xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ-บิ๊ก ขรก. 20 จว.อีสาน โร่รายงานตัว “มทภ.2” เผยบุกค้นอาวุธ 3 จุด ภาพรวมยังปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร รัฐวิสาหกิจ และสถาบันศึกษา 20 จังหวัดภาคอีสาน เข้ารายงานตัว หลัง คสช.อำนาจ ที่กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 23 พ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ว่าฯ บิ๊ก ขรก. ทหาร ตร. รัฐวิสาหกิจ และสถาบันศึกษา 20 จว.ภาคอีสาน โร่รายงานตัวที่ “ทภ.2” โคราช หลัง คสช. ยึดอำนาจ ด้าน “มทภ.2” เผยสถานการณ์โดยรวมยังปกติแต่ไม่ประมาทเฝ้าระวังเต็มที่ ระบุส่งกำลังตรวจค้นแหล่งซ่อนอาวุธสงคราม 3 จุด แต่ไม่พบ ยันด่านชายแดนเปิดตามปกติ เรียกอดีต ส.ส.-แกนนำม็อบอีสาน รายงานตัวพรุ่งนี้ ขณะ “แรมโบ้” ยังไม่โผล่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศรีพัชรินทร์ สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 ได้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการอัยการ/ศาล ทหาร/ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ สถาบันศึกษา และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือมารายงานตัวด่วนพร้อมรับฟังการชี้แจงข้อปฏิบัติ

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (National Peace and Order Maintaining Council) หรือ คสช. นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะ ประกาศเข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศ ตั้งแต่เย็นวานนี้ (22 พ.ค.) เป็นต้นมา

พล.ท.ชาญชัย เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวมทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่มีการประกาศกฎอัยการศึกจนถึงการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของ คสช. ยังคงปกติ มีเฉพาะบางพื้นที่ที่ประชาชนบางส่วนบางกลุ่มยังไม่เข้าใจ จึงมีการรวมตัวกันประมาณ 7-10 คน เช่นในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ และฝ่ายตำรวจชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้ราษฎรส่วนนั้นกลับเข้าบ้านพัก

ขณะที่สถานการณ์ตามแนวชายแดนด้านภาคอีสาน ทั้งอีสานตอนบน และอีสานตอนล่าง ขณะนี้ยังถือว่าเหตุการณ์อยู่ในความเรียบร้อยปกติ

ส่วนด่านทั่วไปตามแนวชายแดนยังคงดำเนินการตามปกติ เพราะทาง คสช. โดย ผบ.ทบ. ยังไม่มีการสั่งการมาเพิ่มเติมในส่วนของแนวชายแดน เพียงแต่ให้ดูในเรื่องของการเคลื่อนย้ายกองกำลัง อาวุธสงคราม และอาวุธผิดกฎหมายที่ต้องตรวจเข้มข้นขึ้น ส่วนการสัญจรไปมา และการค้าขาย ยังไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

“นับตั้งแต่มีการใช้กฎอัยการศึกมาจนถึงขณะนี้ ได้รับรายงานมีการเข้าตรวจค้นอาวุธสงครามประมาณ 3 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ โดย 1 ใน 3 แห่งเป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจากกรณีที่กรุงเทพฯ โดยได้ส่งทหารเข้าพบพูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อแม่ของผู้ต้องสงสัย ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดี ส่วนอีก 2 พื้นที่อยู่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด จ.อุดรธานี จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่ป่าเขา ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นเพียงข่าวแจ้งมาแบบลอยๆ แต่เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยในพื้นที่ก็ไม่ประมาท นอกจากนี้ ยังมีในพื้นที่ จ.นครพนม แต่เป็นการเข้าใจผิดไม่ได้เป็นเรื่องอาวุธสงคราม โดยสรุปในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ขณะนี้กำลังดำเนินการหาข่าวเรื่องอาวุธสงครามอย่างเต็มที่” พล.ท.ชาญชัย กล่าว

พล.ท.ชาญชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวนั้น ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่แต่ละจังหวัดมีอำนาจในการไปทำความเข้าใจ และอำนวยความสะดวกแจ้งเตือนแต่ละหน่วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด หากเป็นการประชุมที่ไม่ใช่เรื่องทางการเมืองก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากเป็นเรื่องการเมืองต้องขอร้องกันไว้ก่อน

ขณะนี้ทหารทุกหน่วยในภาคอีสานได้เข้าประจำจุดตามแผนทุกพื้นที่ทุกจังหวัดแล้วเสร็จหมดแล้วตั้งแต่เวลา 20.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญ ดูแลความสงบเรียบร้อย และความตื่นตระหนกของประชาชน ซึ่งขณะนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ปกติอยู่

สำหรับมวลชนภาคอีสานที่ไปชุมนุมกรุงเทพฯ และเดินทางกลับภูมิลำเนาตั้งแต่เมื่อคืนนั้น ได้รับแจ้งว่าจะมาส่ง จำนวน 60 คัน แต่จนถึงขณะนี้มาถึง จ.นครราชสีมาแค่ 3 คัน ซึ่งทางกองกำลังประจำพื้นที่ คือ มทบ.21 ได้ประสานทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เพื่อจัดรถส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้านต่อไปแล้ว แต่ยังมีประชาชนบางส่วนอยู่รอเพื่อนที่จะเดินทางมากับรถอีกคันเพื่อเดินทางกลับพร้อมกัน โดยส่วนที่เหลือจะเดินทางมาถึง จ.นครราชสีมา ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งในส่วนการอำนวยความสะดวก งบประมาณค่าน้ำมัน ค่าเบี้ยเลี้ยง อาหาร และน้ำดื่มต่างๆ นั้นทาง กองทัพสำรองจ่ายการเคลื่อนย้ายไปก่อน

ส่วนการเรียกกลุ่มนักการเมือง หรือแกนนำกลุ่มมวลชนมารายตัวนั้น พล.ท.ชาญชัย กล่าวว่า ที่เชิญมารายงานตัวในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ แต่ในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) จะเชิญอดีต ส.ส. และแกนนำมวลชนแต่ละฝ่าย รวมถึงผู้ที่เคยเคลื่อนไหวมารายงานตัว แต่เนื่องจากการเดินทางมาที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา อาจห่างไกลในหลายจังหวัด ฉะนั้นกำลังพิจารณาในส่วนทั้ง 20 จังหวัด ว่า อาจให้หน่วยทหารในแต่ละพื้นที่เชิญตัวมาเพื่อพูดคุย ขอทราบที่อยู่ที่แท้จริง มีเบอร์โทรศัพท์สถานที่ติดต่อ แล้วให้เดินทางกลับได้ ยกเว้นผู้ที่มีบัญชีที่ต้องทำความเข้าใจ และให้อยู่ในกองทัพ 3-5 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการสั่งการของ คสช.

“การเชิญตัวมารายงานตัว เราดูแลอย่างดีตั้งแต่หัวจดเท้า ถือว่าเข้ามาพักผ่อน มีบ้านพักรับรองให้ ส่วน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ประธาน อพปช. ที่นัดเจอกันก่อนหน้านี้ แต่เข้าใจไม่ตรงกันเรื่องสถานที่จึงไม่พบ ฉะนั้นวันนี้จึงตกลงว่า ให้ นายสุภรณ์ เดินทางมารายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 2 เพื่อสอบถามพูดคุย แต่จนขณะนี้ยังไม่ได้มาพบ อาจเป็นช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแกนนำบุคคลสำคัญเข้ามาพบแต่อย่างใด” พล.ท.ชาญชัย กล่าว




พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง  มทภ.2


กำลังโหลดความคิดเห็น