จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำคณะหาช่องทางกระจายผลไม้เพิ่มในเวียดนาม พบทูตไทยประจำกรุงฮานอย เตรียมจัดโรดโชว์ผลไม้ ขณะที่แนวโน้มความต้องการ และกำลังซื้อในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ได้นำคณะนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังกรุงฮานอย ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อหาช่องทางการกระจายสินค้าผลไม้สดและผลไม้แปรรูปของจังหวัดจันทบุรีเพิ่มเติมจากเดิม และสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนชาวเวียดนาม และจีนที่จะเดินทางมาซื้อผลไม้ของเกษตรกรชาวจันทบุรีในช่วงฤดูการผลิตปีนี้
โดยคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เข้าพบนายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย และ น.ส.อุษา ไวยเจริญ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ รวมทั้งผู้ประกอบการชาวเวียดนามเพื่อรับทราบข้อมูล ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการนำสินค้าผลไม้จากจันทบุรีสู่ผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม และจีน
รวมทั้งหารือแนวทางการจัดโรด์โชว์ผลไม้ในกรุงฮานอย เพื่อประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์แก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคในเวียดนามที่นิยมบริโภคผลไม้สดจากจันทบุรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยข้อมูลหลังหารือกับเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอยว่า ทางผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ซื้อผลไม้จากจันทบุรีเป็นประจำได้ขอให้จังหวัดหาแนวทางช่วยเหลือการขยายเวลาการจ้างงานแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนาม เข้ามาเป็นแรงงานคัดแยกผลไม้ก่อนส่งออกไปขายในเวียดนาม และจีนเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ ในทุกปีจะมีผู้ประกอบการชาวเวียดนามเดินทางมาซื้อผลไม้ของเกษตรกรชาวจันทบุรีส่งออกมากกว่า 10 ราย โดยเฉพาะเจ๊เฟื่องผู้ประกบการรายหนึ่งในเวียดนาม ที่ยืนยันยังคงจะเดินทางมาซื้อผลไม้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และซื้อเพิ่มขึ้น
เนื่องจากพบว่า ความต้องการ และกำลังซื้อของชาวเวียดนาม และจีนมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ผลไม้ของจันทบุรี สามารถส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม มูลค่าหลายพันล้านบาท มีมังคุดส่งออกเป็นอันดับ 1 มูลค่าประมาณ 1,988.34 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง และกล้วยไข่ แต่ชาวเวียดนามนิยมบริโภคผลไม้สุกหวานตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องหาวิธีการส่งผลไม้ออกตอบสนองความต้องการให้ทันเวลาก่อนจะเน่าเสีย
รวมทั้งสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรที่จะเก็บผลไม้ส่งออกยังตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะทุเรียนชาวเวียดนามนิยมบริโภคทุเรียนสุกหวาน เปอร์เซ็นต์สูง ส่วน ลองกอง ก็เป็นที่สนใจแต่ทำอย่างไรถึงจะส่งออกได้ทันเวลา ถ้าทำได้ก็จะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จังหวัดจันทบุรี ได้รับความอนุเคราะห์จากเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย ร่วมกันจัดกิจกรรมงานแฟร์สินค้าผลไม้จันทบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์ สร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคในช่วงก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ และภายหลังเข้าพบเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอยเสร็จแล้ว คณะของจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการชาวเวียดนามที่ซื้อผลไม้ไทยมาจำหน่ายก่อนกระจายไปยังตลาดในประเทศเวียดนาม และจีนตอนใต้ ที่ตลาดลองเบียน กลางกรุงฮานอย ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผลไม้ทุกชนิด พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีรถขนส่งสินค้านำสินค้าผลไม้จากหลายแหล่งผลิตมาส่ง
หลังจากนั้น จะมีผู้ประกอบการชาวเวียดนาม และจีนจะซื้อไปจำหน่ายต่อซึ่งตลาดแห่งนี้จะกระจายสินค้าไปถึงมณฑลกวางสี ของจีน ที่มีระยะทางเพียงแค่ 178 กิโลเมตร รวมทั้งกระจายไปยังเมืองใกล้เคียงของฮานอย เช่น ไฮฟอง เวียนไต๋ ฮาลองเว งามดึ๋ง และเหออาน เป็นต้น
โดยการสำรวจตลาดส่งออกพบว่า ผู้ประกอบการชาวเวียดนามมีความต้องการผลไม้จากประเทศไทยสูง ถึงแม้ปัจจุบันทางเวียดนามตอนใต้จะมีผลผลิตทุเรียน เงาะ และมังคุดเหมือนจันทบุรี แต่รสชาติยังอร่อยไม่เท่าของไทย
โอกาสเดียวกันนี้ คณะของจังหวัดจันทบุรี ได้ศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เตรียมพร้อมประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยพบว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะชาวยุโรปที่นิยมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ศึกษาประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งในอนาคตจันทบุรี สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้
แต่ต้องประชาสัมพันธ์จุดเด่นให้นักท่องเที่ยวสนใจ สร้างความมั่นใจ จูงใจบริษัททัวร์นำเที่ยวเพื่อหาส่วนแบ่งการตลาด รวมทั้งชาวเวียดนามเองก็สนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวชมแหล่งผลิตผลไม้ในภาคตะวันออกของไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ได้นำคณะนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังกรุงฮานอย ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อหาช่องทางการกระจายสินค้าผลไม้สดและผลไม้แปรรูปของจังหวัดจันทบุรีเพิ่มเติมจากเดิม และสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนชาวเวียดนาม และจีนที่จะเดินทางมาซื้อผลไม้ของเกษตรกรชาวจันทบุรีในช่วงฤดูการผลิตปีนี้
โดยคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เข้าพบนายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย และ น.ส.อุษา ไวยเจริญ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ รวมทั้งผู้ประกอบการชาวเวียดนามเพื่อรับทราบข้อมูล ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการนำสินค้าผลไม้จากจันทบุรีสู่ผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม และจีน
รวมทั้งหารือแนวทางการจัดโรด์โชว์ผลไม้ในกรุงฮานอย เพื่อประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์แก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคในเวียดนามที่นิยมบริโภคผลไม้สดจากจันทบุรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยข้อมูลหลังหารือกับเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอยว่า ทางผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ซื้อผลไม้จากจันทบุรีเป็นประจำได้ขอให้จังหวัดหาแนวทางช่วยเหลือการขยายเวลาการจ้างงานแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนาม เข้ามาเป็นแรงงานคัดแยกผลไม้ก่อนส่งออกไปขายในเวียดนาม และจีนเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ ในทุกปีจะมีผู้ประกอบการชาวเวียดนามเดินทางมาซื้อผลไม้ของเกษตรกรชาวจันทบุรีส่งออกมากกว่า 10 ราย โดยเฉพาะเจ๊เฟื่องผู้ประกบการรายหนึ่งในเวียดนาม ที่ยืนยันยังคงจะเดินทางมาซื้อผลไม้เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และซื้อเพิ่มขึ้น
เนื่องจากพบว่า ความต้องการ และกำลังซื้อของชาวเวียดนาม และจีนมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ผลไม้ของจันทบุรี สามารถส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม มูลค่าหลายพันล้านบาท มีมังคุดส่งออกเป็นอันดับ 1 มูลค่าประมาณ 1,988.34 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง และกล้วยไข่ แต่ชาวเวียดนามนิยมบริโภคผลไม้สุกหวานตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องหาวิธีการส่งผลไม้ออกตอบสนองความต้องการให้ทันเวลาก่อนจะเน่าเสีย
รวมทั้งสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรที่จะเก็บผลไม้ส่งออกยังตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะทุเรียนชาวเวียดนามนิยมบริโภคทุเรียนสุกหวาน เปอร์เซ็นต์สูง ส่วน ลองกอง ก็เป็นที่สนใจแต่ทำอย่างไรถึงจะส่งออกได้ทันเวลา ถ้าทำได้ก็จะได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จังหวัดจันทบุรี ได้รับความอนุเคราะห์จากเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย ร่วมกันจัดกิจกรรมงานแฟร์สินค้าผลไม้จันทบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์ สร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคในช่วงก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ และภายหลังเข้าพบเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอยเสร็จแล้ว คณะของจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการชาวเวียดนามที่ซื้อผลไม้ไทยมาจำหน่ายก่อนกระจายไปยังตลาดในประเทศเวียดนาม และจีนตอนใต้ ที่ตลาดลองเบียน กลางกรุงฮานอย ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผลไม้ทุกชนิด พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีรถขนส่งสินค้านำสินค้าผลไม้จากหลายแหล่งผลิตมาส่ง
หลังจากนั้น จะมีผู้ประกอบการชาวเวียดนาม และจีนจะซื้อไปจำหน่ายต่อซึ่งตลาดแห่งนี้จะกระจายสินค้าไปถึงมณฑลกวางสี ของจีน ที่มีระยะทางเพียงแค่ 178 กิโลเมตร รวมทั้งกระจายไปยังเมืองใกล้เคียงของฮานอย เช่น ไฮฟอง เวียนไต๋ ฮาลองเว งามดึ๋ง และเหออาน เป็นต้น
โดยการสำรวจตลาดส่งออกพบว่า ผู้ประกอบการชาวเวียดนามมีความต้องการผลไม้จากประเทศไทยสูง ถึงแม้ปัจจุบันทางเวียดนามตอนใต้จะมีผลผลิตทุเรียน เงาะ และมังคุดเหมือนจันทบุรี แต่รสชาติยังอร่อยไม่เท่าของไทย
โอกาสเดียวกันนี้ คณะของจังหวัดจันทบุรี ได้ศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เตรียมพร้อมประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยพบว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะชาวยุโรปที่นิยมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ศึกษาประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งในอนาคตจันทบุรี สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้
แต่ต้องประชาสัมพันธ์จุดเด่นให้นักท่องเที่ยวสนใจ สร้างความมั่นใจ จูงใจบริษัททัวร์นำเที่ยวเพื่อหาส่วนแบ่งการตลาด รวมทั้งชาวเวียดนามเองก็สนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวชมแหล่งผลิตผลไม้ในภาคตะวันออกของไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน