ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บิ๊กเอก” รอง ผบ.ตร.เผยคดียิงเอ็ม 79 ถล่มบ้านปลัด สธ.คืบ คาดใช้รถยนต์ก่อเหตุ โดยประทับยิงจากในรถ ลงมืออย่างน้อย 2 คน ปมเหตุมุ่งปัญหาการเมือง พร้อมคุมเข้มบ้านพักบุคคลสำคัญ สั่งเตรียมกำลังพลพร้อมวันศาล รธน.พิจารณาคดี “ปู” ป้องกันเหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ปป.1) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมกำลังพลกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และการปรับปรุงโรงพัก สภ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมทั้งตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ถึงความคืบหน้าคดียิงเอ็ม 79 ใส่บริเวณบ้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ว่าช่วงแรกเป็นการรวบรวมวัตถุพยาน ตรวจวิถีกระสุน ซึ่งสามารถพิสูจน์ทราบได้เบื้องต้นว่า ลักษณะของการยิงเอ็ม 79 เข้ามาในแนวราบ จุดที่ยิงห่างไป 45-50 เมตร จากถนนข้างบ้านปลัดกระทรวง
นอกจากนั้น กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องทีวีวงจรปิด โดยย้ำให้ทุกพื้นที่ได้ทำแผนที่ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดในจุดเสี่ยง ซึ่งยังรอว่าจะตรวจสอบพบหรือไม่อย่างไร
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า เบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่าใช้ยานพาหนะ ซึ่งจะเป็นรถยนต์ ไม่ใช่รถจักรยานยนต์ เพราะในหลายกรณีที่ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุลักษณะของการใช้เอ็ม 79 ยิงสามารถประทับยิงจากในยานพาหนะได้ และคนร้ายคงจะมี 2 คนขึ้นไป ส่วนสาเหตุมุ่งไปที่เรื่องปัญหาทางการเมืองเป็นหลัก ซึ่งต้องให้เวลาตำรวจตรวจสอบวัตถุพยาน และสืบสวนสอบสวน
ส่วนที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า จะเหมือนคดีปา และยิงระเบิดบ้านก่อนหน้านี้ที่จับคนร้ายไม่ได้หรือไม่นั้น ต้องเรียนว่าเมื่อเกิดเหตุตำรวจต้องไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐาน บางกรณีต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะสาเหตุ หรือกลุ่มบุคคลต้องสงสัยต้องมีพยานหลักฐานยืนยัน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็เร่งรัดให้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ทุกคดี
เมื่อถามว่า ผบ.ตร.กำชับเรื่องการดูแลบ้านบุคคลสำคัญ และความปลอดภัยของประชาชนอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.เอก ตอบว่า ตั้งแต่มีเหตุชุมนุม ผบ.ตร.ได้วิทยุ และหนังสือสั่งการให้หัวหน้าสถานีตำรวจที่เห็นว่าเป็นที่ตั้งศาล องค์กรอิสระ หรือบ้านพักของผู้พิพากษา กรรมการองค์กรอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเสี่ยง ให้สำรวจ และวางมาตรการป้องกันให้มากที่สุด แต่การมาก่อเหตุคนร้ายคงสำรวจตรวจสอบก่อน จึงอาจมีหลงหูหลงตาไปบ้าง แต่จริงๆ แล้วมีจุดสกัด ด่านตรวจบริเวณจุดเสี่ยงที่สำคัญไว้หมดแล้ว
รวมทั้งในส่วนภูมิภาคก็ให้อำนาจผู้บัญชาการ หรือผู้บังคับการใช้ดุลพินิจในการบริหารเหตุการณ์ หรือแม้แต่กระทั่งพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ก็มีเหตุลักษณะทำนองเดียวกัน
ส่วนกรณีที่กลุ่ม กปปส.กับ นปช.จะชุมนุมใหญ่ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบนั้น ผบ.ตร.ได้ประชุมฝ่ายข่าว ผู้บัญชาการพื้นที่ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ในจุดเสี่ยงแล้ว ยืนยันว่าตำรวจเตรียมความพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงตามที่เป็นข่าว ตนขอยืนยันได้
