“ทนายสุวัตร” ยืนยัน ผู้ช่วยทนายความในสำนักกฎหมายเข้าเยี่ยม “บอล” วันที่ 26 ก.ค.ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จริง เผย “บอล” เปิดปากให้ช่วยเหลือหลังครอบครัวลำบากหนัก แฉเคยทำงานกับคนสนิท “ทักษิณ” ที่ส่งมาสอดแนมจับตาความเคลื่อนไหว “เอกยุทธ” ก่อนให้ทีมฆ่าลงมือสังหารโหด ชี้หากรับปากช่วยจะบอกที่ซ่อนฮาร์ดดิสก์พยานหลักฐานสำคัญในคดี โดยทนายคนดังระบุไม่ได้เชื่อลมปากทั้งหมด แต่ถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการสืบสวน!
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ แถลงข่าว
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ที่บริษัท กฎหมายอรุณอมรินทร์ จำกัด นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร พร้อมด้วย น.ส.อัจฉรา แสงขาว หนึ่งในทีมทนายของนายสุวัตร ได้นำเอกสารเกี่ยวกับทางบริษัทที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล เคยทำงานมาก่อนหน้านี้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและเสนอประเด็นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนพยานเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.ได้ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีที่ให้พนักงานสอบสวนเข้าไปภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบปากคำนายสันติภาพ โดยได้มีการตอบเป็นข้อๆ ซึ่งนายบอลอ้างว่าไม่เคยมีผู้แทนของนายสุวัตรมาพบหรือพูดคุยกับนายบอลแต่อย่างใด และอ้างว่าไม่เคยพูดว่ามีคนจ้างให้ฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ในค่าหัว 3 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวที่นำเสนอไป โดยมีการนำคำให้การที่อ้างว่านายบอลได้ให้การไว้มาแสดงต่อสื่อมวลชนนั้น
นายสุวัตรกล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา นายสันติภาพได้ให้คนติดต่อมาหาตนเพื่อที่จะบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการตายของนายเอกยุทธ ซึ่งต่อมาตนได้ส่งตัวแทนของตนซึ่งเป็นหนึ่งในทีมทนายความของตน คือ น.ส.อัจฉรา แสงขาว ให้เข้าพบกับนายสันติภาพและเป็นตัวแทนในการสอบปากคำนายสันติภาพ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้พบนายบอลเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ต่อมานายสันติภาพได้เล่าว่าจะเล่าความจริงให้พี่อัจฉราฟังทุกอย่าง และอยากให้พี่บอกให้ทนายสุวัตรช่วยตนและครอบครัวด้วย อยากจะให้ตรวจสอบว่าข้อมูลที่จะเล่าต่อไปนี้คือความจริงหรือไม่
น.ส.อัจฉรากล่าวว่า ตนได้สอบถามนายบอลว่าไม่กลัวอันตรายหรือ หากเล่าให้ฟัง ซึ่งในขณะที่กำลังสนทนากันอยู่เกรงว่าอาจจะถูกดักฟังอยู่หรือไม่ นายบอลตอบว่าไม่กลัว เพราะตอนนี้ทางครอบครัวของกำลังลำบากและเขาได้เบี้ยวค่าจ้างวานฆ่า 3 ล้านบาท ตนได้รับมาเพียงแค่หลักแสนเพียงเท่านั้น หากทนายสุวัตรรับปากที่จะช่วยดูแลครอบครัวของตน ต่อมานายบอลจึงเล่าว่าเคยทำงานที่บริษัท ทีซีเอ็ม โดยเป็นคนขับรถให้บริษัทมาก่อนหน้าที่จะเข้ามาขับรถให้กับนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ซึ่งขณะนั้นบริษัท ทีซีเอ็ม ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ทรีวิว จำกัด ซึ่งตนได้บอกให้พี่อัจฉราตรวจสอบที่อยู่ของบริษัทดังกล่าว โดยที่นายบอลบอกว่าบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอโศก และเลี้ยวขวาไปทางคลองเตย อยู่ประมาณชั้น 22 หรือ 23 ซึ่งตนจำได้แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในตึกซีทีไอ ทาวเวอร์
ทั้งนี้ เจ้านายเก่าของนายบอลเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้ ชื่อ นายสมชาย จิตปรีดากร และมีภรรยาชื่อเล่นว่าเกียว ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านชิชา พระราม 2 และยังมีคอนโดมิเนียม เดอะเลค ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมเดียวกันกับที่นายเอกยุทธอยู่ ต่อมานายบอลอ้างว่านายสมชายเป็นลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายบอลและนายสมชายได้เข้าออกพรรคเพื่อไทยเป็นประจำ ต่อมาเมื่อนายบอลลาออกและมาอยู่กับนายเอกยุทธ เมื่อนายสมชายทราบเรื่องจึงได้ติดต่อมายังนายบอลว่าสนใจรับงานหรือไม่ หลังจากนั้นได้ให้นายบอลติดต่อกับทีมอุ้มซึ่งเป็นคนมีสี โดยก่อนหน้านี้เคยตกลงวางแผนกันมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่สบโอกาส กระทั่งในวันที่เกิดเหตุเมื่อนายเอกยุทธลืมปืนไว้ในรถ นายบอลจึงตัดสินใจประสานทีมอุ้มเพื่อลงมือกระทำการ สำหรับนายบอลและนายเบิ้มนั้น เป็นเพียงตัวละครซึ่งมีทีมอุ้มฆ่าอีกทีมมารับช่วงต่อ โดยก่อนหน้าที่เกิดเหตุคนที่ว่าจ้างได้ไปพบนายเอกยุทธก่อนและได้มีการพูดคุยกัน จากนั้นทีมอุ้มฆ่าจึงลงมือ
น.ส.อัจฉรากล่าวอีกว่า นายบอลระบุว่า “พี่ลองคิดดูว่าผมจะนำศพนายเอกยุทธลงไปที่พัทลุงได้อย่างไร โดยที่ไม่เจอด่านตำรวจ เพราะปกติผมจะขับรถชิดขวาตลอด และเมื่อพบด่านตำรวจกลับปล่อยรถผมผ่านไป และในการทำงานในครั้งนี้ ผมมีเบอร์พิเศษในการทำงาน สำหรับเรื่องฮาร์ดดิสก์ ผมไม่ได้ทุบทำลายตามที่เคยให้การกับตำรวจไว้ แต่ผมนำไปฝังดิน เนื่องจากฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถทำลายได้ง่าย ดังนั้นหลักฐานทุกอย่างยังคงอยู่ และสามารถสาวไปยังผู้บงการเรื่องนี้ได้”
จากการตรวจสอบบริษัทที่นายบอลอ้างถึง และนายสมชาย มีตัวตนจริงหรือไม่นั้น ทางทนายได้คัดหนังสือรับรองของทางบริษัท ทรีวิว จำกัด พบว่ามีอยู่จริงตามที่นายบอลกล่าวอ้าง โดยบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณชั้น 22 ตึกซีทีไอ ทาวเวอร์ ซึ่งมีนายสมชายเคยเป็นกรรมการบริษัท และคอนโดฯ เดอะเลค ก็ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันที่นายบอลระบุไว้ เช่นเดียวกัน
นายสุวัตรกล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริงตามที่นายบอลเล่ามาข้างต้นนั้น ตนยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ แต่หากเป็นข้อมูลที่ถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ดังนั้น ตนขอความกรุณาทีมพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนนายบอลใน 5 ประเด็นดังต่อไปนี้ 1. นายบอล เคยทำงานอยูที่บริษัท ทีซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด จริงหรือไม่ 2. นายสมชายมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย 3. นายบอล และนายสมชาย เคยไปที่ทำการพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อย่างไร 4. ฮาร์ดดิสก์ฝังอยู่ที่ไหน เนื่องจากฮาร์ดดิสก์เป็นหลักฐานที่จะนำไปสู่การหาทีมที่อุ้มฆ่าตัวจริง และขอให้พนักงานสอบสวนทำการค้นหาฮาร์ดดิสก์ดังกล่าวมาให้ได้ และ 5. ที่นายบอลอ้างว่ามีรถนำศพนายเอกยุทธไปยัง จ.พัทลุง 3 ช่วง เพื่อเป็นใบเบิกทาง มีอยู่จริงหรือไม่ และเป็นรถของใคร ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ตนจะส่งสำเนาเอกสารที่กล่าวมาไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันพิสูจน์คดีนี้ต่อไป
อ่านคำต่อคำ การแถลงข่าวของ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร พร้อมด้วย น.ส.อัจฉรา แสงขาว หนึ่งในทีมทนายของนายสุวัตร :
นายสุวัตร : ตอนเช้าไปว่าความที่ศาลเยาวชนปราณบุรีมา แล้วก็แวะว่าความที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี แล้วก็รีบตีรถกลับมา แต่ว่าประเด็นที่ต้องแถลงด่วนนะฮะ ความจริงไม่อยากจะแถลงอะไรแล้ว เพราะว่าตั้งใจว่าจะเลิกทำคดีนี้โดยสิ้นเชิง แต่เผอิญเมื่อวานนี้ท่าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ท่านมาให้ข่าวออกทำนองว่า ผม มิได้ส่งทีมทนายความไปพบนายบอล หรือสันติภาพ เพ็งด้วงจริง ซึ่งก็เท่ากับผมเป็นคนโกหก ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่ต้องแถลง
แต่การแถลงครั้งนี้ กราบเรียนว่าไม่ได้หวังที่จะ Against หรือต่อต้านกับพนักงานสอบสวน เพราะเรายังคงแสวงหาความร่วมมือจากเขา ซึ่งเราก็ร่วมมือกันด้วยดีมาตั้งแต่ต้น อย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ท่านอนุชัยกับผมก็ร่วมมือกันจนสามารถได้ศพของนายเอกยุทธมานะครับ เราก็ยังแสวงหาความร่วมมือกันต่อไป แต่ประเด็นที่ท่านอนุชัยออกมาให้สัมภาษณ์เนี่ย มีบางส่วนทำให้ผมเสียหาย ก็จำเป็นต้องชี้แจง เป็นการชี้แจงไม่ได้ตอบโต้อะไร
ผมไม่เชื่อคำให้การของนายบอลมาตั้งแต่ต้นแล้ว และก็ต่อมาก็มีโอกาส คือ นายบอลให้ญาติของผู้ต้องหามาหาผมที่สำนักงานนี้ บอกว่ามีเรื่องสำคัญเป็นเบาะแส ที่จะนำไปสู่ผู้บงการในการฆ่านี้ให้ผมไปพบ แต่ผมเนี่ยไม่กล้าไป ด้วยเหตุผลที่ว่าผมเป็นทนายของเอกยุทธ แล้วไปพบนายบอล ซึ่งอยู่ตรงข้าม มันก็จะเป็นการไม่ดีไม่งาม ก็เลยตัดสินใจส่งคุณอัจฉรา แสงขาว ซึ่งเป็นทนายความผู้ช่วยผมและเป็นคนพัทลุง เป็นคนที่รู้จักกับนายบอลเป็นอย่างดี และคนนี้เป็นคนทำให้นายบอลเปิดปากรับสารภาพ ในวันแรกที่มีการแถลงที่ บช.น. คุณอัจฉราเป็นคนสอบปากคำ และไล่มาเรื่อย ก็ตัดสินใจให้คุณอัจฉราไปถามดูว่า มันเกิดอะไรขึ้น นายบอลมีอะไรจะเล่า นายบอลก็เล่าทั้งหมดเลย
เนื่องจากสภาพศพขณะนี้ ที่บอกว่านายบอลบีบคอ ถ้าบีบคอมันต้องมีรอยบีบ มันขัดกับสภาพทางนิติวิทยาของสำนักงานตำรวจซึ่งเป็นคนผ่าพิสูจน์ศพเอง เพราะว่าบาดแผลเนี่ยทั้งหมดมีอยู่ 8 แห่ง มีที่จมูก มีที่คอ มีที่ไหล่ มีที่หลัง ซึ่งตำรวจนิติเวชมีความเชื่อว่าลักษณะของการฆ่านี่คือ ล็อกคอแล้วเอามือบีบจมูก อุดปาก เพราะว่ามันสามารถหายใจได้ทั้งปากทั้งจมูก การทำอย่างนี้เป็นท่าพิเศษ มันถึงเกิดบาดแผลเช่นนั้น แต่บอลบอกว่าบีบกันอย่างนี้ (แสดงท่าให้ดู) บีบอย่างนี้ผมไม่เชื่อตั้งแต่ต้นแล้วว่าตัวต่อตัวจะฆ่ากันได้ เพราะว่าก่อนตายต้องดิ้นสุดฤทธิ์ ทั้งมือทั้งตีน มันต้องสู้กันเต็มที่นะฮะ ก็เลยตัดสินใจส่งคุณอัจฉราเนี่ยไปพบกับนายบอล เดี๋ยวผมจะให้คุณอัจฉราเป็นคนชี้แจงเองว่า คุณอัจฉราเดินทางไปอย่างไร เมื่อไหร่ เพราะการที่ท่านอนุชัยบอกว่าไปสอบนายบอล แล้วเชื่อว่าผมหรือทีมทนายไม่ได้ส่งใครไปจริง คุณไปถามนายบอลอย่างเดียวได้ยังไง เพราะหลักฐานเวลาคุณไปเยี่ยมนักโทษในคุก ต้องแสดงบัตรทนาย ต้องมีการขออนุญาต ต้องมีลายเซ็น ต้องได้รับอนุญาต จึงจะพบกันได้ แล้วพบเนี่ย พบอยู่ต่อหน้าผู้คุม มีกล้องทีวีวงจรปิด เรายืนยันว่าเราไปแน่นอน ต่อไปนี้ ผมจะให้คุณอัจฉราเป็นคนชี้แจง แล้วเดี๋ยวจะมีเอกสารประกอบคำชี้แจงให้ทั้งหมด ให้ทุกท่านเลย เวลาไปเขียนข่าวจะได้เห็นเอกสารด้วยว่าที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไร เชิญคุณอัจฉราครับ
น.ส.อัจฉรา : เมื่อประมาณวันที่ 16 ก.ค. 2556 เวลาประมาณบ่ายโมง ดิฉันเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยไปยื่นเรื่องขอเข้าพบนายสันติภาพ เพ็งด้วง ซึ่งในการยื่นก็ต้องกรอกเอกสารว่าจะมาพบใคร แล้วก็เอาไปให้ผู้คุมอีกท่านนึงอนุมัติ ซึ่งห้องที่อนุมัติก็คือห้องที่มีประตูเหล็กสีชมพู เมื่อเขาอนุมัติแล้วดิฉันจึงต้องเอาเดินกลับมาที่ห้องที่สามารถเข้าพบผู้ต้องหาได้ ก็คือเข้าพบในฐานะทนาย และรออยู่ประมาณชั่วโมงกว่า จนผู้คุมอีกท่านนึงเห็นดิฉันว่าทำไมดิฉันนั่งรอนาน เขาเลยบอกว่า อย่างนั้นนั่งรออีกสักหน่อยนะเพราะว่านายสันติภาพ เพ็งด้วงเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญการที่จะเดินมา ต้องมีผู้คุมเดินมาด้วย เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย ดิฉันก็นั่งรออยู่จนสักประมาณเวลา 14.10 น. นายบอลก็เดินออกมา
หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกัน พอพูดคุยนายบอลเขาก็เล่าบอกมาบอกว่า “ผมจะเล่าความจริงให้พี่ปุยฟังทุกอย่าง” พี่ปุยก็คือชื่อเล่นของดิฉัน ที่นายบอล ซึ่งก่อนหน้านี้นายบอลก็เป็นลูกความที่เคยมาที่ออฟฟิศอยู่ก่อนแล้ว และเนื่องจากว่าดิฉันก็เป็นคนพัทลุง นายบอลก็เป็นคนพัทลุง ก็เวลาพูดกันก็พูดเป็นภาษาใต้ และมาที่นี่ก็มีการทักทายกันมาก่อน ดังนั้นเมื่อเวลาไปที่ บช.น. เวลาดิฉันคุยกับนายบอล ดิฉันก็คุยเป็นภาษาใต้ แล้ววันที่นายบอลแถลงข่าวหลังจากนั้นคุณสุวัตรก็ไปที่ บช.น. ดิฉันก็ตามไปที่ บช.น.ด้วย และได้พูดคุยกับนายบอล พอได้พูดคุยกับนายบอล ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาให้การปฏิเสธบอกว่านายเอกยุทธ อัญชันบุตรเนี่ยอุ้มตัวเอง แต่พอพูดคุยกันไปสักพักนึง คุณสุวัตรก็ซักว่ามันไม่เป็นความจริง เขาก็เลยขอพูดคุยกับดิฉันเป็นการส่วนตัว โดยมีตำรวจอีกท่านนึงซึ่งเป็นคนใต้เหมือนกัน ก็เข้าไปเกลี้ยกล่อมนายบอล จนได้เป็นที่มาว่า จนรู้ว่าคุณเอกยุทธกลายเป็นศพ แต่เขาบอกว่าวิธีการเขายังไม่บอกว่าเป็นยังไง แต่ “ผมบอกว่าคุณเอกยุทธเนี่ยเป็นศพแล้ว” ดิฉันก็เลยบอกว่า บอลต้องเล่าความจริงให้พี่ฟังนะ ถ้าบอลไม่เล่าความจริงให้พี่ฟัง พี่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรบอลได้ เขาก็ร้องไห้ แล้วเขาก็บอกว่า “พี่ปุยต้องช่วยผมนะ” แล้วดิฉันก็เลยหันไปจับมือเขา เพราะไม่รู้ว่าเขามีปฏิกิริยาที่จะให้เราช่วยจริงหรือเปล่า ก็ไปจับมือเขา ก็ปรากฏว่าเหงื่อที่มือเขาทั้งสองฝ่ามือมีเหงื่อเต็มไปหมด ก็แสดงว่าเขากลัวจริงๆ เขาต้องการให้เราช่วย ดิฉันก็เลยบอกว่าพี่เป็นทนายของคุณเอกยุทธ เป็นทนายอีกฝ่ายนึง สิ่งที่พี่จะช่วยบอลได้ก็คือ ให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย ก็คือบอลต้องพูดความจริงออกมา เขาก็บอกว่า “ถ้าไปที่พัทลุงเนี่ย ผมจะพาไปหาศพ ผมบอกได้ตอนนี้” ก็คือตอนนั้นเวลามันเร่งรีบ และต้องหาศพให้เจอ ก็เป็นอันว่าไป
ขอย้อนกลับมาที่เรือนจำนะคะ พอหลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกัน เขาบอกว่า “ผมจะเล่าความจริงให้พี่ปุยฟังทุกอย่าง และขอให้ทนายสุวัตรเนี่ยช่วยผมด้วย ซึ่งพี่สามารถตรวจสอบได้ว่า ข้อมูลสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่” ดิฉันก็เลยถามว่าทำไมบอลต้องมาเล่าให้พี่ฟัง เขาก็บอกว่า “ตอนนี้ผมลำบาก ครอบครัวผมก็ลำบาก พ่อแม่ผมก็ลำบาก เพราะว่าตอนนี้เขาหักหลังผม เขาจ้างผม 3 ล้าน ผมได้เงินค่าจ้างขั้นต้นเพียงแค่หลักแสน แต่ตอนนี้ผมอยู่ในนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย และผมก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดมากับผมเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะพูดนี้พี่ปุยอาจจะไม่เชื่อ เขาก็เลยบอกดิฉันว่าต้องไปตรวจสอบก่อน” ดิฉันก็บอกว่า “บอลไม่กลัวอันตรายเหรอ ในขณะที่เราพูดกันเราอาจจะถูกดักฟังก็ได้” เขาก็บอกว่า “เขาไม่กลัว ไม่เป็นไร เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว อย่างมากก็แค่ติดคุก”
พอหลังจากนั้นเขาบอกว่า “ผมเคยทำงานอยู่ที่บริษัท ทีซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด (นายสุวัตร – เดี๋ยวเอกสารทั้งหมดแล้วจะแจกให้นะครับ) อยู่แถวสี่แยกอโศก เลี้ยวขวาไปทางคลองเตย ซึ่งในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัททรีวิวฯ มีนายสมชายเป็นเจ้าของ ซึ่งเขาบอกว่านายสมชายมีคอนโดฯ เดอะเลค อยู่ที่เดียวกับนายเอกยุทธ อัญชันบุตร และนายสมชายนี้เป็นลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมชายมีบ้านอยู่ที่ชิชา พระราม 2 และมีบ้านอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และมีภรรยาชื่อเล่น ชื่อว่าเกียว เขาก็บอกว่า เขาเคยทำงานกับนายสมชายมาก่อน หลังจากนั้นก็ลาออกจากบริษัทของนายสมชาย ก็มาทำงานกับนายเอกยุทธ นายบอลบอกว่าไม่ได้ถูกใครส่งมา แต่เหตุที่เขาออกมาเนี่ยเขาออกมาเอง หลังจากนั้นนายสมชายรู้จึงติดต่อมา และก็มีการติดต่อทีมอุ้มกัน
แล้วเขาก็บอกว่า นายสมชายคนนี้เข้าออกพรรคเพื่อไทยเป็นประจำ คือ ตอนนั้นดิฉันก็พยายามจะถามว่า นายสมชายนามสกุลอะไร เขาบอกว่า “จำนามสกุลไม่ได้ แต่บริษัทนี้ตั้งอยู่ประมาณชั้น 22 หรือ 23” เขาบอกว่า “พี่ไปตรวจเช็กดู” ดิฉันก็เลยอะ... แล้วเขาก็เล่าต่อบอกว่า ก่อนหน้านี้มีการวางแผนกัน แต่มันไม่สบโอกาส ก่อนหน้านี้มีการติดต่อทีมอุ้ม 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็มาสบโอกาสวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากนายเอกยุทธลืมปืนไว้ในรถ ทุกคนทั้งนายเบิ้ม นายชวลิต นายทิวากร ล้วนเป็นตัวละครที่มาที่หลังทั้งนั้น ทีมที่ทำจริงๆ ก็คือทีมอุ้ม แล้วเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ฆ่า นายเบิ้มก็ไม่ได้ฆ่า แต่ทีมฆ่าก็คือทีมอุ้ม
แล้วเขาก็บอกว่า “พี่ปุยลองคิดดูนะ ผมจะเอาศพไปถึงพัทลุงได้ยังไง ก็ในเมื่อทางไปใต้มันมีด่านตลอด เขาแบ่งการนำเป็น 3 ช่วงโดยมีรถนำ เป็นช่วง เป็นคัน เป็นคัน ไปจนถึงพัทลุง” แล้วส่วนใหญ่รถที่เขาขับเนี่ยจะขับชิดขวาตลอด เขาก็บอกปุยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นพี่ปุยคิดดู ขนาดรถที่มาทางฝั่งซ้ายตำรวจยังโบกให้จอด แต่รถผมวิ่งขวา ตำรวจโบกให้ไป” ก็มีการอำนวยทางกันจนถึงพัทลุงอะค่ะ แล้วหลังจากนั้นเขาบอกว่า การทำงานครั้งนี่มีเบอร์พิเศษ แล้วก็มีการเตรียมอุปกรณ์มาให้ เขาบอกว่า ถ้าเกิดว่าคุณสุวัตรยินดีที่จะช่วยเขา ดูแลพ่อแม่เขา เขาก็จะบอกว่าฮาร์ดดิสก์อยู่ที่ไหน สามารถหากล้องวงจรปิดได้จากที่ไหน แล้วเขาก็บอกว่าฮาร์ดดิสก์เนี่ย ไม่ได้ถูกทุบทำลายเหมือนที่เขาให้การไว้กับตำรวจ ซึ่งฮาร์ดดิสก์มันเป็นแผ่นบางๆ เขาบอก “พี่ปุยลองไปถอดดูนะ มันไม่สามารถทุบให้แหลกละเอียดแล้วก็โปรยไปตามทางได้ แต่ฮาร์ดดิสก์ยังอยู่ ยังฝังดินอยู่ อยู่ที่ว่ารับปากจะช่วยผมมั้ย”
นักข่าว : เขาได้บอกไหมฮะ?
นายสุวัตร : ถ้าหากว่าเรารับปากจะช่วย ... เหมือนกับว่าเขาเริ่มต่อรอง ถ้าเรารับปากจะช่วย เขาจะบอกหมด นะฮะ ผมเองเนี่ย ผมกับคุณอัจฉรายืนยันเลยนะฮะ ผมไม่เชื่อนายบอล เพราะว่าอย่างที่ผมเคยแถลงไว้ ว่าลิ้นไม่มีกระดูก มันพูดไปเรื่อย ตอนแรกก็บอกว่าปืนยิงหัว ต่อมาก็บีบคอ ต่อมาก็มาพูดอย่างนี้ เมื่อไม่เชื่อ ทนายความก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ขอคัดเอกสารต่างๆ
น.ส.อัจฉรา : แล้วดิฉันก็บอกเขาบอกว่า บอล พี่ไม่รู้ว่าจะช่วยบอลได้แค่ไหนนะ เพราะว่าในขณะนี้เราจะเดินหน้าก็ลำบาก เพราะเราเป็นทนาย ในเมื่อญาติเขาไม่รู้ว่าจะต้องการให้เราเดินหน้าหรือเปล่า แต่พี่ก็จะรับฟัง จะประสานให้ ว่าเขาต้องการที่จะสาวให้ถึงคนบงการไหม ก็นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เรื่องก็เงียบอ่ะค่ะ
นายสุวัตร : เราก็ติดต่อไปทางญาติเขา
นักข่าว : แล้วเราเชื่อเขาได้แค่ไหน?
น.ส.อัจฉรา : ในขั้นต้นดิฉันก็ไม่ปักใจเชื่อเขาอะค่ะ ดิฉันถึงตรวจสอบ ดิฉันพอหลังจากออกจากเรือนจำสักประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง เพราะว่าประมาณบ่ายสามโมง นักโทษจะต้องเข้าเรือนนอน เข้าเรือนนอน อาบน้ำและทำกิจกรรม ดิฉันก็ออกมาประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง พอออกมาดิฉันก็ให้เด็กที่ออฟฟิศวิ่งไปคัดหนังสือที่หน้าปากซอยว่า บริษัททรีวิว มีตัวตนอยู่จริงไหม?
นักข่าว : แล้วนายสมชายมีตัวตนอยู่จริงไหม?
น.ส.อัจฉรา : มีตัวตนอยู่จริงค่ะ หลังจากที่วันที่ 26 กรกฎาคม จะเห็นหนังสือรับรองนะคะ ว่าลงวันที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งพอดิฉันออกจากเรือนจำเนี่ย ดิฉันก็ให้ทางบริษัทเช็กทันทีว่าบริษัททรีวิวนี้มีตัวตนอยู่จริงไหม ก็ปรากฏว่า ตอนแรกก็เป็นชื่อของนายสมพูน จิตปรีดากร มันก็ไม่ใช่คุณสมชายอีก ดิฉันก็สงสัย ก็เคยคัด ก็เลยเช็กต่อไปว่า (นายสุวัตร – แผ่นต่อไปนะฮะ) ก็จะมีสำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น และหลังจากนั้นก็มาเช็กว่า บริษัททีซีเอ็มที่นายบอลอ้างถึงเนี่ย ตามเอกสารแนบ 2 ตั้งอยู่ที่ อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 22 ตามที่นายบอลอ้าง แต่ว่ามีกรรมการคือ คุณนุชรี น้อยพารา ดิฉันก็ยังไม่เห็นชื่อคุณสมชาย ตามที่นายบอลอ้างอีก ดิฉันก็เลยเช็กต่อไป เอกสารแผ่นต่อมา คือ คอนโดฯ เดอะเลค ซึ่งจะอยู่ตรงสี่แยกอโศกแล้วเลี้ยวขวามา (ชี้ที่ภาพ) ด้านล่างจะเป็นชื่อคอนโดฯ อยู่
นายสุวัตร : ซึ่งคุณเอกยุทธก็มีห้องอยู่ที่นั่นด้วย นายสมชายก็มีด้วย
น.ส.อัจฉรา : ซึ่งเรามาทราบภายหลังว่าคุณเอกยุทธมีอยู่ ก่อนหน้านั้นก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ ซึ่งต่อมาดิฉันก็เช็กต่อว่า บริษัททรีวิว จำกัดเนี่ย 191/40 ก็เป็นที่ตั้งเดียวกันกับบริษัททีซีเอ็ม เป็นที่ตั้งเดียวกัน แสดงว่าที่นายบอลบอกว่า ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นบริษัททรีวิวก็เป็นความจริง หลังจากนั้นก็เช็กต่อไป คือว่า ทีซีเอ็ม โฮลดิ้ง ก่อนหน้านั้นมีนายสมชาย นามสกุลจิตปรีดากร เป็นกรรมการบริษัทตามเอกสารหมายเลข 5 ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 22 เหมือนกันนะคะ แต่เลขที่มันจะติดกันคือ 191/39 และต่อมาความเกี่ยวพันก็คือ แผ่นสุดท้าย บริษัททรีวิวก็จะเห็นว่า ผู้แทนคนที่ 1 นายสมพูน จิตปรีดากร ผู้แทนคนที่ 2 นายสมชาย จิตปรีดากร ก็เลยมาตรงข้อสรุปที่นายบอลได้ให้ตรวจสอบว่านายสมชายมีตัวตนอยู่จริงไหม บริษัทมีตัวตนอยู่จริงไหม ทั้งสองบริษัท ก็ปรากฏว่าตรงตามที่นายบอลได้ให้การไว้ค่ะ
นายสุวัตร : ด้วยเหตุนี้ ผมก็เลยทำเอกสารฉบับนี้ที่แจก เป็นหนังสือร้องเรียน ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทีมของผมได้ไปพบนายบอลจริง และเสนอประเด็นให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ประเด็นที่หนึ่ง นายบอล หรือ สันติภาพ เพ็งด้วงเนี่ย เคยทำงานอยู่ทีซีเอ็ม โฮลดิ้ง จริงหรือไม่ เป็นลูกน้องนายสมชายไหม (ประเด็นที่สอง) นายสมชาย จิตปรีดากร เกี่ยวข้องอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย นายบอลและนายสมชายเคยไปที่ทำการพรรคเพื่อไทยไหม? ประเด็นที่สาม ประเด็นที่ 4 ฮาร์ดดิสก์ฝังอยู่ใต้ดินอยู่ที่ไหน เพราะฮาร์ดดิสก์นั้นจะนำไปสู่ทีมฆ่าตัวจริง ขอให้พนักงานสอบสวนไปทำการค้นหามาให้ได้ เพราะผมไม่เชื่อตั้งแต่ต้นว่า ทุบหมดแล้วโปรยไป และประเด็นที่ห้า ที่อ้างว่ามีรถนำนายบอลไป นำศพเอกยุทธไปพัทลุง 3 ช่วง เพื่อเป็นใบเบิกทางเนี่ย มีอยู่จริงหรือไม่ และเป็นรถของใคร ทั้งนี้ถ้าหากได้สอบประเด็นอย่างนี้อีก 5 ประเด็นจะทำให้ความขัดแย้งในคดีนี้ เพราะขณะนี้เกิดความขัดแย้งระหว่างสภาพศพกับคำรับสารภาพ มันขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งถ้าปล่อยไปอย่างนี้ยกฟ้องแน่ เพื่อให้เขาสอบตรงนี้ ถ้าสอบได้อย่างนี้ข้อเท็จจริงจะชัดขึ้นมา ใช่หรือไม่ใช่เราไม่รู้ ถ้าใช่ ชัด และเกิดความเป็นธรรมในสังคม และเป็นธรรมกับผู้ตาย และเป็นธรรมกับจำเลย ถ้านายบอลอ้างว่าไม่ได้ทำ ใครทำ? และใครอยู่เบื้องหลัง?