ศูนย์ข่าวภูมิภาค - พลัง ปชช.ทั่วประเทศนัดแสดงพลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ร่วมไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” โค่นล้มระบอบทักษิณ ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด คู่ขนาน กปปส.ใน กทม.วันนี้ ขณะที่สภาประชาชน 20 จังหวัดอีสานมีมติปลุกระดมคนอีสานตื่นตัวร่วมไล่ “ปูเน่า” ปฏิรูปประเทศใหม่ ขณะที่แต่ละจังหวัดระดมกำลัง จนท.คุมเข้มศาลากลาง
ประชาชนทุกจังหวัดทั่วทุกภาคในประเทศไทย ได้นัดรวมตัวแสดงพลังครั้งใหญ่เพื่อเดินทางไปชุมนุมยังศาลากลางจังหวัดของแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และโค่นล้มระบอบทักษิณ อีกครั้ง โดยจะมีการเคลื่อนไหวพร้อมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นแกนนำคนสำคัญในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ตั้งแต่เวลา 09.39 น.เป็นต้นไป
โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น วันนี้ (8 ธ.ค.) มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังประชาชนกันอย่างคึกคัก โดยเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมโฆษะขอนแก่น สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน (สชอ.) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าในภาคอีสานออกไปร่วมชุมนุมกับมวลมหาชนประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาล โค่นระบอบทักษิณ ในวันนี้ ทั้งที่ในกรุงเทพฯ และตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ภูมิลำเนาของตนเอง
นายชูชาติ ผิวสว่าง ในฐานะเลขาธิการสภาประชาชนภาคอีสาน กล่าวว่า จากการนัดหารือตัวแทนเครือข่ายองค์กรต่างๆ ในภาคอีสาน มีมติเห็นด้วยกับมวลมหาประชาชนในการโค่นล้มระบอบทักษิณ อันเป็นที่มาของการคอร์รัปชัน ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดินอย่างมหาศาล โดยใช้กลไกการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการสร้างผลประโยชน์ทับซ้อน จึงได้พิจารณาร่วมกัน และมีมติร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า 1.เห็นควรให้มวลมหาประชาชนนำพาประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลง ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง
2.ให้สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน ได้ส่งสารไปยังเครือข่ายให้จัดมวลชนมุ่งหน้าเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมกับมวลมหาประชาชนวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 09.39 น. ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3.สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างมวลมหาประชาชนอย่างเข้มแข็ง และ 4.สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน จะเข้าร่วมการชุมนุมในการโค่นล้มระบอบทักษิณในทุกเวที ทุกสถานที่ทุกจังหวัด
สำหรับสภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย 1.สภาองค์กรชุมชน 20 จังหวัดภาคอีสาน 1,465 ตำบล 2.กลุ่มนักวิชาการอิสระภาคอีสาน 3.กลุ่มสื่อมวลชนอิสระภาคอีสาน 4.กลุ่มนักธุรกิจภาคอีสาน 5.กลุ่มแพทย์พยาบาลภาคอีสาน 6.กลุ่มเกษตรกรภาคอีสาน 7.กลุ่มเยาวชนภาคอีสาน 8.กลุ่มข้าราชการเกษียณในภาคอีสาน 9.กลุ่มเครือข่ายปัญหาที่ดินในภาคอีสาน 10.กลุ่มเครือข่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในภาคอีสาน และ 10.กลุ่ม NGOs และประชาสังคมภาคอีสาน
**ทุกองค์ขอนแก่นนัดรวมพลังแต่เช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ชาวขอนแก่นที่ร่วมขับไล่รัฐบาล และโค่นล้มระบอบทักษิณมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมกับ กปปส.กันอย่างคึกคัก บ้างก็นั่งรถยนต์โดยสารประจำทาง บ้างก็เหมารถตู้ไปกันเอง บางส่วนขับรถยนต์ส่วนตัวไป แต่สำหรับประชาชนที่เดินทางไปไม่ได้ก็ได้นัดรวมตัวแสดงพลังกันในพื้นที่ โดยจะมีทั้งกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลขอนแก่น และประชาชนทั่วไป โดยได้นัดรวมตัวกันที่ลานน้ำพุ บึงแก่นนครตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ขณะที่กลุ่มบุคลากรทุกสาขาของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และประชากรทั้งคณาจารย์ นักศึกษา มข.ประกาศนัดรวมตัวกัน 2 จุดคือ บริเวณด้านหน้าคอมเพล็กซ์ มข. และลานพระรูปด้านหน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ทั้ง 2 จุดนัดรวมตัวในเวลา 08.30 น.วันพรุ่งนี้
หลังจากรวมตัวกันเสร็จแล้วจะมีรถยนต์ขับเคลื่อนขบวนไปสมทบกันที่ลานน้ำพุ บึงแก่นนคร และหลังจากนั้น จะเดินเคลื่อนขบวนไปชุมนุมแสดงพลังขับไล่รัฐบาลโค่นล้มระบอบทักษิณกันที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น การชุมนุมจะมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อประกาศให้รู้ว่าประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาล และต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณ ตลอดทั้งวัน เป็นเวทีคู่ขนานกับมวลมหาประชาชาที่กรุงเทพฯ
**อุบลฯ ระดม จนท.คุมเข้มศาลากลาง
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งให้เพิ่มมาตรการป้องกันมวลชนบุกยึดศาลากลาง เพื่อกดดันไม่ให้ข้าราชการเข้าปฏิบัติงานตามปกติ โดยวางกำลังตำรวจทั้งด้านหน้าทางเข้าศาลากลาง รวมทั้งในตัวอาคาร และมีการเพิ่มรั้วลวดหนาม ติดตั้งป้ายระบุข้อหาที่ผู้บุกรุกจะถูกดำเนินคดี พร้อมกล้องทีวีวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพกลุ่มมวลชนที่เดินทางมา หลังหน่วยงานความมั่นคงได้เบาะแสมีการรวมตัวของมวลชนในพื้นที่ ส่วนด้านในมีการนำรถฉีดน้ำมาเพิ่มเป็น 4 คัน พร้อมรถขนผู้ต้องหา และวางแผงเหล็กกั้นรอบอาคารศาลากลางทั้งหมด ล่าสุด มีการสั่งระดมกำลังผู้ใหญ่บ้านเดินทางเข้ามารักษาศาลากลางตั้งแต่ตอนเช้าวันนี้ 600 คนด้วย
**มช.-ชาวเหนือนัดแสดงพลังเช้าวันนี้
ด้านกลุ่มเครือข่ายชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) และคนเชียงใหม่ต้านคอร์รัปชัน ได้ประกาศนัดรวมตัวแสดงประชามติ “ไม่เอาระบอบทักษิณ” เช่นเดียวกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยรัฐทั่วประเทศ ตลอดจน กปปส.ในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.39 น.เป็นต้นไป ณ ลานศาลาธรรม มช.
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ภาคประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้นัดรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่เวลา 08.00 น. แม้ก่อนหน้านี้ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จะติดป้ายประกาศสั่งห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลเข้า-ออกศาลากลางจังหวัด และบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งการเข้าไปอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่ควบคุมมาตั้งแต่เช้าวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
ส่วนที่ จ.ลำปาง กลุ่มเครือข่ายคนลำปางรักชาติกว่า 300 คน ได้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส.ในกรุงเทพฯ ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ไม่ได้ ก็ได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณศาลากลางจังหวัดในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง สั่งการให้ชุดสืบสวนทุกสถานีตำรวจใน 13 อำเภอติดตามการชุมนุมของกลุ่มมวลชนในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำชับให้กองร้อยชุดควบคุมฝูงชนวางกำลังดูแลศาลากลางจังหวัดอย่างเข้มงวด
ส่วนที่ จ.พิจิตร มีการประกาศเชิญชวนประชาชนให้ออกไปรวมตัวกันในวันนี้ ที่บริเวณสนามหน้าตึก อบจ.พิจิตร เพื่อขับเคลื่อนแสดงพลังอารยะขัดขืนไม่เอารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พล.ต.ต.กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พิจิตร ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.กว่า 50 คน สลับสับเปลี่ยนตรวจตรายานพาหนะที่เข้าออกภายในศาลากลางอย่างเคร่งครัด
**“กปปส.สงขลา” นัดเคลื่อนตัววันนี้
ด้านบรรยากาศที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ โดยเริ่มมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านำอุปกรณ์เชิงสัญลักษณ์ ทั้งนกหวีด ที่คาดผม และคาดศีรษะลวดลายธงชาติไทยมาเตรียมวางจำหน่ายให้แก่กลุ่มมวลชนชาวสงขลา ทั้งประชาชน นักศึกษา และองค์กรต่างๆ ที่ตั้งขึ้นเป็น กปปส.สงขลา ได้นัดมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อเคลื่อนไหวใหญ่คู่ขนานไปกับ กปปส.ที่กรุงเทพฯ ในวันนี้
สำหรับในพื้นที่ จ.สงขลานั้น ในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ใน 2 จุดคือ ที่ศาลากลางจังหวัด อ.เมืองสงขลา และที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีการดาวกระจายไปชุมนุมตามสถานที่ราชการ เช่น สภ.หาดใหญ่ และที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
ขณะเดียวกัน ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ส่งกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย จำนวน 155 นาย เข้าประจำการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในศาลากลางจังหวัด ร่วมกับกำลัง อส.โดยประจำจุดบริเวณประตูเข้าออกทุกทาง รวมทั้งภายในตัวอาคารศาลากลาง นอกจากนี้ ยังจะมีการปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดทั้ง 2 เส้นทาง ที่คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้เป็นสถานที่รวมตัวเปิดเวทีปราศรัยแทนการบุกเข้าไปภายในศาลากลางจังหวัดด้วย
ที่ จ.ระนอง นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศยกเลิกเวทีคู่ขนานใน กทม.ทั้งหมด และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการเคลื่อนไหวร่วมกับ กปปส.
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า แม้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกเวทีไปแล้ว แต่วันนี้ทราบว่ายังมีมวลชนในพื้นที่พร้อมออกมาเคลื่อนไหวที่ศาลากลางจังหวัด จึงกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดของสถานที่ราชการ เพื่อความสงบเรียบร้อย และป้องกันบุคคลไม่หวังดีก่อความวุ่นวาย โดยได้ประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาประจำภายในศูนย์ราชการจังหวัด
ประชาชนทุกจังหวัดทั่วทุกภาคในประเทศไทย ได้นัดรวมตัวแสดงพลังครั้งใหญ่เพื่อเดินทางไปชุมนุมยังศาลากลางจังหวัดของแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และโค่นล้มระบอบทักษิณ อีกครั้ง โดยจะมีการเคลื่อนไหวพร้อมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นแกนนำคนสำคัญในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ตั้งแต่เวลา 09.39 น.เป็นต้นไป
โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น วันนี้ (8 ธ.ค.) มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังประชาชนกันอย่างคึกคัก โดยเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมโฆษะขอนแก่น สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน (สชอ.) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าในภาคอีสานออกไปร่วมชุมนุมกับมวลมหาชนประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาล โค่นระบอบทักษิณ ในวันนี้ ทั้งที่ในกรุงเทพฯ และตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ภูมิลำเนาของตนเอง
นายชูชาติ ผิวสว่าง ในฐานะเลขาธิการสภาประชาชนภาคอีสาน กล่าวว่า จากการนัดหารือตัวแทนเครือข่ายองค์กรต่างๆ ในภาคอีสาน มีมติเห็นด้วยกับมวลมหาประชาชนในการโค่นล้มระบอบทักษิณ อันเป็นที่มาของการคอร์รัปชัน ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดินอย่างมหาศาล โดยใช้กลไกการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการสร้างผลประโยชน์ทับซ้อน จึงได้พิจารณาร่วมกัน และมีมติร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า 1.เห็นควรให้มวลมหาประชาชนนำพาประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลง ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง
2.ให้สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน ได้ส่งสารไปยังเครือข่ายให้จัดมวลชนมุ่งหน้าเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมกับมวลมหาประชาชนวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 09.39 น. ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3.สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างมวลมหาประชาชนอย่างเข้มแข็ง และ 4.สภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน จะเข้าร่วมการชุมนุมในการโค่นล้มระบอบทักษิณในทุกเวที ทุกสถานที่ทุกจังหวัด
สำหรับสภาประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย 1.สภาองค์กรชุมชน 20 จังหวัดภาคอีสาน 1,465 ตำบล 2.กลุ่มนักวิชาการอิสระภาคอีสาน 3.กลุ่มสื่อมวลชนอิสระภาคอีสาน 4.กลุ่มนักธุรกิจภาคอีสาน 5.กลุ่มแพทย์พยาบาลภาคอีสาน 6.กลุ่มเกษตรกรภาคอีสาน 7.กลุ่มเยาวชนภาคอีสาน 8.กลุ่มข้าราชการเกษียณในภาคอีสาน 9.กลุ่มเครือข่ายปัญหาที่ดินในภาคอีสาน 10.กลุ่มเครือข่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในภาคอีสาน และ 10.กลุ่ม NGOs และประชาสังคมภาคอีสาน
**ทุกองค์ขอนแก่นนัดรวมพลังแต่เช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ชาวขอนแก่นที่ร่วมขับไล่รัฐบาล และโค่นล้มระบอบทักษิณมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมกับ กปปส.กันอย่างคึกคัก บ้างก็นั่งรถยนต์โดยสารประจำทาง บ้างก็เหมารถตู้ไปกันเอง บางส่วนขับรถยนต์ส่วนตัวไป แต่สำหรับประชาชนที่เดินทางไปไม่ได้ก็ได้นัดรวมตัวแสดงพลังกันในพื้นที่ โดยจะมีทั้งกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลขอนแก่น และประชาชนทั่วไป โดยได้นัดรวมตัวกันที่ลานน้ำพุ บึงแก่นนครตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ขณะที่กลุ่มบุคลากรทุกสาขาของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และประชากรทั้งคณาจารย์ นักศึกษา มข.ประกาศนัดรวมตัวกัน 2 จุดคือ บริเวณด้านหน้าคอมเพล็กซ์ มข. และลานพระรูปด้านหน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ทั้ง 2 จุดนัดรวมตัวในเวลา 08.30 น.วันพรุ่งนี้
หลังจากรวมตัวกันเสร็จแล้วจะมีรถยนต์ขับเคลื่อนขบวนไปสมทบกันที่ลานน้ำพุ บึงแก่นนคร และหลังจากนั้น จะเดินเคลื่อนขบวนไปชุมนุมแสดงพลังขับไล่รัฐบาลโค่นล้มระบอบทักษิณกันที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น การชุมนุมจะมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อประกาศให้รู้ว่าประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาล และต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณ ตลอดทั้งวัน เป็นเวทีคู่ขนานกับมวลมหาประชาชาที่กรุงเทพฯ
**อุบลฯ ระดม จนท.คุมเข้มศาลากลาง
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งให้เพิ่มมาตรการป้องกันมวลชนบุกยึดศาลากลาง เพื่อกดดันไม่ให้ข้าราชการเข้าปฏิบัติงานตามปกติ โดยวางกำลังตำรวจทั้งด้านหน้าทางเข้าศาลากลาง รวมทั้งในตัวอาคาร และมีการเพิ่มรั้วลวดหนาม ติดตั้งป้ายระบุข้อหาที่ผู้บุกรุกจะถูกดำเนินคดี พร้อมกล้องทีวีวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพกลุ่มมวลชนที่เดินทางมา หลังหน่วยงานความมั่นคงได้เบาะแสมีการรวมตัวของมวลชนในพื้นที่ ส่วนด้านในมีการนำรถฉีดน้ำมาเพิ่มเป็น 4 คัน พร้อมรถขนผู้ต้องหา และวางแผงเหล็กกั้นรอบอาคารศาลากลางทั้งหมด ล่าสุด มีการสั่งระดมกำลังผู้ใหญ่บ้านเดินทางเข้ามารักษาศาลากลางตั้งแต่ตอนเช้าวันนี้ 600 คนด้วย
**มช.-ชาวเหนือนัดแสดงพลังเช้าวันนี้
ด้านกลุ่มเครือข่ายชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) และคนเชียงใหม่ต้านคอร์รัปชัน ได้ประกาศนัดรวมตัวแสดงประชามติ “ไม่เอาระบอบทักษิณ” เช่นเดียวกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยรัฐทั่วประเทศ ตลอดจน กปปส.ในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.39 น.เป็นต้นไป ณ ลานศาลาธรรม มช.
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ภาคประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้นัดรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่เวลา 08.00 น. แม้ก่อนหน้านี้ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จะติดป้ายประกาศสั่งห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลเข้า-ออกศาลากลางจังหวัด และบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งการเข้าไปอยู่อาศัย หรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่ควบคุมมาตั้งแต่เช้าวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
ส่วนที่ จ.ลำปาง กลุ่มเครือข่ายคนลำปางรักชาติกว่า 300 คน ได้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส.ในกรุงเทพฯ ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ไม่ได้ ก็ได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณศาลากลางจังหวัดในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง สั่งการให้ชุดสืบสวนทุกสถานีตำรวจใน 13 อำเภอติดตามการชุมนุมของกลุ่มมวลชนในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำชับให้กองร้อยชุดควบคุมฝูงชนวางกำลังดูแลศาลากลางจังหวัดอย่างเข้มงวด
ส่วนที่ จ.พิจิตร มีการประกาศเชิญชวนประชาชนให้ออกไปรวมตัวกันในวันนี้ ที่บริเวณสนามหน้าตึก อบจ.พิจิตร เพื่อขับเคลื่อนแสดงพลังอารยะขัดขืนไม่เอารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พล.ต.ต.กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พิจิตร ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.กว่า 50 คน สลับสับเปลี่ยนตรวจตรายานพาหนะที่เข้าออกภายในศาลากลางอย่างเคร่งครัด
**“กปปส.สงขลา” นัดเคลื่อนตัววันนี้
ด้านบรรยากาศที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ โดยเริ่มมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านำอุปกรณ์เชิงสัญลักษณ์ ทั้งนกหวีด ที่คาดผม และคาดศีรษะลวดลายธงชาติไทยมาเตรียมวางจำหน่ายให้แก่กลุ่มมวลชนชาวสงขลา ทั้งประชาชน นักศึกษา และองค์กรต่างๆ ที่ตั้งขึ้นเป็น กปปส.สงขลา ได้นัดมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อเคลื่อนไหวใหญ่คู่ขนานไปกับ กปปส.ที่กรุงเทพฯ ในวันนี้
สำหรับในพื้นที่ จ.สงขลานั้น ในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ใน 2 จุดคือ ที่ศาลากลางจังหวัด อ.เมืองสงขลา และที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีการดาวกระจายไปชุมนุมตามสถานที่ราชการ เช่น สภ.หาดใหญ่ และที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
ขณะเดียวกัน ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ส่งกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย จำนวน 155 นาย เข้าประจำการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในศาลากลางจังหวัด ร่วมกับกำลัง อส.โดยประจำจุดบริเวณประตูเข้าออกทุกทาง รวมทั้งภายในตัวอาคารศาลากลาง นอกจากนี้ ยังจะมีการปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดทั้ง 2 เส้นทาง ที่คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้เป็นสถานที่รวมตัวเปิดเวทีปราศรัยแทนการบุกเข้าไปภายในศาลากลางจังหวัดด้วย
ที่ จ.ระนอง นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศยกเลิกเวทีคู่ขนานใน กทม.ทั้งหมด และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการเคลื่อนไหวร่วมกับ กปปส.
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า แม้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกเวทีไปแล้ว แต่วันนี้ทราบว่ายังมีมวลชนในพื้นที่พร้อมออกมาเคลื่อนไหวที่ศาลากลางจังหวัด จึงกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดของสถานที่ราชการ เพื่อความสงบเรียบร้อย และป้องกันบุคคลไม่หวังดีก่อความวุ่นวาย โดยได้ประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาประจำภายในศูนย์ราชการจังหวัด