ชาวนาบุกกรุงไม่ได้เงินไม่กลับ อิรักเลิกซื้อข้าว ผงะ!เปิดโกดังเจอกระสอบขึ้นราอื้อ

"ชาดา" อดีตส.ส.ชาติไทยพัฒนา นำทัพชาวนาอุทัยธานี-นครสวรรค์ ควบรถไถ-อีแต๊ก-อีแต๋นเข้ากรุงเทพฯ ขู่บุกสนามบินสุวรรณภูมิ ด้านชาวนาตัวจริงปิดตาย "พาณิชย์" ห้ามทำงาน "หมอวรงค์" เชื่อ "ปู" ถูกป.ป.ช.สอยแน่ กรรมซัด "อิรัก" ลูกค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทย จ่อเลิกนำเข้า เหตุคุณภาพห่วย-ไม่ปรับปรุงตามที่ขอ ด้านชายแดนแม่สอด พบกระสอบข้าวปริศนาของอคส.ส่งเข้าพม่า คาดขนกลับมาใส่โกดัง ตรวจข้าวอ.ต.ก.ปี 54/55 ที่สองแคว พบรอยด่างบนกระสอบเพียบ

ขณะที่ชาวนาหลายจังหวัดในภาคกลาง ชุมนุมปิดล้อมกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทวงเงินจำนำข้าวที่รัฐบาลค้างจ่ายมาหลายเดือนแล้ว ก็มีกลุ่มชาวนาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกหลายจังหวัด ที่ประกาศจะเดินทางลงมาสมทบที่กรุงเทพฯ ทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ และเวทีคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) โดยจะยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล หากไม่ได้เงินค่าจำนำข้าวนั้น

ทัพชาวนาอุทัยธานี-นครสวรรค์เข้ากรุง

บ่ายวานนี้ (19 ก.พ.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา นายมานพ ศรีผึ้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)นครสวรรค์ ร่วมกันอำนวยความสะดวกให้ขบวนรถอีกแต๊ก รถอีแต๋น รถไถนาของชาวนาจ.นครสวรรค์ เคลื่อนขบวนจากต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ไปตามถนนนครสวรรค์-กรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อทวงเงินจำนำข้าวจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ขณะเดียวกันชาวนาจ.อุทัยธานี ขบวนรถอีแต๊ก อีแต๋น และรถทางการเกษตรจากกว่า 400 หมู่บ้านใน 8 อำเภอ พร้อมรถบรรทุกสัมภาระรวมกว่า 800 คัน และชาวนากว่า 8,000 คน รวมตัวกันที่ศูนย์โอทอปเมืองพระชนกจักรี ต.หาดทะนง อ.เมือง จ.อุทัยธานี จนต้องปิดถนนสาย 333 ขาล่องเข้ากรุงเทพฯ ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ต่อมา นายชาดา พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง มาเป็นกำลังใจให้แก่ชาวนา ก่อนปล่อยขบวนออกเดินทางพร้อมกับชาวนาจากจ.นครสวรรค์ ไปตามถนนสาย 333 มุ่งสู่สายเอเชีย เข้ากรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าวันที่ 20 กุมภาพันธ์จะถึงกรุงเทพฯ และปักหลักชุมนุมจนกว่าจะได้เงินจำนำข้าว หากไม่ได้ก็พร้อมยกระดับเป็นการขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ต่อไป

จ่อบุก"สุวรรณภูมิ"ลั่นไม่ได้เงินไม่กลับ

นายชาดา กล่าวว่า ตนอาสานำชาวนาเดินทางไปทวงเงินด้วยตนเอง เนื่องจากสงสารชาวนา อันดับแรกจะไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นจะเดินสายทวงเงินไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายทวงเงินให้ได้จึงจะกลับบ้าน หากรัฐบาลไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ ให้มาคุยกับตนคนเดียว จะสอนวิธีหาเงินมาจ่ายให้ แต่ไม่แนะนำให้กู้ เพราะเชื่อว่าการกู้เงิน คือ การโกง

"ศักดิ์ศรีของชาวนาอุทัยธานี คือ สู้ไม่ถอย ไม่ได้เงินเราไม่กลับ ต้องให้รัฐบาลรู้ว่าเราคือลูกพระชนกจักรี ไม่เคยระรานใคร ไม่เกี่ยวข้องกับใคร โดยเฉพาะการเมือง แต่วันนี้รัฐบาลไม่เห็นคุณค่าของชาวนา เราจึงต้องทำเพื่อให้รัฐบาลไดรู้จักศักดิ์ศรีลูกพระชนกจักรี "
นายชาดา กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตน โดยเฉพาะทางด้านการเมืองนั้นช่างมัน หากเราถอยแม้แต่ก้าวเดียว ศักดิ์ศรีคนอุทัยธานีจะไม่เหลือเลย เงินค่าข้าวกว่า 3,000 ล้านบาทไม่ได้มากมาย ถ้าไม่คิดโกงก็ต้องจ่ายได้

ข่าวแจ้งว่า กลุ่มชาวนาจากจ.น่าน สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปราจีนบุรี จะเคลื่อนขบวนเข้าสมทบที่กรุงเทพฯ เพื่อทวงเงินจำนำข้าวด้วยเช่นกัน

"วรงค์"เชื่อ"ปู"ผิด-อีกเดือนถูกถอดถอน

ที่กระทรวงพาณิชย์ ชาวนาจากจ.นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สมุทรสาคร ทยอยเดินทางมาสมทบกับชาวนาที่พักค้างคืน เพื่อยกระดับการชุมนุมโดยปิดประตูเข้า-ออกกระทรวง ห้ามข้าราชการเข้าทำงานโดยไม่มีกำหนด ซึ่งนายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ พยายามเจรจากับนายระวี รุ่งเรือง แกนนำชาวนาภาคตะวันตก ขอให้ข้าราชการที่ดูแลงานเอกสารและระบบคอมพิวเตอร์เข้าทำงาน ขอรายชื่อแกนนำเพื่อติดต่อประสานงาน โดยทางกระทรวงจะส่งรายชื่อข้าราชการที่จำเป็นต้องเข้าทำงานให้กับแกนนำด้วย

เวลา 11.00 น. นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ มายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้กำลังใจชาวนา โดยกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต๊อกเพื่อนำเงินมาจ่ายชาวนา และต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน ถ้าทำไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องลาออก แล้วให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการแทน ซึ่งตนเชื่อว่าการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์มารับทราบการแจ้งข้อกล่าวหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการทุจริตในโครงการจำนำข้าววันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ผิดแน่นอน และคาดว่าไม่เกิน 1 เดือนจะชี้มูลได้ และต้องถูกถอดถอน จากนั้นอาจถึงขั้นหนีเหมือนพี่ชาย

ฝ่ายรัฐถก3ทางอุ้ม-"ยรรยง"โชว์ฝากธ.ก.ส.

วันเดียวกันนี้ นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย หารือกับสมาคมโรงสีข้าวไทย และกระทรวงพาณิชย์ และสรุปแนวทางช่วยเหลือชาวนา 3 แนวทาง คือ 1.เชิญชวนให้ชาวนาและประชาชนโยกบัญชีเงินฝากจากสถาบันการเงินอื่นมาฝากไว้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.)ทั่วประเทศ เพื่อให้ธ.ก.ส. มีเงินหมุนเวียนไปช่วยเหลือชาวนา 2.การจัดตั้งกองทุนชาวนาไทย และ 3.จัดตั้งธนาคารชาวนาไทย

นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทั้ง 3 แนวทางสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริง โดยเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ ก็คือ ระดมเงินฝากไปช่วยธ.ก.ส.ซึ่งเป็นธนาคารที่ช่วยชาวนา และตนเองก็จะโยกเงินจากบัญชีเงินฝากจาก 2 ธนาคารไปที่ธ.ก.ส.เช่นเดียวกัน ส่วนกองทุนชาวนาไทย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการบริจาค และกำลังเสนอรัฐบาลให้นำเงินภาษีที่จัดเก็บจากโรงสีในการขายข้าวให้ผู้ส่งออก และให้ผู้ส่งออกเป็นคนจ่ายมาสนับสนุน ซึ่งมีปีละหลายพันล้านบาท สำหรับธนาคารชาวนาไทย เป็นมาตรการระยะกลางและระยะยาว ซึ่งเชื่อว่าจะมีโรงสี ผู้ส่งออก และนักธุรกิจที่สนใจร่วมจัดตั้ง โดยให้ชาวนาถือหุ้นด้วย

"อิรัก"จ่อยกเลิกนำเข้าเหตุคุณภาพไม่ถึง

ข่าวแจ้งว่า ขณะที่รัฐบาลกำลังหาแนวทางหาเงินมาจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้ชาวนาที่ค้างจ่ายอยู่ 13 แสนล้านบาทนั้น คณะกรรมการธัญพืชแห่งชาติอิรัก โดยนายฮัสซัน อิบรอฮิม รักษาการอธิบดีหน่วยงานด้านการค้า กล่าวเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ว่า อิรักจะไม่ซื้อข้าวจากไทย จนกว่าจะมีการปรับปรุงคุณภาพ อย่างไรก็ตามยังไม่กำหนดวันเวลาที่ชัดเจน ในการเดินทางเยือนกรุงเทพฯ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย หลังจากระงับการสั่งซื้อข้าวจากไทย

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเมื่อปี 2556 อิรักเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวไทยมากเป็นอันดับ 2 โดยไทยกำลังหาช่องทางเพิ่มยอดขาย เพื่อระบายข้าวจากโครงการรับจำนำที่มีปริมาณมากเป็นประวัติการณ์ โดยมีข้าวคงเหลือถึง 1 ใน 3 ของความต้องการในตลาดโลก

นายอิบรอฮิม กล่าวว่า ตนได้แจ้งทางการไทยขอให้ปรับปรุงคุณภาพข้าว ตลอดจนความเที่ยงตรงของน้ำหนักข้าวที่ขายให้อิรักแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ทำตามข้อเรียกร้อง จึงไม่สามารถซื้อข้าวจากไทยได้อีกต่อไป

ผู้ส่งออกชี้ควรขายได้เพิ่ม3-4แสนตัน

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาของข้าวขาว 5% ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ได้ลดลงไป 23% เมื่อปีที่แล้ว และมาอยู่ที่ 460 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือราว 15,000 บาทในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ขณะที่ยอดการส่งออกโดยรวมของปีที่แล้วก็ลดลง 1.8% หรืออยู่ที่ 6.6 ล้านตัน ต่ำกว่ายอดส่งออกอินเดียและเวียดนาม ซึ่งไทยควรจะขายข้าวให้อิรักได้เพิ่มขึ้นอีก 3-4 แสนตันในปีที่แล้ว หากอิรักไม่ระงับการซื้อข้าวไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2556 และยังสูญเสียตลาดอิรักให้กับข้าวจากสหรัฐอเมริกา และอุรุกวัยที่มีราคาแพงกว่า โดยข้าวจากทั้ง 2 ประเทศ ราคาแพงกว่าข้าวไทยถึงตันละประมาณ 60 เหรียญสหรัฐ หรือ ราว 1,950 บาท

อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2556 สาธารณรัฐเบนินนำเข้าข้าวไทย 919,041 ตัน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และกลายเป็นผู้สั่งซื้อข้าวไทยอันดับหนึ่ง ขณะที่แอฟริกาใต้ก็เพิ่มยอดการสั่งซื้อ 14% ถือเป็นลูกค้าข้าวไทยรายใหญ่อันดับ 3 รองจากเบนิน และอิรัก

พบพระสอบข้าวปริศนาอคส.ปี55/56

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ว่ามีชาวบ้านพบกระสอบข้าวสารสภาพใหม่กว่า 50 ใบ ตกอยู่ตามเส้นทางลูกรังลงไปยังท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมย พบเป็นกระสอบป่านทอขนาด 100 กิโลกรัม มีตัวหนังสือพ่นไว้บนกระสอบทุกใบว่า HA03 อคส. ปี 55/56 และ 02/2555/2556 ชข หอมมะลิ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้ว พบว่ามีกระสอบลักษณะเดียวกัน ถูกส่งเข้าไปประเทศพม่า ปลายทางเลขที่ 147 เมืองเมาะละแหม่ง บางส่วนส่งไปกรุงย่างกุ้ง โดยมีพ่อค้าพม่าชื่อ "อูชิ่นเมียง" เป็นผู้ประสานงาน ว่าจ้างรถของคนไทยขนจากต.แม่ปะ อ.แม่สอด ไปส่งชายแดน ซึ่งทั้งหมดไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน คาดว่าขบวนการค้าข้าวนำไปบรรจุข้าวจากพม่า และลักลอบกลับมาสวมข้าวในโครงการรับจำนำ

แม่ค้าโห่ไล่"ตร."สอบชาวนาขอบริจาค

จ.พิษณุโลก ว่าหลังชาวนาต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม นำโดยนางศิรประภา กุคง ออกขอรับบริจาคเงิน ข้าวสารอาหารแห้งจากประชาชนในตลาดเทศบาล 6 ตลาดร่วมใจ เขตเทศบาลนครพิษณุโลก ปรากฏว่าตำรวจสายตรวจสภ.เมือง เข้ามาตรวจสอบ อ้างว่าได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มแอบอ้างเป็นชาวนามาขอเรี่ยไร คาดว่าจะเป็นชาวนาปลอม ขณะที่กลุ่มชาวนาพร้อมใจกันควักบัตรสินเชื่อเกษตรกร และใบประทวนมายืนยัน

ด้านพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเมื่อทราบข่าว ต่างพากันออกมาโห่ไล่ ตะโกนด่าทอตำรวจว่าไม่เห็นใจชาวนา แต่เมื่อตำรวจทราบเรื่องแล้ว ได้ให้ชาวนาเดินขอรับบริจาคต่อไป โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนต่างร่วมบริจาคจำนวนมาก

นางศิรประภา กล่าวว่า ชาวนาในตำบลเดือดร้อนมาก บางครอบครัวไม่มีข้าวสารติดบ้าน จึงชักชวนเพื่อนชาวนามาเดินขอบริจาคเงินและข้าวสารในเขตอ.พรหมพิราม นำเงินไปซื้อข้าวสารกระสอบละ 15 กิโลกรัม ราคาละ 335 บาท แจกให้กับชาวนาหมู่ 10 บ้านบึงธรรมโรง 115 ครอบครัว หมู่ 3 แจกไปแล้ว 65 ครัวเรือน หมู่ 13 แจกไปแล้ว 20 ครัวเรือน และมาขอรับบริจาคในเขตอ.เมือง เพื่อไปซื้อข้าวสารแจกเพื่อนชาวนาหมู่ 12 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

กระสอบข้าวโกดังสองแควรอยด่างอื้อ

นายประทีป ศิลปเทศ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล การค้าภายในจังหวัด ออกตรวจการระบายข้าวของโรงสีเกษตรไพศาลธัญกิจ จำกัด ที่เลขที่ 77หมู่ 7 ถนนพิษณุโลก-เด่นชัย ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นคลังสินค้ากลางโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/55 ขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร(อ.ต.ก.) ทั้งนี้เพื่อให้การระบายข้าวในสต๊อกเป็นไปด้วยความโปร่งใส เบื้องต้นพบว่าข้าวสารที่เก็บไว้ในโกดังกว่า 4 หมื่นกระสอบ นานกว่า 2 ปี มีรอยด่างบนกระสอบเห็นได้

นางอุบลรัตน์ กล่าวว่า รอยด่างไม่มีผลกับคุณภาพข้าว เนื่องจากกรมการค้าต่างประเทศ ได้เก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบคุณภาพแล้ว และผู้ที่จะซื้อได้มาตรวจสอบก่อนที่จะประมูล โดยเกิดขึ้นระหว่างรมยาฆ่ามอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ข้าวไม่ได้เสียหาย