ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “มทภ. 2” เรียกประชุมผู้ว่าฯ อัยการ ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรเอกชน ภาคอีสาน 20 จังหวัด แจงกฎอัยการศึก ที่กองทัพภาค 2 ค่ายสุรนารี โคราช เผยจัดกำลังทหารติดอาวุธสงครามดูแลความเรียบร้อยรอบห้องประชุม ระบุขอ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยันทหารทำเท่าที่จำเป็น ย้ำสื่อวิทยุชุมชนหยุดยุยงปลุกป่น ขู่สั่งปิด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้องประชุม 4 (วิบูลย์ศักดิ์) กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการเรียกประชุมด่วนผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการภาค อัยการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคเอกชนในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน เช่น นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา รวมจำนวนกว่า 100 คน
โดยมี พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (ผอ.กอ.รมน.ภาค2) เป็นประธานการประชุม เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก โดยมีกำลังทหารพร้อมอาวุธปืนสงครามกว่า 20 นายยืนรักษาความสงบเรียบร้อยรอบบริเวณห้องประชุม และมีรถฮัมวี่จอดประจำการเตรียมความพร้อมด้วย
ทั้งมีวาระสำคัญในการประชุม เรื่อง การชี้แจงแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อย 3 วาระได้แก่ วาระที่ 1 ผบ.ทบ/ผอ.รส. ชี้แจงการรักษาความสงบเรียบร้อย วาระที่ 2 การปรึกษาหารือแนวทางรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวาระที่ 3 มทภ.2/ผอ.กกล.รส.ทภ.2 มอบแนวทางการปฏิบัติงาน โดยการประชุมดังกล่าวมีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) ไปยังหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ของภาคอีสานที่มีการนัดหัวหน้าส่วนราชการมาชี้แจงด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ในห้องประชุมครั้งนี้แต่อย่างใด
จากเอกสารทำความเข้าใจผ่านสื่อมวลชนของฝ่ายประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 ระบุสาระสำคัญว่า 1. การประกาศกฎอัยการศึกไม่ใช่การปฏิวัติ 2. การประกาศกฎอัยการศึก เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในประเทศมากยิ่งขึ้น และทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเป็นผล รวมทั้งทำให้เกิดประสิทธิภาพในการติดตามจับกุมผู้ที่ใช้อาวุธสงครามตามที่มีการเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา 3. การใช้กฎอัยการศึกนั้น ทหารจะนำมาใช้บางส่วนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ขอให้อย่าได้ตื่นตระหนก
4. เพื่อให้การดำเนินการของสื่อมวลชนต่างๆ และวิทยุชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงขอความร่วมมือดังนี้
4.1 ดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามปกติ 4.2 ขอให้หลีกเลี่ยงและระงับการดำเนินการในอันที่จะเป็นการยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยกหรือความไม่สงบ ซึ่งหากไม่ได้รับความร่วมมือ จำเป็นจะต้องขอเชิญผู้รับผิดชอบเข้ามาทำความเข้าใจเพิ่มเติม หรืออาจถึงขั้นร้องขอให้ปิดกิจการ และ 4.3 ขอให้ระงับการนำหรือเชิญข้าราชการ อดีตข้าราชการ นักวิชาการ และอื่นๆ มาออกรายการหรือนำเสนอทางสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการแสดงความเห็นหรือพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน