ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปตท.เร่งทำประชาพิจารณ์กลุ่มชาวประมงบ้านอ่าวอุดม “โครงการวางท่อพาราไซลีน” ในอ่าวอุดม ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ชาวประมงหวั่นได้รับผลกระทบวอนดูแลทั้งระยะสั้น-ยาว
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ทำการชุมชนอ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยนายสุรชัย ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการโครงการเพิ่มขีดความสามารถการนำเข้า การจ่าย และระบบขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้จัดทำประชาพิจารณ์กลุ่มชาวประมงบ้านอ่าวอุดม ใน “โครงการวางท่อพาราไซลีน” ในทะเล โดยมีชาวประมงอ่าวอุดม ร่วมรับฟังพร้อมซักถามถึงรายละเอียดของโครงการ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
นายสุรชัย กล่าวว่า ปัจจุบัน ปตท.มีแผนจะวางท่อพาราไซลีน ในพื้นที่ของคลังน้ำมันศรีราชา เพื่อการขนส่งและการขนถ่ายผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างคลังน้ำมันศรีราชา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด โดยจะมีการวางท่อพาราไซลีนขนาด 12 นิ้ว ผ่านพื้นที่ดังกล่าวและจะไปสิ้นสุดในทะเลที่บริษัทกำหนดไว้ ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร
โดยจะวางท่อขนาด 12 นิ้ว จากคลังน้ำมันศรีราชา ไปถึงท่าเทียบเรือในทะเลที่กำหนดไว้ เป็นแนวท่อบนฝั่งระยะทาง 2,000 เมตร ผ่านพื้นที่ของคลังน้ำมันศรีราชาของ ปตท. พื้นที่คลังน้ำมันเอสโซ่ ของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด และแนวท่อใต้ทะเลระยะทาง 1,500 เมตร ซึ่งการวางท่อลงทะเลนั้นจะต้องมีการขุดร่องน้ำเพื่อวางท่อในระยะ 200 เมตร จากชายฝั่งซึ่งมีความกว้างประมาณ 8-10 เมตร และลึก 1.5 เมตร
สำหรับสารพาราไซลีน ไม่จัดอยู่ในบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2556 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยหากสารไซลีนเกิดการรั่วไหลจะแพร่กระจายไปตามพื้น ซึ่งสามารถติดไฟได้หากมีการรั่วไหลของสารดังกล่าว แต่บริษัทมีการศึกษาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นไว้เช่นกัน
นายอมรศักดิ์ ปัญญาเจริญวงศ์ ประธานชมรมประมงอ่าวอุดม กล่าวว่า กลุ่มประมงเห็นห่วงช่วงที่มีการขุดร่องน้ำบริเวณแนวชายฝั่งลงไปในทะเล มีความกว้างประมาณ 10 เมตร และลึก 1.5 เมตร ระยะทาง 200 เมตร หวั่นว่าหิน และทรายชายหาดจะมากองบริเวณชายฝั่ง ส่งผลกระทบต่อการทำประมง ดังนั้น ขอให้ทางบริษัทฝังกลบ หรือปรับสภาพให้เหมือนปกติ
นอกจากนั้น ขอให้บริษัทฯ ดูแลและเฝ้าระวังทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว ทั้งชาวประมงในอ่าวอุดม และพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เพราะที่ผ่านมา เมื่อมีโครงการเกิดขึ้นทางบริษัทจะให้การช่วยเหลือในช่วงแรกเท่านั้น แต่ในระยะยาวอาจได้รับผลกระทบอยู่ ก็ควรมีแนวทางช่วยเหลือไว้ด้วย