ASTVผู้จัดการรายวัน-เผยป้ายไวนีลขอแยกประเทศ ลงชื่อ "โกตี๋ เรดการ์ด" โผล่ติดใกล้อนุสรณ์สถาน ถ.วิภาวดี คล้องหลัง "ประยุทธ์" สั่งแม่ทัพภาคที่ 3 ไปแจ้งความดำเนินคดีแค่ไม่กี่วัน ตำรวจยันแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว เผยพบกล้องวงจรปิด แฉมี 6 ชายหญิงใส่ชุดแดง ตัวการขึงป้ายแผ่นแรก กปปส.เชียงใหม่ขึ้นป้ายต้านแยกประเทศตอบโต้ แม่น้องเกดบุกถามจุดยืนกองทัพ ด้าน คปท. บุกปลดคำว่า "ไทย" จากป้ายพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวานนี้ (5 มี.ค.) ในเครือข่ายโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่ภาพป้ายผ้าไวนีลสีแดงถูกแขวนอยู่บนสะพานลอยย่านอนุสรณ์สถาน ถ.วิภาวดีรังสิต เขตบางเขน ใกล้สนามบินดอนเมือง โดยมีตัวหนังสือสีดำเขียนว่า "อยู่กันด้วยความสามัคคีไม่ได้...ก็แบ่งแยกกันอยู่... และตัวหนังสือสีขาวเขียนว่า “มึงกับกู...แยกแผ่นดินกันเลย.. ลงชื่อ โกตี๋ เรดการ์ด โดยมีรูปถ่ายนายนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี อยู่บนป้ายไวนีลด้วย
ทั้งนี้ ป้ายข้อความแบ่งแยกดินแดนดังกล่าว ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาติดไว้บนพื้นที่กรุงเทพฯ และเป็นการนำมาติดหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่สั่งให้แม่ทัพภาคที่ 3 แจ้งความจับพวกคิดแบ่งแยกประเทศไปก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ยังพบว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวุฒิพงษ์ได้ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ โดยปฏิเสธข่าวปลุกระดมผ่านสถานีวิทยุคนเสื้อแดงให้ไปจับตัว พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) และ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้การกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11 รอ.) และยืนยันว่า มีคนจัดทีมไล่ล่าตัวเองจริง ไม่เพียงแค่นั้น ยังกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า มีการตั้งบังเกอร์ทหารดูแลผู้ชุมนุม กปปส. แต่ในปี 2553 ไม่มี และเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกไล่ล่า ทำไมไม่มีการปกป้อง แต่มีการเอาผิดกับกลุ่ม สปป.ล้านนา พร้อมกับสบถว่า "วันนี้คุยกันดีๆ ไม่ได้แล้ว"
ทั้งนี้ นายวุฒิพงษ์ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า กลุ่มเสื้อแดงไม่ใช่ผู้ขึ้นป้ายแบ่งแยกประเทศ เพราะได้คุยกับกลุ่มเสื้อแดงในจังหวัดพะเยาก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายที่ชงเองกินเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ทางกองทัพบก ได้ออกมาระบุว่า พฤติกรรมข่มขู่ เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เหมือนเป็นการประกาศใช้ผู้อื่นกระทำผิดคุกคามต่อเสรีภาพผู้อื่น คุกคามเจ้าหน้าที่ด้วยการโฆษณา ซึ่งไม่เหมาะสม เป็นการแสดงออกความก้าวร้าว ทางกองทัพบกจะเร่งตรวจสอบ และพิจารณาดำเนินการให้ถึงที่สุด
***ติดตามความคืบหน้าปิดป้ายแยกประเทศ
วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.อ.บัญชา ดุริยพันธ์ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย ได้หารือกับตำรวจสันติบาล และพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ร่วมกันแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ติดแผ่นป้ายที่มีข้อความแบ่งแยกประเทศ ในข้อหา "ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร" หลังจากมีการปิดป้ายไวนิล ระบุข้อความว่า "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กูขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ไปติดที่สะพานลอยด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย เขตเทศบาลนครเชียงราย และสะพานลอยหน้าตลาดป่าก่อดำ ม.10 ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว เมื่อวันที่ 26 ก.พ.และท้องที่ อ.แม่ลาว เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมลับ อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพเฉพาะช่วงแรกก่อนการหารือเท่านั้น จากนั้นได้มีการมอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวนในแต่ละพื้นที่สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา
***ตำรวจเผยแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว
มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปราม ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว และป้ายแต่ละจุดก็ได้มีการเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนบุคคลที่กระทำการนั้นมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่ได้ภาพจากเอกชนรายหนึ่งในท้องที่เกิดเหตุ อ.เมืองเชียงราย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังการประชุมทางเจ้าหน้าที่ได้ขอเวลาในการคลี่คลายเรื่องราวไปอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้มีการแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีปอุษานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย เป็นหัวหน้าทีมในการดูแลในคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามรวมทั้งฝ่ายทหารได้แจ้งความให้ดำเนินคดีเอาไว้ ทั้งนี้ คาดว่า จะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้คดีคลี่คลาย
***เผยคนติดป้ายแผ่นแรกเป็นชาย-หญิง6คน
มีรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของภาคเอกชนบางส่วน ได้หลุดออกไปสู่กลุ่มคนในวงจำกัด ซึ่งพบว่าคนที่ไปร่วมกันติดป้ายดังกล่าว เป็นชายและหญิงรวม 6 คน จากรูปร่างคาดว่าเป็นชายจำนวน 2 คน และหญิง 4 คน ส่วนใหญ่ใส่เสื้อแดง แม้จะมีคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีดำทับไว้ด้านนอก และอีกคนสวมหมวกสีน้ำตาล แต่ก็สามารถสังเกตได้ง่าย โดยมีเพียงชาย 1 คนที่ใส่เสื้อลายแดงส้ม และหญิงอีกคนใส่เสื้อยืดขาว
ทั้งหมดมีพฤติการณ์นำรถยนต์กระบะไปจอดไว้ข้างทาง จากนั้นหญิงสวมหมวกใส่เสื้อแดงและใส่เสื้อแขนยาวสีดำอีกคนหนึ่ง ได้หอบป้ายไวนิลดังกล่าวขึ้นไปกลางสะพานลอย ก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันคลี่แผ่นป้ายออก และยื่นไปห้อยเพื่อให้ข้อความแสดงออกไปทางด้านนอกสะพานให้ผู้สัญจรผ่านไปมาบนถนน-ผู้เดินอยู่ข้างทางพบเห็นได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ได้มีการประเมินว่า หากมีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวต่อสาธารณะชน กลุ่มคนที่อยู่ในแวดวงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ จะทราบทันทีว่า ผู้ที่ลงมือติดป้ายไวนิลข้อความต้องการแยกประเทศล้านนาเป็นใครบ้าง เนื่องจากล้วนแต่เป็นบุคคลที่นำมวลชนออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนพรรคและกลุ่มการเมืองใหญ่ในพื้นที่เชียงรายทั้งสิ้น
**แดงเมิน ทบ.สั่งจับตากองกำลังแยกประเทศ
ด้านกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ในเขตเลือกตั้งที่ 5 ประกอบด้วย อ.เทิง พญาเม็งราย เวียงแก่น เชียงของ และขุนตาล นำโดยนายสมรัตน์ ยาวิโล แกนนำกลุ่มแขวนแดงเพื่อประชาธิปไตย ได้นำรถขยายเสียงตระเวนออกตั้งโต๊ะรับสมัครอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย หรือ อพปช.ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้ทางกองทัพบกได้ให้กองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่มีการจัดตั้งกองกำลัง ขึ้นป้ายที่มีข้อความที่ส่อไปในทางแบ่งแยกดินแดนก็ตาม
นายสมรัตน์กล่าวว่า การออกรับสมัครอาสาสมัคร อพปช.เป็นการรับสมัครการ์ดของคนเสื้อแดง เพื่อเป็นแนวร่วมในการออกมาปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้เป็นการจัดตั้งกองกำลังเพื่อก่อเหตุรุนแรง หรือมีแนวคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด
**กปปส.เชียงใหม่ติดป้ายต้านแยกประเทศทุกทิศ
นายภาณุพงค์ วีรตันตยาภรณ์ ผู้ประสานงาน กปปส.เชียงใหม่ กล่าวถึงการติดป้ายต่อต้านการแยกประเทศเป็น สปป.ล้านนา ว่า หลังจากที่ทางกลุ่มได้ติดป้ายข้อความไวนีลพื้นสีธงชาติ พิมพ์ข้อความ "คนเชียงใหม่ จะไม่ยอมให้ใครมาแบ่งแยกแผ่นดินไทยโดยเด็ดขาด" พร้อมป้ายไวนีลพื้นสีดำ ข้อความ "แพงทั้งแผ่นดิน" ตามจุดเข้าเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่คืนวันที่ 3 มี.ค.เป็นต้นมาแล้ว ล่าสุดจนถึงขณะนี้ป้ายดังกล่าวยังคงติดอยู่ ยังไม่พบว่ามีการรื้อป้ายดังกล่าวออกแต่อย่างใด จะมีบ้างที่มีคนมาพลิกป้าย เอาด้านหลังออก ทำให้ไม่เห็นข้อความบนป้าย
ทั้งนี้ กลุ่ม กปปส.เชียงใหม่ ยังได้สั่งทำป้ายไวนีลขนาดใหญ่ยาว 10 เมตร และกว้าง 1 เมตรจำนวนมาก เพื่อเตรียมนำไปติดสี่แยกไฟแดงแอร์พอร์ตพลาซ่า, สี่แยกหนองหอย และบริเวณสี่แยกดอนจั่น ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าเมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงทิศทางที่ชัดเจนว่าคนเชียงใหม่ไม่ต้องการแบ่งแยกประเทศ
***ผู้ว่าฯ มั่นใจคนเชียงใหม่ไม่เคยคิดแยกประเทศ
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีกระแสความเคลื่อนไหวแบ่งแยกประเทศล้านนาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ทำการสำรวจตรวจสอบความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยการติดตั้งป้ายต่างๆ นั้น หากพบเห็นให้นำลงและเก็บให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นประเด็นปัญหาความขัดแย้งและลุกลาม ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายใดก็ตาม
ส่วนแนวความคิดเรื่องการแบ่งแยกประเทศที่เป็นกระแสข่าวอยู่ในเวลานี้นั้น น่าจะเป็นเพียงแนวความคิดของคนบางคนเท่านั้น ไม่ใช่ความคิดของคนเชียงใหม่ทั้งหมด โดยเชื่อมั่นว่าคนเชียงใหม่ไม่มีแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งแยกประเทศอย่างแน่นอน โดยทุกคนเป็นคนไทยที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จะแบ่งแยกไม่ได้
***แม่น้องเกดบุกถามจุดยืนกองทัพ
ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ นางพะเยาว์ อัคฮาค แกนนำกลุ่มญาติวีรชน แม่ของน.ส.กมนเกด อัคฮาค หรือน้องเกด อาสาพยาบาล ที่เสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 เดินทางเข้ายืนหนังสือพร้อมมอบดอกไม้ให้กองทัพบก โดยมี พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกเป็นผู้รับมอบ
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า นางพะเยาว์ ได้สอบถามถึงการปฏิบัติงานของทหารในขณะนี้ และกรณีที่กองทัพภาคที่ 3 แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ประกาศจัดตั้ง สปป.ล้านนา โดยตนได้ชี้แจงไปว่า ทหารไม่ได้เลือกปฏิบัติ ทั้งการดูแลความสงบในพื้นที่กรุงเทพฯ และการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ประกาศจัดตั้ง สปป.ล้านนา
หลังจากนั้น นางพะเยาว์ ได้มอบดอกไม้ และฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่า อยากให้กองทัพเป็นของประชาชนทุกพวก ทุกฝ่าย
***"เหลิม"ขึงขังห้ามใครแบ่งแยกประเทศ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงกรณีการขึ้นป้ายแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนถาม พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ทราบว่า มีการไปร้องทุกข์กล่าวโทษจริง ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นแล้วยังไม่ปรากฎว่ามีการแบ่งแยกดินแดน แต่ตำรวจยังไม่หยุดยั้ง จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนตัวอยากรู้เหมือนกันว่าจะแบ่งอย่างไร ตนเป็นคนไทยคนหนึ่งก็รักประเทศ ไม่อยากให้ใครมาแบ่ง
***ซัดรัฐบาลไม่สนใจจัดการพวกนอกรีต
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ออกมาระบุว่า การดำเนินคดีกับผู้แบ่งแยกประเทศในข้อหากบฏ ให้จัดการกับกบฏในเมืองหลวงด้วยนั้น สะท้อนความไร้วุฒิภาวะของนายสุรพงษ์ เพราะคดีของ กปปส. มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลไม่เคยดำเนินการใดๆ กับผู้ที่คิดแบ่งแยกประเทศ จนกองทัพต้องไปแจ้งความ ขอฝากไปถึง นายสุรพงษ์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ให้ท้ายคนคิดแบ่งแยกประเทศ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถามว่าเป็นยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มาต่อรองกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้กบฏแบ่งแยกดินแดนมากดดัน ป.ป.ช.ใช่หรือไม่ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรียกร้องให้ทหารรื้อบังเกอร์ โดยอ้างว่าทำลายภาพลักษณ์ทั้งที่เป็นการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน จึงขอตั้งคำถามว่า ต้องการเปิดทางให้ชายชุดดำ มาทำร้ายประชาชนใช่หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีการซ่องสุมกำลังอาวุธด้วย จึงขอให้กองทัพตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
** อาจารย์-นิสิตจุฬาฯค้านแยกแผ่นดิน
ตัวแทนคณาจารย์ บุคลากร นิสิตคณะทันตแพทย์ศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ทญ.กอบกาญจน์ ทองประสม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้าน และประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ทวีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจควบคุมได้ จนถึงมีการเสนอแบ่งแยกดินแดน โดยนายสุรชัย รับว่า จะส่งหนังสือดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไป และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง และหันหน้าเจรจาหาทางออกร่วมกัน
**คปท.บุกปลดคำว่า"ไทย"จากป้ายพท.
ที่พรรคเพื่อไทย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และนายอุทัย ยอดมณี แกนนำกลุ่ม คปท. พร้อมมวลชน มาทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการแบ่งแยกประเทศไทย โดยนายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษก คปท. ได้ปราศรัยบนรถขยายเสียง ให้ผู้ชุมนุมนำเฉพาะคำว่า "ไทย" บนป้ายที่ทำการพรรคเพื่อไทยออก พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมานักการเมืองพรรคนี้ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากป้ายมีความแข็งแรง ทำให้ไม่สามารถดึงออกมาได้ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงนำป้ายที่มีข้อความว่า "หยุดขบวนการแบ่งแยกประเทศไทย" มาปิดทับป้ายที่ทำการพรรคแทน จากนั้นได้ท้าทายให้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย มาตั้งโต๊ะแถลงข่าว และดีเบตกัน
นายอุทัยกล่าวว่า กลุ่มคปท.จะไม่ยินยอมให้มีการแบ่งแยกประเทศไทยอย่างแน่นอน จะดำเนินการไล่ล่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมทั้งรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทุกคน ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปกรมสรรพสามิต ถนนนครชัยศรี เนื่องจากทราบว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการปฏิบัติงานอยู่จำนวนมาก จึงไปขอความร่วมมือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เลิกรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นครั้งที่ 3 และยืนยันว่า หากไม่ร่วมมือหยุดทำงาน จะกลับมาปิดอีก และจะวางแท่งแบริเออเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า
***กปปส.โคราช บุกไล่นปช. คิดแยกประเทศ
วันเดียวกันนี้ กปปส.นครราชสีมา กว่า 50 คน นำโดยทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเรียกร้องให้ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกอบจ.นครราชสีมา ปลด นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธาน นปช.นครราชสีมา ออกจากตำแหน่ง รองนายก อบจ.นครราชสีมา เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงคิดแบ่งแยกประเทศไทย เข้าข่ายก่อการกบฏในราชอาณาจักรและมีพฤติกรรมเข้าข่ายจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูง แต่ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ ไม่อยู่ นายกิตติ เชาว์ดี รองนายก อบจ.นครราชสีมา จึงลงมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแทน พร้อมรับปากที่จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ นายก อบจ.นครราชสีมา ต่อไป