อุดรธานี - นพ.สสจ.อุดรธานีแถลงสถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พบผู้ป่วยแล้วกว่า 24 ราย ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 2 ราย แนะล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือในชุมชนหนาแน่น หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อ
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ห้องประชุมทองกวาว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายแพทย์สมิต ประสันนาการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้แถลงข่าวกรณีมีประชาชนเสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จังหวัดอุดรธานี ล่าสุด ณ 10 เม.ย. 2557 พบผู้ป่วยในประเทศไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-22 มี.ค. 57 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวน 23,899 ราย เสียชีวิต 24 ราย ทั้งหมดเสียชีวิตจากเชื้อ H1N1
ส่วนสถานการณ์จังหวัดอุดรธานีตั้งแต่ 1 ม.ค.-22 มี.ค. 57 พบผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่ ชนิด A H1N1/2009 จำนวน 24 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 4 ราย, อ.เพ็ญ 4 ราย, อ.วังสามหมอ 2 ราย, อ.สร้างคอม 1 ราย, อ.บ้านผือ 1 ราย, อ.ศรีธาตุ 1 ราย และ อ.หนองวัวซอ 1 ราย มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ ชนิด A H1N1/2009 จำนวน 2 ราย
ผลการสอบสวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A H1N1 เสียชีวิตที่ จ.อุดรธานี ผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 1 เพศหญิง อายุ 63 ปี ที่อยู่ 19 ม.3 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ผู้ป่วยไม่ได้ทำงาน อาศัยอยู่บ้านกับสามี อาชีพทำไร่ทำสวน ปฏิเสธโรคประจำตัว และไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยเริ่มป่วยวันที่ 27 มี.ค. 57 มารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ้านผือ ด้วยอาการไอ เหนื่อย ปวดศีรษะ แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วย วินิจฉัยปอดบวม
จนถึง 29 มี.ค. 57 ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น มีอาการหอบมาก เหนื่อยเพลีย จึงส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี แผนก ICU แพทย์วินิจฉัยปอดบวม ได้ใส่ท่อช่วยหายใจและเก็บตัวอย่าง Throat swab ส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์อุดรธานี ผลการตรวจวันที่ 2 เม.ย. 57 พบสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 57 เวลา 10.30 น.
ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 47 ปี ที่อยู่ 245 ม.1 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี อาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีโรคประจำตัว มีภาวะอ้วน น้ำหนัก 80 กก. ไม่มีประวัติได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ผู้ป่วยเริ่มป่วยวันที่ 22 มี.ค. 57 มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ไปรับการรักษาที่คลินิกเอกชนใน อ.ศรีธาตุ และคลินิกในหมู่บ้านได้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน จนถึงวันที่ 27 มี.ค. 57 เวลา 23.10 น. ด้วยอาการเหนื่อยเพลีย หายใจหอบ ไอ เสมหะเหนียว แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วย วินิจฉัยเบื้องต้นปอดบวม วันที่ 28 มี.ค. 57 ผู้ป่วยในมีอาการหอบมากขึ้น จึงส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี แพทย์วินิจฉัยปอดบวม รับรักษาที่ห้อง ICU และเสียชีวิตวันที่ 5 เม.ย. 57 เวลา 04.00 น.
นายแพทย์สมิตกล่าวต่อว่า โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ติดต่อได้โดยการไอหรือจามรดกันโดยตรง หรือติดต่อผ่านทางมือที่สัมผัสของปนเปื้อน เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โทรศัพท์ โต๊ะ เก้าอี้ แป้นคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน และเคาน์เตอร์ แล้วใช้มือแคะจมูก ขยี้ตา ปาก โดยไม่ได้ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลก่อน โดยมีอาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก อาจมีอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาจเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ต้องล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลเพื่อฆ่าเชื้อโรค หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือในที่ชุมชนหนาแน่น หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ปิดปาก ปิดจมูก ด้วยกระดาษทิชชูเมื่อไอจาม และล้างมือบ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด ช้อน ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ และติดตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วนไข้หวัดใหญ่ 20009 กระทรวงสาธารณสุข โทร. 1422
