จันทบุรี - การประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ไม่กระทบต่อพื้นที่ชายแดนทั้ง 4 จุด และพื้นที่ชั้นในจังหวัดจันทบุรี การค้าขายยังคงเป็นไปตามปกติ แต่เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจมากขึ้น ขณะที่ ผบ.กปจต.ระบุไม่มีการเสริมกำลังตามแนวชายแดนแต่อย่างใด
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังคงเป็นไปตามปกติ หลัง พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้ออกมาเปิดเผยว่า พื้นที่ชายแดนทั้ง 4 จุด คือ ด่านชายแดนถาวร 2 จุด คือ ด่านชายแดนถาวรบ้านแหลม และด่านชายแดนถาวรผักกาด และจุดผ่อนปรนอีก 2 จุด คือ บ้านซับตารี และบ้านสวนส้ม ทางกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ยังไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปแต่อย่างใด
ประชาชน พ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชายังคงไปมาค้าขาย และเดินเข้าออกกันตามปกติ จึงทำให้การค้าขายในพื้นที่ชายแดนยังไม่มีผลกระทบ แต่ถึงอย่างไรอาจจะมีการเพิ่มมาตรการตรวจเข้มบ้างในช่วงนี้ ส่วนพื้นที่ชั้นใน ย่านธุรกิจการค้า การท่องเที่ยวในตัวเมืองจันทบุรี แม้จะมีการประกาศกฎอัยการศึกออกมาก ก็ยังไม่พบว่ามีการกลุ่ม นปช. และกลุ่ม กปปส.ออกมาเคลื่อนไหว หรือเข้ายื่นหนังสือในค่ายทหารแต่อย่างใด ทหารยังคงอยู่ในที่ตั้งและไม่ได้มีการขึงลวดหนาม ส่วนกิจกรรมที่ทางจังหวัดจัดขึ้นก็ไม่ได้มีการล้มเลิก หรือหยุดจัดกิจกรรมใดๆ
พล.ร.ท.สนธยา กล่าวอีกว่า แม้ ผบ.ทบ.จะมีการประกาศกฎอัยการศึกออกมานั้น แต่ก็เป็นเพียงคำสั่งที่ให้ทหารเตรียมพร้อมเท่านั้น ในส่วนนี้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี อย่าได้วิตกกังวล หรือ หวาดกลัวประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีสามารถที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเช่นทุกวันอีกด้วย
นายธีรพัฒน์ รัตนจันทร์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านให้ความคิดเห็นว่า เห็นด้วยที่ทหารออกมา และควรที่จะออกมาตั้งนานแล้ว ทั้งนี้ ก็ต้องจับตาดูทีท่าของทหารว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรเพราะเสื้อแดง และเสื้อเหลืองยังคงมีการชุมนุมอยู่ ส่วนผลกระทบที่มีการประกาศกฎอัยการศึกยังไม่ส่งผลกระทบต่อจังหวัดจันทบุรีแต่อย่างใด ตนเองไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด แม้ทาง ผบ.ทบ.จะมีการประกาศกฎอัยการศึกออกมา ตนเองก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกเหมือนเดิม ตนเองอยากให้บ้านเมืองกลับมาสงบเหมือนเดิม และมีความรัก ความสามัคคีกันเพราะเราคนไทยเหมือนกัน