นครราชสีมา - เสธ.ทภ.2 เผยยังไม่พบการเคลื่อนไหวกลุ่มมวลชนอีสานหลังประกาศกฎอัยการศึกวันที่สอง ระบุ “แรมโบ้อีสาน” แจ้นยกหูประสานหลังกลุ่ม อพปช.ชัยภูมิรวมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ล่าสุดเพิ่มจุดตรวจบนถนนสายหลักมุ่งหน้าเข้า กทม.อีก 3 จุด ทั้งขยายตรวจยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเพิ่ม สั่งจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มแดงในขอนแก่น-อุดรฯ เป็นพิเศษ
วันนี้ (21 พ.ค. ) พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะหัวหน้าโฆษกกองทัพภาคที่ 2 โฆษก กอ.รมน.ภาค 2 เปิดเผยว่า หลังมีการประกาศกฎอัยการศึกเป็นวันที่สอง จนถึงขณะนี้ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัดยังไม่พบการเคลื่อนไหวผิดปกติเกิดขึ้นแต่อย่างใด ประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม มีบางจังหวัดที่พบการเคลื่อนไหวของมวลชน เช่นที่ จ.ชัยภูมิ กลุ่ม อพปช.ได้รวมตัวกันเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจไปแล้ว และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ประธาน อพปช. ได้โทร.มาประสานทำความเข้าใจแล้ว พร้อมรับปากจะดูแลกลุ่มสมาชิก อพปช.ให้อยู่ในกรอบของกฎหมายเป็นไปตามกฎอัยการศึก
ทั้งยังพบการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยเมื่อคืนวานนี้มีการรวมตัวกันประมาณ 150 คนเปิดเวทีปราศรัย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำความเข้าใจและให้สลายการชุมนุมไปแล้ว ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอย่างใด เช่นเดียวกับที่ จ.มุกดาหาร กลุ่ม นปช.รวมตัวกันเปิดเวทีชุมนุม หน่วยทหารในพื้นที่ได้ลงไปทำความเข้าใจ ทุกคนยอมสลายการชุมนุมในที่สุด
เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่า ในส่วนการตั้งจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองบนถนนสายหลักนั้น ได้เพิ่มจุดตรวจอีก 3 จุดจากเดิม 8 จุด รวม 11 จุด ในบริเวณถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น, ถนนสายด่านขุนทด-สีคิ้ว อ.ด่านขุนทด และถนนมิตรภาพ บริเวณหน้าเอาต์เลต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ขณะเดียวกันได้ขยายการตรวจค้นจากเดิมเน้นเฉพาะตรวจคุ้นอาวุธเท่านั้น เจ้าหน้าที่จะตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ รวมถึงการขนคนเข้าไปร่วมชุมนุมด้วย ส่วนจุดสำคัญต่างๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด ได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่เฝ้าระวังดูแลความเรียบร้อย ส่วนจุดที่มีประชาชนจำนวนมาก เช่น สถานีขนส่งและสถานีรถไฟ ได้ส่งทหารเข้าไปดูแลความเรียบร้อยทุกแห่งแล้ว
ทั้งนี้ จังหวัดที่กองทัพภาคที่ 2 จับตามองเป็นพิเศษ คือ จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี เนื่องจากที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวของมวลชนค่อนข้างมาก