ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราช เตรียมสรุปสำนวนคดีชาวต่างชาติหมิ่นเบื้องสูงส่งอัยการ เผยแกนนำ กปปส.โคราช เข้าแจ้งความถูกฝรั่งถ่อยแสดงอาการอ้วกใส่หลังเห็นติดล็อกเกต “ในหลวง” และธงชาติไทยที่หน้าอก ยันยอมไม่ได้ให้ใครมาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ขณะฝรั่งเขยอีสานอ้างน้ำขุ่นไม่ชอบ “สุเทพ” เห็นใส่เสื้อมีรูป “สุเทพ” จึงอ้วกใส่ไม่เกี่ยวเบื้องสูง ด้านเมียกร่างโชว์ตบต่อหน้า ตร. ทำเจรจาล่ม
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.ท.เอกราช อาจมนตรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยถึงคดีชาวต่างชาติหมิ่นเบื้องสูง ว่า เมื่อวานนี้ ได้เรียก นายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือ “ชัย กองเมือง” แกนนำกลุ่ม กปปส. โคราช อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/4 ซอยกิ่งสวายเรียง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้กล่าวหา และ นายแยน น็อคแคนเฮ้าร์ เยอเคนเซน อายุ 46 ปี สัญชาติเดนมาร์ก อยู่บ้านเลขที่ 370/171 หมู่ 21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ถูกกล่าวหา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกรณี แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหมิ่นเบื้องสูง ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา
โดย นายแยน ได้เดินทางมาพร้อมกับ นางสุธีรา ศรีรักษา อายุ 36 ปี ภรรยาชาวไทย ขณะที่ นายสมชาย ได้มีสมาชิก กปปส.โคราช เดินทางมาให้กำลังใจ และให้ปากคำครั้งนี้กว่า 10 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาตกลงกัน แต่ในระหว่างการเจรจาได้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทกันขึ้น ถึงขั้นมีการกระทบกระทั่งกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดย นางสุธีรา ภรรยา นายแยน ได้ใช้มือตบไปที่ใบหน้าของ นางวันทนี ทวีสุข อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204/225 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา สมาชิก กปปส.โคราช ที่เข้าไปห้ามไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน ก่อนสถานการณ์จะสงบลง
กรณีทะเลาะวิวาทกันนั้นได้เรียก นางสุธีรา และ นางวันทนี มาทำการปรับคนละ 50 บาท เนื่องจากก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน และในสถานที่ราชการ ส่วนกรณีที่ นางสุธีรา ตบหน้า นางวันทนี นั้น ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ไปพบแพทย์จึงไม่ได้แจ้งความเอาผิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ให้เฉพาะ นายสมชาย และ นายแยน พร้อมภรรยา มาเจรจาตกลงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในห้องสอบสวน ตลอดช่วงการเจรจา นายแยน ไม่ยอมนั่งเก้าอี้ พร้อมมีท่าทีไม่ให้เกียรติเจ้าพนักงานสอบสวนและไม่สนใจที่จะเจรจากับ นายสมชาย ปล่อยให้ นางสุธีรา ภรรยา พูดคุยตกลงกับนายสมชายเท่านั้น ส่วนตัวเองได้ต่อโทรศัพท์คุยเรื่องอื่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพนักงานสอบสวนที่นั่งอยู่ต่อหน้าได้ต่อว่า นายแยนไปหลายครั้ง แต่นางสุธีรา ภรรยา อ้างว่า นายแยน ปวดหลังจึงไม่นั่งเก้าอี้ ทำให้เวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถตกลงกันได้
พ.ต.ท.เอกราช กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ นายแยน เบื้องต้นได้ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าในวันดังกล่าวได้แสดงกิริยาอาการทำท่าอาเจียนใส่ นายสมชาย จริง เนื่องจาก นายสมชาย สวมเสื้อที่มีรูปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ซึ่งตัวเองไม่ชอบ เพราะอ้างว่า นายสุเทพ เป็นผู้ที่ทำลายประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาดูหมิ่นซึ่งหน้า
ส่วนข้อกล่าวหากระทำผิดมาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน โดย นายแยน ปฏิเสธว่าไม่ได้แสดงกิริยาหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอดูภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดด้านหน้า สภ.เมืองนครราชสีมา ในวันเกิดเหตุเพื่อมาประกอบคดีอีกครั้ง จากนั้นจะสรุปสำนวนคดี ภายใน 15 วัน เสนอต่ออัยการจังหวัดนครราชสีมา ให้ลงความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา นายสมชาย ผู้กล่าวหา ได้เข้าแจ้งความโดยให้การว่า ขณะกำลังจูงสุนัขเดินเล่นอยู่บริเวณหน้า สภ.เมืองนครราชสีมา นายแยน คู่กรณี ได้ขับรถยนต์มาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อทำธุระ เมื่อเห็นนายสมชาย นายแยนซึ่งสวมเสื้อสีแดง ได้เข้าชี้มาที่ล็อกเกตพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และธงชาติไทย ที่นายสมชาย ติดอยู่บริเวณหน้าอก แล้วเดินเข้ามาหาพร้อมทำท่าทางอาเจียนใส่หน้า ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ด่าทอ และมีปากเสียงกันขึ้น นายสมชายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่า นายแยน แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ขณะที่ นางสุธีรา ภรรยานายแยน กล่าวว่า นายแยน สามีได้ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด และค่อนข้างมีอารมณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยไม่ชอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มานานแล้ว แต่เรื่องสถาบันเบื้องสูง นั้น ไม่เคยเห็นสามีแสดงกิริยาดูหมิ่นแต่อย่างใด ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ได้มาขอโทษคู่กรณี เพื่อให้เรื่องจบและไม่ต้องการให้บานปลายไปมากกว่านี้
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า นายแยน ชาวต่างชาติแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อสถาบันเบื้องสูง และยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ นายแยน ได้ชี้มาที่ล็อกเกตพระเจ้าอยู่หัวที่ตนติดไว้หน้าอกก่อนจะแสดงอาการอาเจียนใส่จริง ไม่ได้ชี้มาที่ภาพของนายสุเทพแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่ชาวต่างชาติรายนี้กระทำลงไปต้องรับผิดชอบ จะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ ตนซึ่งมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงใครจะมาแตะต้องทำให้เสื่อมเสียไม่ได้ และยิ่งเป็นชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยใต้ร่มพระบารมีก็ยิ่งต้องเคารพพระองค์ท่านจะมาแสดงกิริยาเช่นนี้ไม่ได้ มาอยู่ที่ประเทศไทยต้องรู้ว่าสิ่งไหนควรไม่ควร หากปล่อยคนลักษณะแบบนี้ลอยนวลก็ยิ่งจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ทั้งชาวไทยและคนต่างชาติ ได้
“ได้ยื่นข้อเสนอให้ นายแยน กราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอขมาหรือขออภัยโทษที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่นายแยนไม่ยอมอ้างว่าตัวเองไม่ผิด ฉะนั้น ตนจึงยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” นายสมชาย กล่าว