสื้อแดง และเสื้อเหลืองใน จ.พิษณุโลกมารับประทานข้าวเที่ยงร่วมกัน โดยเมนูอาหารประกอบด้วย ปลาช่อน ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม กุ้งผัดผัก ไข่เจียว แกงคั่วหอยขม ฯลฯ ก่อนที่จะนั่งคุยตกลงเคลียร์ปัญหาความในใจต่างๆ ร่วมกัน แต่งานนี้ไม่มีนายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ “เลิศ ไม้เก่า” เข้าร่วมด้วย มีเพียงคนสนิทนายอัมพร ช่วยโสภา (เต๋า) เลขาฯ คนสนิทของ “เลิศ ไม้เก่า” เท่านั้นที่เดินทางมา
นายอัมพร ช่วยโสภา (เต๋า) เลขาฯ คนสนิท “เลิศ ไม้เก่า” เปิดเผยว่า ตนเป็นคนขับรถให้นายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ “เลิศ ไม้เก่า” ระหว่างถูกทหารควบคุมตัวในช่วงประกาศกฎอัยการศึกก่อนทหารประกาศยึดอำนาจ ช่วงนั้นถูกรวบจำนวน 3 คนถูกพาเข้าไปยังค่ายทหาร จากนั้นก็แยกกันอยู่ ตนมาอยู่ที่บ้านพักเหมือนรีสอร์ตจำนวน 3 คืนเนื่องจากตรวจแล้วพบว่าตนเป็นเบาหวาน ส่วน “พี่เลิศ” นอนอยู่ในค่ายจำนวน 7 คืนเต็มๆ ก่อนปล่อยตัวมา แต่วันนี้เขาป่วย ไม่สบาย มีปัญหาเรื่องลำไส้ ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานสมานฉันท์ครั้งนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเป็นกันเอง แม้ว่ากลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มเสื้อเหลืองที่ไม่ค่อยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งรู้จักเพียงแต่ชื่อเท่านั้นก็ทักทายกันและคุยกันถึงปัญหาในอดีต ขณะที่นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สอบถามถึงความเป็นอยู่ของ “นายเต๋า” ว่าถูกทหารควบคุมตัวเป็นอย่าไรบ้าง
นายอัมพร ช่วยโสภา (เต๋า) บอกเพียงว่า ความเป็นอยู่ดีทหารจะถามทุกครั้งว่า เช้าๆ จะมีกาแฟหรือโจ๊กให้ ส่วนมื้อกลางวันหรือเย็นทหารก็ถามก่อนว่าจะกินอะไร จากนั้นทหารก็สั่งจัดหามาให้ มีแม้กระทั่งส้มตำ ไก่ย่าง แต่เพียงผู้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเขตกักบริเวณ แต่ทหารไม่ถืออาวุธปืนให้เห็น
ขณะที่แกนนำเสื้อแดงคนอื่นๆ เช่น นายอนิรุธ ดีฉนวน อยู่ในความสงบไม่ค่อยพูดคุย แต่นางธนิดา แย้มปั้น หรือแจ๋ว วัดใหญ่ ถึงกับหลั่งน้ำตาบอกเพียงว่า มวลชนเสื้อแดงเขาตั้งให้เป็นแกนนำ แม้ว่าทางครอบครัวไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องเป็นแกนนำ เมื่อขึ้นแล้วก็ลงไม่ได้ จบไม่ลง เพราะตนอยู่บนหลังเสือ แต่วันนี้ดีใจ กระทั่ง พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการ พล.ร.4 ยื่นจับมือด้วยความซาบซึ้งและยินดี
ขณะที่แกนนำเสื้อเหลือง อาทิ นางแน่งน้อย อัศวกิติกร ได้กล่าวขอโทษผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่บุกขึ้นไปที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนนายทวี ทองถัน และนายธีรพงษ์ เจริญยิ่ง ก็ทักทายทุกคนด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบพระเครื่องด้านหน้าเป็นรูปองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช หลังจากที่เดินทางไปกราบนมัสการพระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาสวัดใหญ่และมอบพระมาให้พร้อมกับเขียนข้อความเตือนใจฝากมายังกลุ่มมวลชนทั้งสองว่า “ขอให้ชาวพิษณุโลก รักกัน สามัคคี เหมือนพี่น้อง เป็นลูกหลานของหลวงพ่อใหญ่และเป็นลูกของพระนเรศวร”
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้ให้แกนนำทุกคนสวมเสื้อขาว “แฟนผู้ว่าฯ พิษณุโลก” ทับเสื้อเหลืองและเสื้อแดง จากนั้นจับมือและถ่ายรูปร่วมกันกับ พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการ พล.ร.4 และนายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ขอให้ลืมอดีต เดินหน้า เลิกแล้วต่อกัน
ขณะที่ พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการ พล.ร.4 กล่าว่า ทุกคนแนวคิดต่างกัน ต่อไปจะต้องร่วมมือกัน ทำอย่างไรจะต้องคุยกัน เรื่องจังหวัดพิษณุโลกเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร เรื่องสี่แยกอินโดจีนเพื่อพัฒนาจังหวัด ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ถือเป็นมิติใหม่ที่ดี และขอร้องว่าห้ามชุมนุม มิฉะนั้นทหารมีความจำเป็นต้องดำเนินการทันที