xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาอีสานฮึ่ม! นัดประท้วง "ปู" สัปดาห์หน้า - "นักธุรกิจสาวค้าเพชร" ทนไม่ได้บริจาคข้าวกว่า 3 ตันซับน้ำตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาเกษตรกรจังหวัดอุบลราชธานีเตรียมเคลื่อนสมาชิกร่วมประท้วงรัฐบาลสัปดาห์หน้า หลังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างจ่ายอยู่จำนวนมาก
ASTVผู้จัดการรายวัน - ชาวนาบุรีรัมย์ 3 อำเภอสุดทนหอบใบประทวนบุกร้องสภาทนายความจังหวัดฯ ยื่นฟ้องศาลปกครองดำเนินคดี "ยิ่งลักษณ์-รมต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง" กราวรูด 12 รายจี้ชดใช้เงินจำนำข้าวค้างจ่ายนาน 5 เดือนพร้อมดอกเบี้ยชำระหนี้ล่าช้า 7.5% ด้านสภาทนายฯเตรียมยื่นฟ้องสัปดาห์หน้า ทั้งจังหวัดค้างจ่ายกว่า 4 พันล้าน ด้านสภาเกษตรกรอุบลฯ เตรียมเคลื่อนสมาชิกร่วมประท้วงรัฐบาลสัปดาห์หน้า หลังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างจ่ายมาจ่ายให้ชาวนาได้ นักธุรกิจสาว "จิวเวลรีดัง" เมืองสองแคว" ทนไม่ได้ เปิดโครงการรับบริจาคข้าวสารได้กว่า 3 ตันช่วยชาวนา หลังได้รับผลกระทบรัฐเบี้ยวโครงการรับจำนำข้าว ยันไม่เกี่ยวข้องการเมือง

**ชาวนาบุรีรัมย์หอบใบประทวนฟ้อง"ปูเน่า"

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) ชาวนาจังหวัดบุรีรัมย์จาก 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองบุรีรัมย์, อ.ประโคนชัย และ อ.นาโพธิ์ กว่า 50 รายที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าว ได้นำเอกสารหลักฐาน ทั้งใบประทวนขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่นำข้าวเปลือกไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/57 และหลักฐานการจำนำข้าวกับทางรัฐบาล เข้ายื่นต่อสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ดำเนินคดีต่อนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมเป็น 12 จำเลยร่วม ให้รับผิดชอบต่อการผิดนัดชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวต่อชาวนา โดยรัฐบาลจะต้องชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดจากการชำระหนี้ล่าช้าในอัตรา 7.5% ให้ชาวนาจนกว่าจะชำระหนี้ได้

โดยชาวนาที่มาร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความฯในครั้งนี้ส่วนใหญ่ได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.56 จนถึงขณะนี้นานเกือบ 5 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินเฉลี่ยรายละตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายค่าปัจจัยการผลิต อีกทั้งไม่มีเงินไปชำระหนี้สินทั้งในและนอกระบบที่รุมเร้าจากกรณีที่รัฐบาลจ่ายเงินล่าช้า

นางมณี แดงสี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในชาวนาที่มายื่นร้องต่อสภาทนายความฯ ให้ช่วยเหลือในครั้งนี้ บอกว่า ได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือน พ.ย. 2556 ปีที่ผ่านมา รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 223,407 บาท แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปนานเกือบ 5 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินเลย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งค่าปัจจัยการผลิตที่ติดค้างไว้ และหนี้สินที่รุมเร้า จนทำให้เกิดความเครียดเพราะไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้

จากกรณีดังกล่าวจึงได้นำหลักฐานมายื่นร้องต่อสภาทนายความฯ ให้ช่วยเหลือฟ้องร้องเอาผิดรัฐบาล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้เร่งนำเงินที่ติดค้างมาจ่ายให้ชาวนา และรับผิดชอบดอกเบี้ยที่รัฐบาลผิดนัดชำระเงินล่าช้าด้วย เพราะโครงการดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล หากรัฐบาลไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาได้ก็ควรจะลาออกไปให้คนอื่นมาบริหารแทน

**สภาทนายฯ เตรียมยื่นฟ้องสัปดาห์หน้า

นายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภานายความ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จะได้เร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานของชาวนาที่นำมาร้องส่งไปยังสภาทนายความเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง จ.นครราชสีมา คาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนชาวนารายอื่นที่ยังไม่ได้รับเงินและต้องการให้สภาทนายความช่วยเหลือก็สามารถนำหลักฐานมายื่นร้องเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสภาทนายความตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ดำเนินการฟ้องร้องตามกระบวนการ โดยการดำเนินการฟ้องร้องชาวนาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทางสภาทนายความจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีเกษตรกรที่นำข้าวร่วมโครงการรับจำนำเปลือกปีการผลิต 2556/57 ของรัฐบาล และได้รับใบประทวนแล้วกว่า 82,236 ราย ปริมาณข้าวกว่า 290,000 ตัน ในจำนวนนี้ได้มีเกษตรกรที่นำใบประทวนมายื่นกับทาง ธ.ก.ส.แล้ว 64,650 ราย เป็นเงินกว่า 5,587 ล้านบาท ที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับเงินไปแล้วกว่า 1,500 ล้านบาท แต่ยังเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินอีกกว่า 4,000 ล้านบาท

**สภาเกษตรอุบลฯ นัดประท้วงสัปดาห์หน้า

ด้านนายประสิทธิชัย สมเพราะ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวนาในจังหวัดอุบลราชธานีว่า ขณะนี้มีการหารือจะส่งตัวแทนชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือก ไปร่วมชุมนุมกับพี่น้องชาวนาในภาคอีสาน ซึ่งจะออกมาเคลื่อนไหวในนามของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพราะชาวนาจำนวนมากยังไม่ได้รับเงิน

ส่วนชาวนาในอำเภอบุณฑริกและอีกหลายอำเภอที่เคยเคลื่อนไหวและจังหวัดรับปากจะมีเงินจัดสรรมาจ่ายเป็นค่าข้าวเปลือกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็ยังไม่ได้รับเงิน จึงจะมีการส่งตัวแทนชาวนาไปร่วมเคลื่อนไหวด้วย โดยคาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลในนามสภาเกษตรกรแห่งชาติภาคอีสานในสัปดาห์หน้า

ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.พ. 2557 ธ.ก.ส.ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่นำข้าวมาร่วมโครงการรับจำนำประจำฤดูกาลผลิต 2556/2557 จำนวน 87,821 ราย คิดเป็นมูลค่า 10,536.69 ล้านบาท และจ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้ว 26,737 ราย คิดเป็นเงิน 2,833.804 ล้านบาท คงเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจำนวน 61,084 ราย คิดเป็นยอดคงค้าง 7,702.88 ล้านบาท

**ชาวนาอีสานทยอยเข้าเมืองกรุงกดดันทวงหนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากสมัชชาเกษตรกรรายย่อยกำหนดเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลเพื่อทวงหนี้เงินค่าจำนำข้าวในสัปดาห์นี้ โดยให้เกษตรกรแต่ละพื้นที่เดินทางไปกรุงเทพฯ แบบกองทัพมด เพื่อป้องกันการถูกสกัดจากหน่วยงานภาครัฐและมวลชนฝ่ายรัฐบาล

นายประภาส ชมปากเกลี้ยง ผู้ประสานงานสมัชชาเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้มีชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวจำนวนมากต่างทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถไฟฟรี และรถประจำทางแบบกองทัพมด เพื่อเข้าไปสมทบที่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากกลุ่มชาวนาที่เข้ากรุงเทพมีพลังไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่จึงเข้าไปสมทบกับกลุ่ม กปปส.เพื่อช่วยอีกแรง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง การเข้าร่วมกับ กปปส.ครั้งนี้เพราะไม่มีทางเลือกอื่น

ส่วนกำหนดเคลื่อนไหวในพื้นที่กลุ่มสมัชชาเกษตรกรรายย่อย 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกอีก 16 จังหวัดจะร่วมกันประชุมวางแนวทางการเคลื่อนไหว พร้อมกับร่างพิมพ์เขียวปฏิรูปเกษตรกร ระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค.นี้ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งผลสรุปในที่ประชุมครั้งนี้จะใช้เป็นแนวทางการเคลื่อนไหวทั่วประเทศต่อไป

**สาวร้านเพชรดังเมืองสองแควทนไม่ได้
รับบริจาคข้าวกว่า 3 ตันซับน้ำตาชาวนา

วันเดียวกัน เวลาประมาณ 14.00 น. นายชาตรี อ่ำพูล แกนนำชาวนาพรหมพิราม ที่เคยนำชาวนามาประท้วงที่บริเวณสี่แยกอินโดจีน พร้อมชาวนาจากพื้นที่ ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ประมาณ 20 คน ได้เดินทางมารับมอบข้าวสารจำนวน 3,195 กิโลกรัม และน้ำดื่มดราก้อน พร้อมเงินจำนวนหนึ่งจาก น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ หรือ “น้องทราย” อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเพชร สีฟ้าเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ สาขา 1 เลขที่ 87/48 ถนนเอกาทศรฐ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นลูกสาวของนายธนเทพ ชีวสุทธิศิลป์ หรือ “หน่อย สีฟ้า” กับนางจิราภรณ์ ชีวสุทธิศิลป์ เถ้าแก่สีฟ้าเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ สาขา 2 เลขที่ 88 ถนนพระองค์ดํา อ.เมืองพิษณุโลก

น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ หรือ “น้องทราย” เปิดเผยว่า การมอบข้าวสารให้ชาวนาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้พบกับชาวนาจากพื้นที่ ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณียังไม่ได้รับเงินในโครงการจำนำข้าว จนต้องออกเดินเรี่ยไรขอรับบริจาคจากชาวเมือง เพื่อนำเงินไปซื้อข้าวสารแจกจ่ายชาวนาที่รออยู่ในหมู่บ้านอีกหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อน และตนมีโอกาสได้สอบถามพูดคุยถึงความเดือดร้อนของชาวนาแล้วรู้สึกเห็นใจ และตนทนไม่ได้ จึงได้รับเป็นสื่อกลางที่จะจัดโครงการรับบริจาคข้าวสารให้ชาวนากลุ่มนี้ขึ้นมา

ดังนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมาร้านสีฟ้าเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ อ.เมืองพิษณุโลก จึงได้จัดโครงการรับบริจาคข้าวสารเพื่อช่วยเหลือชาวนาขึ้นมาระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-5 มี.ค. 57 เพราะชาวนา ต้องประสบกับปัญหาไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว และต้องรวมตัวประท้วงเรียกร้องเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้มีจิตศรัทธาได้นำข้าวสารไปบริจาคกันมากมาย

"โครงการนี้แม้จะเป็นโครงการระยะสั้น แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคข้าวสาร และเงินมาจำนวนมาก โดยมีผู้นำข้าวสารมาบริจาคทั้งสิ้น 495 กิโลกรัม เงินสดจำนวนอีก 59,070 บาท โดยในส่วนของเงินสดทั้งหมดนั้น เมื่อได้รับบริจาคมาแล้วก็ได้นำไปซื้อข้าวสารได้ 2,685 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้าวสารอย่างดี รวมได้ข้าวสารทั้งสิ้น 3,195 กิโลกรัมเพื่อนำมอบแก่ชาวนา

ส่วนผู้ที่บริจาคมีมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งนักธุรกิจ พ่อค้า ข้าราชการที่เรารู้จักที่ต้องการที่จะช่วยเหลือชาวนา นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรด้วยกันก็ยังนำข้าวสารมาร่วมบริจาคด้วย จึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านทุกยอดเงินที่ร่วมบริจาคข้าวสารเพื่อช่วยชาวนาในครั้งนี้ด้วย" น.ส.นรีกล่าว พร้อมยืนยันว่า ที่จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการที่จะช่วยเหลือชาวนาเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ด้าน น.ส.วราภรณ์ กัญญา อายุ 30 ปี ชาวนารายหนึ่ง กล่าวว่า ชาวนาจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งตนเองและคนในหมู่บ้านได้มาเดินขอรับบริจาคจากคนในเมืองตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนของที่ได้รับบริจาคในครั้งนี้ก็จะนำไปช่วยเหลือแจกจ่ายชาวนาอีกหลายหมู่บ้านในอำเภอพรหมพิราม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป

**อัยการช่วย 22 ชาวนาชุดแรกฟ้องปู-พวก7ราย

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการได้รับมอบอำนาจจากนางลดาวัลย์ เนียมประยูร กับพวกรวม 22 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรทำนาใน จ.กาญจนาบุรี ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ที่ได้รับใบประทวนสินค้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการนโยบายข้างแห่งชาติ ( กขช.) , กระทรวงพาณิชย์ , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), องค์การคลังสินค้า (อคส.), องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-7 เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานทางปกครอง กระทำละเมิดผิดสัญญาทางปกครอง เพื่อให้ผู้ถูกฟ้องทั้ง 7 ราย ร่วมกันชำระเงินตามสัญญาจำนำข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตั้งแต่มูลค่าเสียหาย 19,632 - 342,704.36 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,738,992.65 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

นายปรเมศวร์ กล่าวย้ำว่า การที่อัยการมารับช่วยเหลือชาวนาในการยื่นฟ้อง จะไม่เป็นเรื่องที่ขัดกัน ต้องทำหน้าที่ว่าความแก้ต่างให้หน่วยงานรัฐ เพราะการปฏิบัติหน้าที่อัยการตั้งปณิธานดำเนินการอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.การดูแลคดีตามกฎหมาย 2.การดูแลผลประโยชน์ของรัฐ 3.การคุ้มครองสิทธิประชาชน เมื่อกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องที่ชาวนาไปโกงรัฐ แต่เป็นเรื่องการผิดสัญญาที่ต้องมีการเยียวยา

ดังนั้น เราต้องดูแลคุ้มครองสิทธิประชาชน ขณะที่หากฟ้องคดีแล้วถ้าหน่วยงานของรัฐจะให้อัยการมาช่วยว่าความก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะการทำหน้าที่ของอัยการจะเป็นเหมือนตัวกลางเสียอีก ที่จะทำให้หน่วยงานรัฐมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาวนาเพื่อจะจ่ายให้ครบตามจำนวน
ชาวนาบุรีรัมย์ 3 อำเภอสุดทน หอบใบประทวนบุกร้องสภาทนายความจังหวัดฯ ยื่นฟ้องศาลปกครองดำเนินคดี “ยิ่งลักษณ์-รมต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง” กราวรูด 12 ราย
น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ หรือ น้องทราย อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเพชร สีฟ้าเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ สาขา 1 เลขที่ 87/48 ถนนเอกาทศรฐ อ.เมืองพิษณุโลก ลูกสาวของนายธนเทพ ชีวสุทธิศิลป์ หรือ “หน่อย สีฟ้า” กับนางจิราภรณ์ ชีวสุทธิศิลป์ เถ้าแก่สีฟ้าเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ สาขา 2 เลขที่ 88 ถนนพระองค์ดํา อ.เมืองพิษณุโลก มอบข้าวสารจำนวน  3,195 กิโลกรัมใก้แก่ชาวนา

กำลังโหลดความคิดเห็น