กลุ่มบัวทองเผยปี 57 รุกขยายงานรับบริหารโครงการทั้งแนวราบ-สูงใน กทม.และปริมณฑล -ตจว. เพิ่ม 10-15 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายรวม 1,650 ล้านบาท หรือโต 10% แจงแผนธุรกิจพัฒนาโครงการปีนี้ผุด 2 โครงการใหม่ ราชพฤกษพิมาน มูลค่า 500 ล้านบาท และ พฤกพิมาน 5 กาญจนา-ลาดปลาดุก มูลค่า 360 ล้านบาท ระบุไตรมาสแรกตลาดอสังหาฯ น่าเป็นห่วง คาดไตรมาส 2 กลับสู่ภาวะปกติ
นายไพโรจน์ สุขจั่น ปรธานกรรมการกลุ่มบริษัท บัวทองพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า นโยบายการดำเนินงานของธุรกิจรับบริหารงานขาย และวางแผนการตลาดของบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัท บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ ในปี 2557 นี้ ตั้งเป้าว่าจะรับบริหารโครงการเพิ่ม 10-15 โครงการ โดยจะรับบริหารการขายทั้งโครงการแนวราบ และอาคารชุด ทั้งในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล รวมถึงตลาดต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ โดยตั้งเป้าว่าจะมีผลประกอบการโตต่อเนื่องจากเดิม 10% หรือมียอดขาย 1,650 ล้านบาท โดยมองว่าปีนี้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ราคาวัสดุก่อสร้างยังทรงตัว จะส่งผลให้การแข่งขันทางการตลาดลดความรุนแรงลง ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าตลาดได้ยากขึ้น
ส่วนแผนพัฒนาโครงการในปี 57 นี้ ในไตรมาสแรกคาดว่าจะสามารถเปิดโครงการใหม่ย่านจังหวัดนนทบุรี อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพฤกษ์พิมาน (ราชพฤกษ์-วงแหวน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่ 50-70 ตร.ว. มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ เน้นความเป็นโครงการสังคมคุณภาพแห่งใหม่ ของบริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และอีกโครงการคือ โครงการพฤกษ์พิมาน 5 (กาญจนา-ลาดปลาดุก) โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน พร้อมห้องพระ 1 ห้อง ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท พัฒนาโครงการโดยบริษัท บัวทอง เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรกของปีนี้ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยให้ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อในประเทศหดหายแบบเห็นได้ชัด นักลงทุนต่างชาติยังชะลอการลงทุนในประเทศ ผู้ประกอบการรายใหญ่ชะลอการเปิดโครงการใหม่ ทำให้โอกาสการเกิด Supply ล้นตลาดลดลง แต่คาดว่าในไตรมาส 2 ทุกอย่างจะดีขึ้น ผู้ประกอบการ และผู้ซื้อปรับตัวได้ จะกลับมามองหาที่อยู่อาศัยใหม่ตามปกติ และสำหรับนักลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าจะเก็บเงินไว้ในธนาคาร เพราะปีหน้าคาดว่า อัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง
“ผู้ประกอบการเองนอกจากจะเจอปัญหาเดียวกันกับผู้ซื้อ คือ สถาบันการเงินระมัดระวังการให้สินเชื่อแล้ว ยังมีเรื่องของภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาที่ดิน ค่าจ้างแรงงาน และวัสดุก่อสร้าง ที่ทำให้ต้องปรับราคาขึ้นตาม ที่สำคัญยังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อความล่าช้าในการก่อสร้าง รวมถึงคุณภาพของโครงการด้วย”
นายไพโรจน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหลายบริษัทเองยังต้องปรับลดเป้าหมายยอดขายลง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบันที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แต่ขณะเดียวกัน ก็มองว่ายังมีกำลังซื้อที่แท้จริงอยู่มาก ประกอบกับกระแสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกได้ไม่ยาก
สำหรับในปี 2556 ที่ผ่านมา กลุ่มบัวทองฯ ตั้งเป้าธุรกิจการรับบริหารงานขายและวางแผนการตลาด บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ และ บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ ว่าจะมียอดขายรวมที่ 1,500 ล้านบาท โดยสามารถสร้างยอดขายได้ 1,519 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตดีกว่าเป้า ส่งผลให้ผลการบริหารโตจากเดิม 15%
สำหรับธุรกิจพัฒนาโครงการในปีที่ผ่านมาของกลุ่ม บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ เป็นการขายโครงการ ทิพย์พิมาน กรีนวิลล์ เฟสต่อเนื่อง (ภายใต้การพัฒนาโครงการโดย บริษัท บัวทอง ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด) ซึ่งเป็นบ้านแฝด สไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว เปิดขายในราคา 2.89-3.5 ลบ. ปัจจุบันปิดเฟสแรก และเปิดขายเฟส 2 เน้นบ้านแบบ A 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ในทำเลด้านหน้าโครงการเพิ่มพื้นที่ให้กว้างขวางขึ้นเพื่อตอบรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น คาดว่าในปี 2557 นี้น่าจะสามารถปิดงานขายโครงการนี้ได้ ส่วนอีก 2 โครงการ คือ พฤกษ์พิมาน การ์เด้น (ราชพฤกษ์-วงแหวน) กับพฤกษ์พิมาน ๕ (กาญจนา-ลาดปลาดุก) จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในปี 2557 นี้