นายกเล็กมุกดาหารก่อม็อบไล่ผู้ว่าฯ แค้นถูกไล่ออกฐานมีผลประโยชน์ในหน้าที่

มุกดาหาร - ผู้สนับสนุนนายกเล็กเมืองมุกดาหารกว่า 300 คนชุมนุมขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดออกนอกพื้นที่ใน 24 ชั่วโมง อ้างใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ ขณะที่รองผู้ว่าฯ แจงเหตุนายกเทศมนตรีแค้นผู้ว่าฯ ฐานเป็นผู้สั่งการไล่นายกเล็ก มีความผิดฐานมีส่วนได้เสียนำเอาบริษัทตนเองมารับงานเทศบาลฯ ขณะที่กลุ่มแดง นปช.กว่า 400 คนโร่ให้กำลังใจพ่อเมือง

วันนี้ (19 ส.ค.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) เมืองมุกดาหาร และชาวบ้านประมาณ 300 คน ภายใต้การสนับสนุนของนายพินิจ เจริญสุข นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร ชุมนุมขับไล่นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และยื่นแถลงการณ์ พร้อมแนบรายชื่อชาวบ้าน ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้ย้ายนายสกลสฤษฎ์ออกจากจังหวัดภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมปราศรัยโจมตี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร และอาสาสมัครรวมประมาณ 100 นายรักษาความสงบ

โดยหนังสือร้องเรียนและแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า นับตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันย้ายมาเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ได้ก่อความเสียหายแก่จังหวัดอย่างที่ไม่เคยมีผู้ว่าราชการจังหวัดคนใดทำมาก่อน ทั้งที่จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดชายแดน ซึ่งมีศักยภาพการพัฒนาเป็นเมืองตัวอย่างที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่กลับทำให้จังหวัดมีแต่ความไม่สงบ แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นกลุ่ม ไม่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เหมือนปณิธานของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย

ก้าวล่วงการทำงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้จังหวัดขาดโอกาสการพัฒนา เช่น โอนย้ายเปลี่ยนแปลงงบประมาณของกลุ่มจังหวัดที่อนุมัติงบประมาณในปี 2556 ให้แก่เทศบาลเมืองมุกดาหาร 25 ล้านบาทเพื่อพัฒนาตลาดอินโดจีน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด และงบประมาณสำหรับอุทยานวิทยาศาสตร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร 43 ล้านบาท ไปเป็นงบในการซื้อกล้ายางพารา และทำระบบกล้องทีวีวงจรปิด

การปฏิบัติราชการดังกล่าวทำให้จังหวัดเสียหาย ไม่พัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัด กลุ่มจังหวัด และสั่งปลดนายพินิจ เจริญสุข นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร พ้นจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2556 โดยไม่เป็นธรรม ใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญส่วนราชการอื่นให้ยอมตามที่ตนต้องการ เช่น สั่งให้โรงเรียนมุกดาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา ยกที่ดินอันเป็นที่ตั้งอาคารเทพรัตนคุรุปการ และพื้นที่ต่อเนื่องให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยไม่สอบถามเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน รวมทั้งสมาคมศิษย์เก่าผู้ปกครอง ครู และนักเรียนว่ายินยอมหรือไม่ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารออกจากจังหวัดภายใน 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้มารับหนังสือ พร้อมชี้แจงให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะประเด็นที่ดินที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานียังไม่มีการโอนเกิดขึ้นเนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนการสั่งปลดนายพินิจ เจริญสุข ออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี เป็นไปตามกฎหมาย และอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด หากไม่ลงนามสั่งปลดจะมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารต่อคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ว่าเป็นคู่สัญญาจ้างเหมางานจากงบประมาณของเทศบาลเมืองมุกดาหาร กับ หจก.ทรัพย์ธาราก่อสร้าง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือญาติ ด้วยสัญญาจ้าง 10 สัญญา เป็นเงิน 9 ล้านบาทเศษ โดยแยกเป็นงบประมาณปี 2555 จำนวน 2 สัญญาเป็นเงิน 1.1 ล้านบาท และงบประมาณปี 2556 จำนวน 8 สัญญา เป็นเงิน 8.4 ล้านบาทเศษ

ซึ่งต่อมาคณะกรรมาธิการแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร พร้อมมอบหมายให้จังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว กระทั่งวันที่ 7 มีนาคม 2556 คณะกรรมาธิการมีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมาธิการ คือ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารกระทำผิดกรณีเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ หจก.ทรัพย์ธาราก่อสร้าง ที่ตนเป็นผู้ก่อตั้ง แม้ว่าลาออกจากการเป็นหุ้นส่วน แต่ยังมีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ และบริหารงานรับจ้างเหมากับเทศบาลฯ ในนามของบุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48(1) (2) และ (3) ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี

นายสรสิทธิ์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สอบสวนและวินิจฉัย ย่อมมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หลังจากได้หาทางออกด้วยความรอบคอบ และหารือไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งประสานงานให้นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารพิจารณาตนเองโดยการลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารได้แสดงเจตนาต่อทางจังหวัดที่จะลาออกตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2556 แต่ต่อมาได้ขอเลื่อนเวลาขอลาออกไปอีก ทำให้จังหวัดไม่สามารถยืดเวลาการพิจารณาเรื่องนี้ได้

ทั้งนี้ เวลา 15.30 น. ได้มีกลุ่ม นปช.มุกดาหาร หรือกลุ่มคนเสื้อแดงมุกดาหาร ประมาณ 400 คน นำโดยนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร เขต 1 นายบุญฐิน ปทุมลี ส.ส.มุกดาหาร เขต 2 นายกิตติทัช กิตติวุฒิภัทร ประธาน นปช.มุกดาหาร นำกลุ่ม นปช.มุกดาหารทั้ง 7 อำเภอชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ยื่นหนังสือและมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

นายกิตติทัชกล่าวว่า ได้ติดตามข่าวมาโดยตลอด และทราบข้อเท็จจริงว่านายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหารกระทำผิดจริง กรณีที่เป็นคู่สัญญาจ้างเหมางานเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยเปลี่ยนชื่อเป็นนายอาทิตย์ ทาทอง คนขับรถ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ มาเป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมืองมุกดาหารแทน