ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผบก.เชียงราย พร้อมรองผู้บังคับการ จทบ.เปิดห้องประชุมลับกับสันติบาล - พงส.คดีคนติดป้ายแยก ปท. สะพัดภาพกล้องวงจรปิดเห็นชัดชาย-หญิง 6 คนใส่เสื้อแดง จอดปิกอัพข้างทางก่อนช่วยกันติดป้าย แถมรูปร่าง-ใบหน้าคล้ายคนนำมวลชนเคลื่อนไหวหนุนพรรค-กลุ่มการเมืองในพื้นที่ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเชียงราย เมินคำสั่ง ทบ.จับตาแผนตั้งกองกำลังแยกประเทศ ตระเวนตั้งโต๊ะรับการ์ดทุกหมู่บ้าน เครือข่าย กปปส.เชียงใหม่สั่งทำป้ายต้านแยกประเทศเพิ่ม เตรียมนำไปติดสี่แยกใหญ่ขาเข้าเมืองทุกทิศ พร้อมแจกธงชาติให้คนเชียงใหม่นำไปติดบ้านสัปดาห์หน้า พร้อมจวก "ธิดา" โกหกคำโต นปช.ไม่มีส่วนร่วมแบ่งแยกประเทศ
วันนี้ (5 มี.ค.) พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.อ.บัญชา ดุริยพันธ์ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย ได้หารือกับตำรวจสันติบาล และพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ร่วมกันแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ติดแผ่นป้ายที่มีข้อความแบ่งแยกประเทศข้อหา "ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร"
ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีกลุ่มบุคคลนำป้ายไวนิลขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 10 เมตร พื้นสีแดง ตัวหนังสือสีน้ำเงินขอบขาว ระบุข้อความว่า "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กูขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ไปติดที่สะพานลอยด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย เขตเทศบาลนครเชียงราย และสะพานลอยหน้าตลาดป่าก่อดำ ม.10 ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว เมื่อวันที่ 26 ก.พ.และท้องที่ อ.แม่ลาว เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามลำดับ
**ตั้งรอง ผบก.เชียงราย หน.ทีมดูแลในคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมลับ อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพเฉพาะช่วงแรกก่อนการหารือเท่านั้น จากนั้นได้มีการมอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวนในแต่ละพื้นที่สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา
มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่เสร็จเรียบร้อยแล้วและป้ายแต่ละจุดก็ได้มีการเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนบุคคลที่กระทำการนั้นมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ได้ภาพจากเอกชนรายหนึ่งในท้องที่เกิดเหตุ อ.เมืองเชียงราย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังการประชุมทางเจ้าหน้าที่ได้ขอเวลาในการคลี่คลายเรื่องราวไปอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้มีการแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีปอุษานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย เป็นหัวหน้าทีมในการดูแลในคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามรวมทั้งฝ่ายทหารได้แจ้งความให้ดำเนินคดีเอาไว้ ทั้งนี้คาดว่า จะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้คดีคลี่คลาย
พร้อมกันนั้นยังระบุด้วยว่า ภาพที่บันทึกได้ไม่มีความชัดเจนเต็ม 100% และอาจต้องให้หลายฝ่ายช่วยพิสูจน์ทราบ เพื่อระบุบุคคลได้ ขณะที่ทางเอกชนก็ให้ความร่วมมือในระดับหนึ่ง เพราะหากจะให้มีการสอบปากคำใดๆ จะต้องมีการแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ที่ส่วนกลาง เพื่อขออนุญาตก่อน
สำหรับคดีติดป้ายแยกประเทศดังกล่าวในท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย มี พ.ต.ต.คเชนทร์ เชิดชูตระกูลทอง สารวัตรป้องกันปราบปราม เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทาง พ.ต.ท.วิเชียร ใหม่ชัย พนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 2 มี.ค.57 ที่ผ่านมา และต่อมาวันที่ 3 มี.ค.57 จังหวัดทหารบกเชียงรายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมต่อ ร.ต.ท.ศรีเดช สุวรรณ์ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย
ส่วนที่ อ.แม่ลาว ทาง พ.ต.ท.สุบิน นันต๊ะรัตน์ สารวัตรเวรป้องกันปราบปราม สภ.แม่ลาว ได้เป็นผู้ร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.เปี่ยมโชค สายถิ่น สารวัตรเวรเมื่อวันที่ 28 มี.ค.57 และมีการรับเรื่องดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มี.ค.57 ก่อนที่ทางฝ่ายทหารจะแจ้งความเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟองฟู สารวัตรเวร สภ.แม่ลาว ในข้อหาเดียวกันทั้งหมดในวันที่ 3 มี.ค.57
**ภาพกล้องวงจรปิดเห็นชัด 6 คนใส่เสื้อแดง
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของภาคเอกชนบางส่วน หลุดออกไปสู่กลุ่มคนในวงจำกัด ซึ่งพบว่าคนที่ไปร่วมกันติดป้ายดังกล่าว เป็นชายและหญิงรวม 6 คนจากรูปร่างคาดว่าเป็นชายจำนวน 2 คน และหญิง 4 คน ส่วนใหญ่ใส่เสื้อแดง แม้จะมีคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีดำทับไว้ด้านนอก และอีกคนสวมหมวกสีน้ำตาล แต่ก็สามารถสังเกตได้ง่าย โดยมีเพียงชาย 1 คนที่ใส่เสื้อลายแดงส้ม และหญิงอีกคนใส่เสื้อยืดขาว
ทั้งนี้ ทั้งหมดมีพฤติการณ์นำรถยนต์กระบะไปจอดไว้ข้างทาง จากนั้นหญิงสวมหมวกใส่เสื้อแดงและใส่เสื้อแขนยาวสีดำอีกคนหนึ่ง ได้หอบป้ายไวนิลดังกล่าวขึ้นไปกลางสะพานลอย ก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันคลี่แผ่นป้ายออก และยื่นไปห้อยเพื่อให้ข้อความแสดงออกไปทางด้านนอกสะพานให้ผู้สัญจรผ่านไปมาบนถนน-ผู้เดินอยู่ข้างทางพบเห็นได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม โดยข้อเท็จจริงแล้ว หากมีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวต่อสาธารณะชน กลุ่มคนที่อยู่ในแวดวงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ จะทราบทันทีว่า ผู้ที่ลงมือติดป้ายไวนิลข้อความต้องการแยกประเทศล้านนา เป็นใครบ้าง เนื่องจากล้วนแต่เป็นบุคคลที่นำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนพรรค-กลุ่มการเมืองใหญ่ในพื้นที่เชียงรายทั้งสิ้น
**แดง ชร.เมินทบ.จับตากองกำลังแยก ปท.
ด้านกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ในเขตเลือกตั้งที่ 5 ประกอบด้วย อ.เทิง พญาเม็งราย เวียงแก่น เชียงของ และขุนตาล นำโดยนายสมรัตน์ ยาวิโล แกนนำกลุ่มแขวนแดงเพื่อประชาธิปไตย ได้นำรถขยายเสียงตระเวนออกตั้งโต๊ะรับสมัครอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย หรือ อพปช.ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้ทางกองทัพบกได้ให้กองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่มีการจัดตั้งกองกำลัง ขึ้นป้ายที่มีข้อความที่ส่อไปในทางแบ่งแยกดินแดนก็ตาม
นายสมรัตน์ กล่าวว่า การออกรับสมัครอาสาสมัคร อพปช.เป็นการรับสมัครการ์ดของคนเสื้อแดง เพื่อเป็นแนวร่วมในการออกมาปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้เป็นการจัดตั้งกองกำลังเพื่อก่อเหตุรุนแรง หรือมีแนวคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกระบอกเสียงไปสู่ภาคประชาชนให้ตระหนักถึงระบอบประชาธิปไตยที่ต้องเคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้งตัวแทนเข้าไปบริหารประเทศ ไม่ให้ใครมาแบ่งแยกดินแดน หรือใช้กฎหมู่เข้ามาบริหารจัดการประเทศโดยพลการ
"เรามีเป้าหมายที่จะให้มี อพปช.อย่างน้อยหมู่บ้านละ 2 คน ซึ่งในพื้นที่เขต 5 มีอยู่ 272 หมู่บ้านขณะนี้ดำเนินการรับสมัครเกือบครบ คาดว่าวันนี้อีกวันน่าจะเสร็จ จากนั้นทางกลุ่มก็จะไปช่วยกลุ่มอื่นๆ ในการเปิดรับสมัคร อพปช.ให้ครบตามเป้าหมาย หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
นายสมรัตน์ อ้างว่า ล่าสุดทางอำเภอและทหารได้เข้ามาบันทึกภาพ และเจรจากับทางกลุ่ม ซึ่งมีการชี้แจงเป็นที่เข้าใจว่าไม่ได้เป็นการแบ่งแยกดินแดนและละเมิดกฎหมาย ทำให้สามารถดำเนินการกิจกรรมต่อไปได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านความคืบหน้ากรณีตำรวจและทหารได้ดำเนินคดีต่อผู้ติดป้ายแบ่งแยกประเทศท้องที่ อ.แม่ลาว และ อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 57 ล่าสุดคณะกรรมการคลี่คลายคดีของตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพชายและหญิง 4-5 คน หนึ่งในนั้นร่างท้วม หนวดขาว ออกมาตรวจสอบ โดยให้ฝ่ายทหารได้ร่วมชี้ตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดีได้ถูกตัวต่อไปแล้ว
**กปปส.เชียงใหม่เล็งติดป้ายต้านทั่วทุกทิศ
นายภาณุพงค์ วีรตันตยาภรณ์ ผู้ประสานงาน กปปส.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงการติดป้ายต่อต้านการแยกประเทศเป็น สปป.ลานนา หรือ สปป.ล้านนาว่า หลังจากที่ทางกลุ่มได้ติดป้ายข้อความไวนีลพื้นสีธงชาติ พิมพ์ข้อความ "คนเชียงใหม่ จะไม่ยอมให้ใครมาแบ่งแยกแผ่นดินไทยโดยเด็ดขาด" พร้อมป้ายไวนีลพื้นสีดำ ข้อความ "แพงทั้งแผ่นดิน" ตามจุดเข้าเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่คืนวันที่ 3 มี.ค.เป็นต้นมาแล้ว
ล่าสุดจนถึงขณะนี้ป้ายดังกล่าวยังคงติดอยู่ ยังไม่พบว่ามีการรื้อป้ายดังกล่าวออกแต่อย่างใด จะมีบ้างที่มีคนมาพลิกป้าย เอาด้านหลังออก ทำให้ไม่เห็นข้อความบนป้าย
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่ม กปปส.เชียงใหม่ ยังได้สั่งทำป้ายไวนีลขนาดใหญ่ยาว 10 เมตร และกว้าง 1 เมตรจำนวนมาก เพื่อเตรียมนำไปติดสี่แยกไฟแดงแอร์พอร์ตพลาซ่า, สี่แยกหนองหอย และบริเวณสี่แยกดอนจั่น ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าเมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงทิศทางที่ชัดเจนว่าคนเชียงใหม่ไม่ต้องการแบ่งแยกประเทศ
นอกจากนี้ ในอาทิตย์หน้าจะมีการระดมแจกธงชาติให้ชาวเชียงใหม่ เพื่อให้นำไปติดที่บ้านเรือนของตนเอง แสดงความรักชาติด้วย
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวติดป้ายต่อต้านการแยกประเทศของ กปปส.เชียงใหม่เกิดขึ้นหลังมีกลุ่มบุคคลนำป้ายไวนีล พื้นสีแดง พิมพ์อักษรสีน้ำเงิน ขอบขาว ข้อความ "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ไปติดไว้บนสะพานลอยทางแยกดอนจั่น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนที่ มทบ.33 จะส่งนายทหารแจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในเวลาต่อมา
**ผู้ว่าฯ มั่นใจคนเชียงใหม่ไม่คิดแยกประเทศ
ด้านนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีกระแสความเคลื่อนไหวแบ่งแยกประเทศล้านนาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ทำการสำรวจตรวจสอบความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยการติดตั้งป้ายต่างๆ นั้น หากพบเห็นให้นำลงและเก็บให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นประเด็นปัญหาความขัดแย้งและลุกลาม ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายใดก็ตาม
โดยกรณีป้ายขอแบ่งแยกประเทศที่มีการติดตั้งที่แยกดอนจั่นเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 57 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่บอกว่าตนเป็นผู้ที่สั่งการให้นำป้ายดังกล่าวออกทันทีหลังจากที่ได้รับรายงานว่ามีการนำไปติดตั้งไว้ รวมทั้งยังได้สั่งการผ่านทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่นำป้ายดังกล่าวไปติดตั้งไว้
นายวิเชียร กล่าวว่า แนวความคิดเรื่องการแบ่งแยกประเทศที่เป็นกระแสข่าวอยู่ในเวลานี้นั้นน่าจะเป็นเพียงแนวความคิดของคนบางคนเท่านั้น ไม่ใช่ความคิดของคนเชียงใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าคนเชียงใหม่ไม่มีแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งแยกประเทศอย่างแน่นอน โดยทุกคนเป็นคนไทยที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จะแบ่งแยกไม่ได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวย้ำด้วยว่า หากพบการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยที่จะไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นการกระทำของฝ่ายใดก็ตาม ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจากกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่น่าจะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งจนนำไปสู่การใช้ความรุนแรง เนื่องจากคนเชียงใหม่ไม่ได้เป็นคนที่นิยมใช้ความรุนแรง
**จวก"ธิดา"โกหก ไม่มีส่วนแบ่งแยกดินแดน
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่เวทีปราศรัย กปปส.สวนลุมพินี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.ได้แถลงว่า การแบ่งแยกประเทศล่าสุดนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.ปฏิเสธว่า นปช.ไม่มีส่วนร่วมแบ่งแยกประเทศ และบิดเบือนข้อมูล โดยอ้างว่า สปป.ล้านนา ไม่ได้มาจากสาธารณรัฐประชาชนล้านนา แต่เป็นสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย หรือการอ้างว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นของบุคคลที่มีอารมณ์ขมขื่น ซึ่งการกล่าวอ้างของนางธิดาโกหก เพราะมีหลักฐานชัดเจน ปฏิเสธไม่ได้
เช่น คำว่า สปป.ล้านนาย่อมาจากสาธารณรัฐประชาชนล้านนา เมื่อกองทัพแจ้งความก็อ้างว่า สปป.ล้านนา มาจากสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนาที่ใช้ตัวย่อ สปล
อีกทั้งการที่ผู้ชุมนุมรอต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยใช้ผ้าโพกหัวคำว่า "สปป.ลานนา" เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามก็บอกว่า "สปป.ลานนา" ย่อจากคำว่า "สาธารณรัฐประชาชนล้านนา" และนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำรักเชียงใหม่ 51 ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ว่า แนวทางแบ่งแยกประเทศคุยมากว่า 6 เดือนแล้ว และเป็นไปได้สูง
รวมทั้งการปราศรัยของแกนนำ นปช.แพร่ บนเวที นปช.ลั่นกลองรบ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นหลักฐานผูกมัดว่ามีขบวนแบ่งแยกดินแดนจริง การกล่าวของนางธิดาเป็นการโกหก ปกปิดเบื้องลึกเรื่องนี้ จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการกับขบวนการเหล่านี้ และวันที่ 6 มี.ค.นี้ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส.จะไปยื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร.ให้ดำเนินการเรื่องนี้