ประจวบคีรีขันธ์ - กระทิงกุยบุรีตายเริ่มบานปลาย เจ้าหน้าที่โครงการพระราชดำริ พบผงยาสีฟ้าบริเวณพื้นดินใต้ต้นมะม่วง กำนันหาดขาม จี้ต้องหาที่มาว่าเป็นยาอะไร ใครนำมาโรยไว้ พนักงานสอบสวน สภ.ยางชุม เข้าเก็บหลักฐานแล้ว
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจาก ดร.กาญจนา นิตยะ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมชุดตรวจสุภาพสัตว์ จากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ พร้อมทีมสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การสวนสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วย นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี กำนันตำบลหาดขาม และพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุม ผ่าซากกระทิงเพศผู้ที่ถูกยิงยาสลบเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม และเสียชีวิตแล้วนั้น
โดยทีมสัตวแพทย์ผ่าเปิดซาก และเก็บชี้นเนื้อ ตลอดจนอวัยวะบางส่วนใส่ถุงพลาสติก นำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการต่อไป เพื่อหารายละเอียดว่าเสียชีวิตจากโรคใดกันแน่ หลังจากเบื้องต้นคาดว่าจากโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งหลังจากผ่าซากเสร็จแล้วทางเจ้าหน้าที่อุทยานต้องทำการฆ่าเชื้อ ก่อนที่จะใช้รถขุดฝังกลบต่อไป
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา คนงานของโครงการกุญชร ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่พบถุงยาซุกอยู่บริเวณต้นมะม่วงในพื้นที่โครงการ ห่างจากสำนักงานโครงการประมาณ 200-300 เมตร และได้แจ้งให้นายสาธิต ปิ่นกุล หหัวหน้าโครงการตรวจสอบ พร้อมด้วย นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุม พบถุงบรรจุยาซึ่งเป็นผงสีฟ้ายังเหลืออยู่บางส่วน และอีกส่วนกระจัดกระจายอยู่บริเวณพื้นดินใต้ต้นมะม่วง มีร่องรอยเท้าช้างเข้ามาเหยียบย่ำ รวมทั้งสัตว์อื่น เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวัน และเก็บหลักฐานไว้แล้วเพื่อตรวจสอบว่าเป็นผงยาชนิดใดต่อไป
ด้านนายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม กล่าวว่า อยากให้ทางทีมสัตวแพทย์ยิงยาสลบกระทิง โดยขอให้เลือกตัวที่มีสุภาพสมบูรณ์แข็งแรง และอ้วนอีกครั้ง เพื่อนำตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างเลือดของกระทิงตัวป่วย และเสียชีวิตไปแล้ว เพราะกระทิงบางตัวที่ตายตัวใหญ่อ้วน บางตัวผอม ทั้งนี้ เพื่อคลายความสงสัยให้แก่สาธารณชน ว่า กระทิงตายเพราะโรคอะไรกันแน่ และทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะหามาตรการป้องกันฝูงกระทิงที่เหลืออย่างไร เพราะถึงเวลาที่จะต้องพูดคุยและบอกความจริงกัน ไม่อยากให้คลุมเครือ เพราะตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทิงก็ตายอีกแล้ว
ส่วนเรื่องการพบถุงใส่ยาผงสีฟ้านั้น บริเวณจุดที่พบมีทั้งรอยเท้าช้างที่เข้ามา และสัตว์อื่นๆ ด้วย จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่ายาผงดังกล่าวใครนำมา และนำมาเพื่ออะไร ซึ่งหากพบสัตว์ป่าเสียชีวิตขึ้นอีก โดยเฉพาะช้าง ตนคิดว่าต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
